โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
“ดอกบัวตองนั้นงามอยู่บนยอดดอย”
ทุกๆ ปีเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงราวเดือน พ.ย.-ธ.ค. มวลหมู่บัวตองในภาคเหนือจะพากันออกดอกเบ่งบานเหลืองอร่ามสดใสดูสบายตา
สำหรับจุดชมทุ่งดอกบัวตองแหล่งใหญ่ขึ้นชื่อเป็นเบอร์หนึ่งในบ้านเราก็ต้องยกให้ “ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ” อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ที่ได้ชื่อจุดชมทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
นอกจากนี้ ที่แม่ฮ่องสอนยังมีจุดชมทุ่งดอกบัวตองอันสวยงามน่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง คือ ที่ “ดอยแม่เหาะ” อ.แม่สะเรียง ซึ่งมีทุ่งดอกบัวตองในรูปแบบเฉพาะตัวให้ได้สัมผัสทัศนาชื่นชมในความงามกัน
โดยทั้งดอยแม่เหาะ และแม่อูคอ เราสามารถออกตะลอนเที่ยวเชื่อมโยงชมความงามได้ในเส้นทาง “แม่สะเรียง-ขุนยวม” ซึ่งเมื่อปีที่แล้วผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับความงามของทุ่งดอกบัวตองทั้งสองแห่งมา และยังคงความประทับใจอยู่ จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังรับเทศกาลทุ่งดอกบัวตองที่กำลังเบ่งบานอยู่ในเวลานี้
ดอยแม่เหาะ
แรกเริ่มเดิมทีผมไม่รู้ว่าที่ดอยแม่เหาะมีทุ่งดอกบัวตองแสนงามอยู่ แต่เมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวพิชิต 1,864 โค้ง บนถนนสาย 108 ในเส้นทาง “ฮอด-แม่ฮ่องสอน” จึงได้พบกับอีกหนึ่งความงามแปลกใหม่ที่น่าประทับใจกระไรปานนั้น
ถนนสาย 108 มีจุดเริ่มต้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ อ.หางดง, สันป่าตอง, ดอยหล่อ อ.จอมทอง ก่อนจะเข้าสู่ “อ.ฮอด” (จ.เชียงใหม่) ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ “โค้งแรก” ใน 1,864 โค้ง
สำหรับอำเภอฮอดวันนี้เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่พอหน้าหนาวมาเยือนทีไร ผมมักคิดฮอดอำเภอฮอดอยู่เสมอ เพราะนี่เป็นหนึ่งในอำเภอที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ คือ “อุทยานแห่งชาติออบหลวง” กับความแปลกตาของธรรมชาติลักษณะพิเศษเฉพาะตัว และ “สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว” หรือ “สวนสนบ่อแก้ว” กับบรรยากาศสวนสนแสนสวยที่ได้รับฉายาว่าเป็นดัง “เกาะนามิเมืองไทย”
จาก อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เมื่อเดินทางต่อไปก็จะเข้าเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน สู่ “อ.แม่สะเรียง” ในช่วงหลัก กม.ที่ 83-85 (ก่อนถึงตัว อ.แม่สะเรียง ประมาณ 19 กม.) ถนนบริเวณนี้จะดูเหลืองอร่ามไปด้วยดอกบัวตองที่บานเรียงรายประดับสองข้างทาง
ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะ มีจุดชมหลักๆ อยู่ที่บริเวณที่ทำการ อบต.แม่เหาะ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเข้าถึงง่าย ทำให้หลายๆ คนมักจะแวะไปชมทุ่งดอกบัวตองแค่ริมทาง หรือแค่แวะถ่ายรูปด้านหน้าแล้วก็จากไปแบบง่ายๆ โดยหารู้ไม่ว่าหากเสียเวลาเพิ่มอีกนิดหน่อย เดินตามเส้นทางเข้าไปชมข้างในอีกไม่กี่ 10 เมตร ก็จะได้พบกับ“อุโมงค์ดอกบัวตองดอยแม่เหาะ” อันทรงเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ดูน่าตื่นตาตื่นใจ
อุโมงค์ดอกบัวตองดอยแม่เหาะมีลักษณะเป็นดงดอกบัวตองต้นสูงใหญ่ ที่ต่างพากันออกดอกขนาดใหญ่ชูช่อเบ่งบานอยู่เหนือศีรษะให้เราสัมผัสได้กันอย่างใกล้ชิด และสามารถเดินลอดเข้าไปถ่ายรูปในซุ้มอุโมงค์ดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามได้ตามอัธยาศัย ในมุมใครมุมมัน สไตล์ใครสไตล์มัน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์นางแบบ สไตล์ฮิปเตอร์ สไตล์เบลอๆ สไตล์ฟรุ้งฟริ้ง หรือสไตล์ติดบัตร ก็สามารถเลือกสรรหามุม จัดสไตล์ท่าทางกันได้ตามใจชอบ
แต่ต้องไม่ไปทำให้ดอกบัวตองเสียหายหักหลุดเป็นอันขาด!!!
