ตู้เย็นไม่สะอาด ระวังเจอ “แบคทีเรีย”

สมัยนี้ใครๆ ก็มักจะเก็บของกินไว้ในตู้เย็น ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ของสด ของแห้ง เนื้อสัตว์ต่างๆ หรือแม้แต่อาหารสำเร็จรูปที่ซื้อมาจากนอกบ้าน ก็มักจะเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อยืดอายุของอาหารให้สามารถเก็บไว้กินได้อีกหลายวัน จะเรียกว่าตู้เย็นนั้นเป็นเครื่องใช้ประจำบ้านที่ต้องมีประจำกันทุกครัวเรือนเลยก็ว่าได้

แต่ใครที่ชอบเก็บผัก ผลไม้ หรืออาหารไว้ในตู้เย็นจนหมดอายุ เริ่มเน่า หรือราขึ้น ต้องระวังเอาไว้ให้ดี เพราะอาหารที่เน่าเสียเหล่านั้นจะเป็นบ่อเกิดของแบคทีเรียตัวร้ายที่จะมาอาศัยอยู่ในตู้เย็น ซึ่งเจ้าแบคทีเรียตัวนี้มีชื่อว่า “ลิสเทอเรีย” (Listeria monocytogenes) ที่สามารถเจริญได้ดีที่อุณหภูมิตู้เย็น โดยเฉพาะเมื่อมีการเก็บรักษาอาหารไม่ถูกวิธี ก็จะทำให้แบคทีเรียยิ่งเจริญเติบโต และหากแบคทีเรียนั้นเข้าสู่ร่างกาย ก็อาจทำให้เกิดอาการหนาวสั่น เป็นไข้ ปวดหัว และปวดท้องได้ นอกจากนี้ การได้รับเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายของคนก็จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตถึงร้อยละ 30

ดังนั้นหากไม่อยากให้เกิดแบคทีเรียมาปนเปื้อนกับอาหารที่เรากินเข้าไป ก็จะต้องระมัดระวัง โดยหากเป็นผักสดควรเก็บไว้ประมาณ 3-4 วัน เนื้อสัตว์สดเก็บได้ประมาณ 5 วัน และหากจะนำมาประกอบอาหารก็ต้องล้างให้สะอาดก่อน ส่วนอาหารที่ปรุงสุกแล้วควรกินให้หมดไม่ควรแช่ตู้เย็น แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องปิดฝาให้เรียบร้อยแล้วจึงนำเข้าตู้เย็น ที่สำคัญก็คือต้องทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ อย่าให้มีของเหลือค้างเป็นดีที่สุด

นอกจากการทำความสะอาดตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำก็คือ การแบ่งสัดส่วนของตู้เย็นให้ถูกต้อง เพราะตู้เย็นในแต่ละส่วนนั้นมีอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และเหมาะกับการเก็บรักษาอาหารที่แตกต่างกันด้วย อาทิ บริเวณประตูตู้เย็นชั้นบนสุด เหมาะกับการเก็บไข่สด โยเกิร์ต และนมเปรี้ยว, ชั้นใต้ช่องฟรีซ เหมาะกับการเก็บพวกลูกชิ้น ไส้กรอก เป็นต้น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com