โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
ในที่สุดวันและเวลาที่ไม่อาจจะหยุดได้ ก็ได้เดินทางเข้าสู่ช่วงปลายปี ซึ่งฉันก็คิดว่าช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่กรุงเทพฯ สวยงามที่สุดเพราะเป็นช่วงของเทศกาลแห่งความสุข นั้นก็คือ “เทศกาลคริสต์มาส” และ “เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่” และในช่วงนี้ทุกๆ ย่านในเมืองกรุงก็จะมีการประดับประดาแสงไฟหลากสีสันหลากหลายรูปแบบให้ได้ชม อีกทั้งในช่วงเวลานี้ก็ยังเป็นช่วงที่ลมหนาวได้พัดมาจากทิศเหนือ และได้ทำให้บรรยากาศในการเดินชมไฟในยามราตรีสุนทรีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
และในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ฉันจึงได้ตัดสินใจว่าจะไปเดินชมแสงสียามราตรีที่ “ย่านราชประสงค์” หนึ่งในย่านที่ใครๆ ก็รู้ว่าจะมีการประดับไฟไว้อย่างงดงามให้ได้ชมในช่วงนี้ของทุกปี แต่ก่อนที่จะไปเดินเที่ยวฉันก็จะขอเล่าประวัติคร่าวๆ ของย่านแห่งนี้ให้ได้ฟังกันก่อน ย่านราชประสงค์เป็นชื่อเรียกของบริเวณสี่แยกที่เป็นจุดตัดของถนนเพลินจิตและถนนราชดำริของเขตปทุมวัน ที่ถูกรายล้อมไปด้วยหมู่อาคารขนาดใหญ่ จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านกลางเมืองและเป็นศูนย์กลางการค้าและการชอปปิ้งของกรุงเทพมหานคร
อีกทั้งใครๆ ก็รู้ว่าที่ย่านแห่งนี้ ยังเป็นย่านที่ถูกเรียกว่า ย่านแห่งเทพเจ้า เพราะเป็นที่ตั้งศาลเทพเจ้ามากมาย อาทิ “ศาลท้าวมหาพรหม” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งอยู่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ใกล้กับโรงแรมเอราวัณ “ศาลพระตรีมูรติ” และ “ศาลพระพิฆเนศวร”ตั้งอยู่บริเวณห้างเซ็นทรัลเวิลด์และอิเซตัน "ศาลท้าวอัมรินทราธิราชเจ้า" หรือพระอินทร์ อยู่บริเวณศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า "ศาลพระแม่อุมาเทวี" ที่อยู่บริเวณด้านหน้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ หากใครที่มาเที่ยวย่านนี้ในช่วงนี้แล้ว ก็ได้จะได้ทั้งสักการะขอพรองค์เทพเจ้าและได้ชมแสงไฟยามค่ำคืนไปพร้อมๆ กัน อีกด้วย
เมื่อฉันมาถึง จุดแรกที่โดดเด่นสะดุดตาฉันมากที่สุด ก็คงจะเป็นบริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะมีต้นคริสต์มาสสูงตระหง่านอยู่ สำหรับต้นคริสมาสต์มาสนี้ เป็นสิ่งที่สื่อถึงเทศกาลคริสต์มาส หนึ่งในเทศกาลสำคัญของเหล่าคริสต์ศาสนิกชน โดยเป็นวันสมโภชพระคริสต์สมภพ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 25 ธันวาคม เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู
สำหรับบรรยากาศบริเวณโดยรอบต้นคริสต์มาสหน้าเซ็นทรัลเวิลด์นั้นถูกประดับไปด้วยแสงไฟหลากสีสันหลากหลายรูปแบบ และยังมีการนำหุ่นตัวการ์ตูนน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็น มิกกี้เม้าส์และผองเพื่อน เหล่าเพื่อนเจ้าหญิงดิสนีย์ และเจ้าหญิงเอลซ่า-อันน่า จากเรื่องโฟรเซ่นอันโด่งดัง มาจัดแสดงสร้างบรรยากาศให้งดงามคราสสิกยิ่งขึ้น และฉันก็ไม่พลาดที่จะเดินไปชมมุมนั้นมุมนี้พร้อมกับถ่ายรูปอัพลงโซเชียลอวดเพื่อนๆ ว่าปีนี้ฉันไม่พลาดที่จะชมแสงสีอันงดงามของยามราตรีช่วงปลายปี
หลังจากชมแสงไฟสวยๆ บริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เสร็จแล้ว ฉันก็เดินต่อไปที่สกายวอล์ก ที่ได้จัดแสงไฟหลากสีสันให้ได้ชมภายใต้ชื่องาน “เดอะ คิงดอม ออฟ ไลต์ 2” (Thailand The Kingdom of Light 2) โดยแสงไฟจะถูกจัดให้ชมช่วงทางเดินบริเวณหน้าศูนย์การค้าเกษรถึงเซ็นทรัล เวิลด์
เมื่อฉันเดินมาถึงจุดที่มาการจัดแสดงไฟ ฉันก็ได้เห็นอุโมงค์แสงที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า แสงไฟหลากสีสันส่องแสงเป็นแนวพุ่งตรงเหมือนดั่งดาวตก มองแล้วเหมือนฉันเดินอยู่ในหนังอวกาศ โดยในจุดนี้ฉันได้รู้มาว่า ได้มีการจัดไฟภายใต้แนวคิด ‘จุดประกาย ส่องแสง สะท้อนหัวใจไทย’ ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์เป็นหนึ่งในใจเดียวกัน เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ และข้ามผ่านไปสู่ปีใหม่ที่ดีไปพร้อมๆ กัน และหากใครอยากจะมาชมก็อย่าได้รอช้านะ เพราะจะมีการจัดแสดงไฟให้ได้ชมถึงวันที่ 5 มกราคม 2559
และฉันก็เดินลงไปสักการะองค์พระพรหมที่ “ศาลท่านท้าวมหาพรหม” ในจุดนี้มีการจัดแสดงแสงแบบไลต์ติ้ง พาวิลเลียน ที่มีการนำแสงไฟมาประดับและเนรมิตดวงไฟจนอันวิจิตรตระการตาทั้งด้านในและด้านนอก
นอกจากในจุดที่ฉันได้กล่าวมาแล้วนั้น ตามจุดต่างๆ บริเวณหน้าโรงแรมและศูนย์การค้าในพื้นที่ย่านราชประสงค์ ก็ยังมีการประดับไฟไว้อย่างสวยงามให้ได้ชมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นตามต้นไม้ มุมเสาต่างๆ ก็ถูกจัดตกแต่งด้วยแสงสีจากไฟ จนสวยงดงามตราตรึงใจ สวยกว่าช่วงเวลาไหนๆ ของปี
ฉันขอบอกเลยว่าช่วงเวลาปลายปีนี้ ย่านราชประสงค์เป็นหนึ่งในย่านที่น่ามาเดินชมเป็นอย่างมาก เพราะนอกกจากจะถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟที่งดงามอลังการแล้ว ก็ยังแวะสักการะองค์เทพเจ้าต่างๆ พร้อมกับสัมผัสลมเย็นๆ ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
*****
การเดินทาง : รถโดยสารประจำทาง สาย 2, 15, 16, 25, 40, 45, 48, 54, 73, 79, 204, 79, 29, 501, 508 หรือสามารถมาโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลมหรือสถานีสยาม และยังมาเรือโดยสารคลองแสนแสบ ลงท่าสะพานเฉลิมโลก สามารถเดินต่อมาได้ไม่ไกลมาก
********
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com