นอกจากซุ้มอุโมงค์ดอกบัวตองแล้ว ที่นี่ยังมีบัวตองดอกใหญ่ๆ ออกดอกกระจายให้ชมกันทั่วไป โดยเฉพาะดอกบัวตองที่อยู่ริมสนามกีฬาของ อบต.นี่ถือว่าเป็นสนามกีฬาที่ริมสนามเต็มไปด้วยสีเหลืองอร่ามดูฟรุ้งฟริ้งเท่ไม่เบา
นับได้ว่าดอยแม่เหาะเป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกบัวตองอันน่าสนใจยิ่ง ถึงแม้ทุ่งดอกบัวตองที่นี่จะเป็นฉบับกะทัดรัดไม่ได้ใหญ่โตอลังการ แต่ว่าทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะก็น่ายลไปด้วยความงามอันทรงเสน่ห์
โดยเฉพาะกับซุ้มอุโมงค์ดอกบัวตองอันสวยงามเป็นเอกลักษณ์ชวนให้ประทับใจไม่น้อยเลย
แม่สะเรียง
จากดอยแม่เหาะ ผมเดินทางเข้าสู่ตัวอำเภอแม่สะเรียงเพื่อปักหลักพักค้างก่อนออกเดินทางสู่ดอยแม่อูคอในวันถัดไป
แม่สะเรียงเป็นอำเภอเล็กๆ อันสงบงาม ถือเป็นจุดพักระหว่างทางที่วันนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมเดินทางมาพักสัมผัสกับบรรยากาศชิลๆ สงบ ไม่พลุกพล่าน
ในตัวเมืองแม่สะเรียง นอกจากบรรยากาศของสายน้ำ ทุ่งนา บ้านเรือน และวิถีชุมชนอันทรงเสน่ห์แล้ว ก็ยังมีวัดวาอารามต่างๆ ให้เที่ยวชมกัน นำโดย 2 วัดสำคัญ คือ“วัดจองสูง” (วัดอุทธยารมย์) กับ“วัดศรีบุญเรือง” ที่รั้วของทั้งสองวัดอยู่ติดกัน สามารถเดินทะลุไปมาหาสู่กันได้ โดยวัดจองสูงจะโดดเด่นไปด้วยพระธาตุเจดีย์เก่าแก่อันสวยงามคลาสสิก
ส่วนวัดศรีบุญเรืองนั้นเป็นวัดที่งดงามไปด้วยลวดลายฉลุไม้ในหลายๆ จุดของวัด ขณะที่ภายในโบสถ์นั้นก็ดูงดงามไปด้วยพระพุทธรูปศิลปะไทยใหญ่และพม่าอันขรึมขลังมลังเมลืองเปี่ยมศรัทธา
ในเมืองแม่สะเรียงยังมี “พระธาตุ 4 จอม” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นของอำเภอแห่งนี้ เพราะเมืองแม่สะเรียงนั้นได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งพระธาตุ 4 จอม” เพราะมีการสร้างพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองไว้ ณ 4 มุมเมือง คือ “พระธาตุจอมกิตติ”, “พระธาตุจอมทอง”, “พระธาตุจอมแจ้ง” และ “พระธาตุจอมมอญ” ซึ่งพระธาตุทั้งสี่นั้นอยู่ไม่ไกลกันมากนัก สามารถเดินทางไปกราบไหว้ได้อย่างสบายๆ
นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้วตรงหัวมุมถนนทางเข้าสู่ตัวเมืองแม่สะเรียงยังเป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง” ที่โดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมไทยใหญ่อันงดงาม ภายในบอกเล่าประวัติความเป็นมาของแม่สะเรียง พร้อมข้าวของเครื่องใช้ศิลปวัตถุน่าสนใจอันบ่งบอกถึงวิถีแห่งแม่สะเรียง
แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ พิพิธภัณฑ์หลังนี้ได้ถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง
นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และน่าเศร้าใจไม่น้อย...
