ตึกเก่าบริเวณท่าช้าง หรือท่าช้างวังหลวง วันนี้กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการปรับปรุงใหม่ ซึ่งแม้จะยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ แต่ว่าก็เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวและผู้ที่สัญจรผ่านไป-มาในบริเวณนั้น เนื่องจากมีความสวยงามคลาสสิก ดึงดูดใจให้ยลโฉมในความงามไม่น้อยเลย
ตึกเก่าท่าช้าง บริเวณท่าช้างวังหลวง ตั้งอยู่สุดถนนหน้าพระลาน เขตพระนคร กรุงเทพฯ บริเวณนี้มีพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงก็มี วัดพระเชตุพนฯ และวัดระฆังที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
สำหรับ “ท่าช้างวังหลวง” หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกสั้นๆว่า “ท่าช้าง” เหตุที่เรียกย่านนี้ว่าท่าช้าง เพราะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ บริเวณนี้เป็นบริเวณประตูเมืองที่ใช้สำหรับนำช้างจากวังหลวง หรือพระบรมมหาราชวัง ออกมาลงอาบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงได้รับการเรียกขานว่า “ท่าช้างวังหลวง”
ต่อมาใน พ.ศ. 2351 รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระศรีศากยมุนีจากสุโขทัยมาทางแพเพื่อมาประดิษฐานที่วัดสุทัศนเทพวราราม และพักแพที่ท่าช้างวังหลวงเพื่อประกอบพระราชพิธีสมโภชเป็นเวลา 3 วัน แต่พระพุทธรูปไม่สามารถผ่านประตูเมืองบริเวณนี้ได้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้รื้อประตูและกำแพงบางส่วนออก แล้วสร้างประตูใหม่พระราชทานนามว่า “ประตูท่าพระ” ด้วยเหตุนี้ชื่อ “ท่าพระ” จึงเป็นอีกชื่อหนึ่งที่คนเรียกขานบริเวณนี้ แต่ว่าก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าชื่อดั้งเดิมอย่างท่าช้าง
มาวันนี้ ท่าช้างวังหลวง เป็นท่าเรือข้ามฟากตั้งอยู่สุดถนนหน้าพระลาน ซึ่งเอกชนได้เช่าจากกรุงเทพมหานครมาดำเนินการ ส่วนท่าพระใช้เรียกท่าเรือฝั่งตรงข้ามกับท่าช้างวังหลวง และยังเป็นชื่อวังที่ตั้งบริเวณท่าช้างวังหลวงซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ คือ “วังท่าพระ” ซึ่งปัจจุบันก็คือ “มหาวิทยาลัยศิลปากร” นั่นเอง
ท่าช้าง ในยุคนี้ พ.ศ.นี้ ถือเป็นท่าเรือสำคัญที่มีผู้สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก ทั้งเรือข้ามฟาก เรือด่วนเจ้าพระยา เรือนำเที่ยวคลองบางกอกน้อย และยังมีเรือนำเที่ยวล่องเจ้าพระยาข้ามจังหวัดจาก กทม.ไปถึงเกาะเกร็ดในจังหวัดนนทบุรี
ขณะที่ตึกเก่าท่าช้างวันนี้กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการปรับปรุงใหม่ ซึ่งแม้จะยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ แต่ว่าก็เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวและผู้ที่สัญจรผ่านไป-มาในบริเวณนั้น เนื่องจากมีความสวยงามคลาสสิก ดึงดูดใจให้ยลโฉมในความงามไม่น้อยเลย
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com