เทศกาลปีใหม่ ช่วงเวลาแห่งความสุข ในช่วงนี้วัดวาอารามต่างๆ คงจะคึกคักไม่แพ้ช่วงไหนๆ โดยเฉพาะที่ “วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร” อันเป็นที่ตั้งของ “พระธาตุพนม” อันศักดิ์สิทธิ์ บรรยากาศการท่องเที่ยวก็คงจะคึกคักมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะในปี 2559 นี้ ได้ตรงกับปีนักษัตร “วอก” (ปีลิง) ซึ่งพระธาตุพนมแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำปีวอก นักษัตรที่มีสัญลักษณ์เป็นลิง ที่มีอุปนิสัยฉลาด ร่าเริง คล่องแคล่ว
พระธาตุพนม ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม โดยเป็นพระธาตุที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระธาตุที่เก่าแก่มากที่สุดในแว่นแคว้นอีสาน ซึ่งได้ถูกจารึกไว้ในภาพจิตรฝาหนังภายในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
สำหรับประวัติการก่อสร้างพระธาตุพนมนั้น ได้ถูกกล่าวไว้ว่า พระธาตุพนมเป็นที่ประดิษฐาน พระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า ที่พระมหากัสสปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้ โดยองค์พระธาตุถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ประมาณปี พ.ศ. 8 โดยกษัตริย์ห้าองค์คือ พระยาจุฬณีพรหมทัต พระยานันทเสน พระยาอินทปัต พระยาคำแดง และพระยาสุวรรณภิงคาร พร้อมไพร่พล ในส่วนลวดลายที่เรือนธาตุนั้นตำนานเล่าว่าตกแต่งโดยพระอินทร์และเหล่าเทวดา มีแผ่นอิฐที่จำหลักลวดลายเป็นภาพกษัตริย์โบราณ ฝีมือช่างพื้นบ้าน ศิลปะสมัยทวารวดี หรือพุทธศตวรรษที่ 13-15 นับว่าเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่ของภาคอีสาน
หลังจากนั้นพระธาตุพนมได้รับการบูรณะและอุปถัมภ์เรื่อยมา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2485 วัดพระธาตุพนมฯ ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร และต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม ปีพ.ศ. 2518 เกิดฝนตกหนักบวกกับความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพระธาตุพนมจึงได้ทรุดพังทลายลง นำความเศร้าเสียใจมาสู่พุทธศาสนิกชน แต่ด้วยความศรัทธา องค์พระธาตุพนมจึงได้รับการบูรณะใหม่ซึ่งได้แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 โดยในปัจจุบันนั้น องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มียอดเป็นฉัตรทองคำ และมีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น
พระธาตุพนมนอกจากจะเป็นพระธาตุประจำปีวอกแล้ว ก็ยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิด ของผู้เกิดวันอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนมากมายทั่วทั้งสารทิศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะชาวไทยแต่เพียงเท่านั้น พระธาตุพนมก็ยังได้รับการเคารพจากพุทธศาสนิกชนชาวลาวอีกด้วย โดยจะมีการจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนม ในช่วงวันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ในงาประเพณีนี้จะมีการรำบวงสรวงองค์พระธาตุพนม โดยกลุ่มชาวพื้นเมืองของจังหวัดนครพนม ที่จะมาแสดงลีลาการร่ายรำอันงดงามอ่อนช้อยให้ได้ชม
ปัจจุบันนอกจากจะเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภาคอีสานแล้ว พระธาตุพนมก็ยังถือเป็นสถานที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วทั้งสารทิศ จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดนครพนม ในการเดินทางมาชมความงดงามขององค์พระธาตุและสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และภายในวัดพระธาตุพนมฯ ก็ยังมี “พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุพนม” ที่ได้จัดโบราณวัตถุอันเก่าแก่ที่เคยบรรจุอยู่ในพระธาตุพนมองค์เดิม รวมถึงผอบสำริดเก่าที่เคยบรรจุพระอุรังคธาตุไว้ให้ได้ชม ไปพร้อมกับกับการศึกษาประวัติศาสตร์ของพระธาตุพนมอีกด้วย
ในวารดิถีขึ้นปีใหม่นี้ การได้มาสักการระองค์พระธาตุพนม คงจะเป็นบุญไม่น้อย เพราะมีความเชื่อว่าหากได้นมัสการแล้วจะได้รับอานิสงส์ให้มีบุญบารมีและมีคนให้ความเคารพนับถือ ตามตำนานโหราศาสตร์ ที่กล่าวไว้ว่า พระอาทิตย์นั้นเป็นเทพที่ไว้ยศไว้ศักดิ์และเป็นที่เคารพนับถือ และผู้ที่เกิดปีวอกหากได้มาสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิตแล้วก็จะช่วยเสริมบุญบารมี และด้วยความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่ไม่เคยเสื่อมคลายมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน พระธาตุพนมก็คงจะตั้งสูงเด่นเป็นสง่าให้เหล่าชาวพุทธได้สักการะไปอีกนานเท่านาน
*****
พระธาตุพนม ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม โทร. 0-4251-3490-1
* * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com