ดอยแม่อูคอ
หลังพักค้างและเที่ยวแม่สะเรียงกันอย่างจุใจแล้ว วันรุ่งขึ้นผมออกเดินทางต่อผ่าน อ.แม่ลาน้อย สู่ อ.ขุนยวม เพื่อไปชมทุ่งดอกบัวตองอันสวยงามสุดอลังการกันที่ “วนอุทยานดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ” อันขึ้นชื่อลือชา
ทุกๆ ปีบนดอยแม่อูคอจะมีการจัด “เทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ” ขึ้น ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม โดยช่วงที่ดอกบัวตองบานเต็มที่จะอยู่ประมาณหลังวันที่ 15 พ.ย.เป็นต้นไป และจะบานเต็มที่ไปประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนจะค่อยๆ เหี่ยวร่วงโรยไป แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศของแต่ละปีด้วย
บัวตอง หรือ Maxican Sunflower weed เป็นพืชในตระกูลทานตะวันขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโก และทวีปอเมริกากลาง มีข้อมูลว่าบัวตองเดินทางข้ามทวีปมาที่เมืองไทยด้วยการนำเข้ามาของมิชชันนารีที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนา และได้นำเมล็ดบัวตองเข้ามาหว่าน จนวันนี้มีบัวตองขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วไทย
สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันนอกจากจะมีดอกบัวตองเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกบัวตอง เพราะเมื่อถึงฤดูกาลทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอจะพร้อมใจกันเบ่งบานย้อมขุนเขาทั้งลูกเป็นเป็นสีเหลืองสดใส จนหลายคนขนานนามให้ที่นี่เป็น “ขุนเขาสีทอง” อันขึ้นชื่อลือลั่น
ปัจจุบันทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอมีเนื้อที่กว่า 500 ไร่ ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ซึ่งทาง ททท.ได้ยกให้ “ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ” เป็นหนึ่งในไฮไลต์จุดชมดอกไม้ประจำเดือน พ.ย. จากโครงการ “Dream Destinations 2 กาลครั้งนั้น ความฝันผลิบาน” ที่เป็นการคัดสรร 22 เส้นทางดอกไม้งามทั่วเมืองไทยมานำเสนอ ชวนให้ผู้สนใจได้ไปเที่ยวกัน
อย่างไรก็ดี เมื่อหลายๆ ปีก่อน ช่วงที่ทุ่งดอกบัวตองเริ่มเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ได้มีนักวิชาการบางคนออกมาค่อนขอดและจุดกระแสว่า บัวตองเป็น “พืชเอเลี่ยน” ที่จะเข้ามาสร้างความเสียหายให้แก่พืชพันธุ์ในบ้านเรา
แต่ดูเหมือนประเด็นนี้จะไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีข้อมูลแย้งว่าถึงคุณประโยชน์ของดอกบัวตองว่าที่ดอยแม่อูคอว่า วันนี้ทุ่งดอกบัวตองได้เปลี่ยนสภาพของดอยแม่อูคอ จากอดีตหุบเขาหัวโล้นแล้งโล่งเตียนเมื่อหลายสิบปีก่อน ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นโด่งดังขึ้นมา
ส่งผลให้วันนี้ทุ่งดอกบัวตองได้กลายเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ดาวเด่นประจำช่วงหน้าหนาว ที่เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชม สร้างรายได้สร้างงาน สร้างเม็ดเงินให้แก่แหล่งชมทุ่งดอกบัวตองต่างๆ ได้ไม่น้อยเลย
*****************************************
“เทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ” ปีนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 พ.ย. - 10 ธ.ค. 58 ณ ดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อ.ขุนยวม 0-5369-1110 เทศบาล ต.ขุนยวม 0-5369-1019 และ ททท.แม่ฮ่องสอน 0-5361-2982-3
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com
“ดอกบัวตองนั้นงามอยู่บนยอดดอย”
ทุกๆ ปีเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงราวเดือน พ.ย.-ธ.ค. มวลหมู่บัวตองในภาคเหนือจะพากันออกดอกเบ่งบานเหลืองอร่ามสดใสดูสบายตา
สำหรับจุดชมทุ่งดอกบัวตองแหล่งใหญ่ขึ้นชื่อเป็นเบอร์หนึ่งในบ้านเราก็ต้องยกให้ “ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ” อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ที่ได้ชื่อจุดชมทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
นอกจากนี้ ที่แม่ฮ่องสอนยังมีจุดชมทุ่งดอกบัวตองอันสวยงามน่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง คือ ที่ “ดอยแม่เหาะ” อ.แม่สะเรียง ซึ่งมีทุ่งดอกบัวตองในรูปแบบเฉพาะตัวให้ได้สัมผัสทัศนาชื่นชมในความงามกัน
โดยทั้งดอยแม่เหาะ และแม่อูคอ เราสามารถออกตะลอนเที่ยวเชื่อมโยงชมความงามได้ในเส้นทาง “แม่สะเรียง-ขุนยวม” ซึ่งเมื่อปีที่แล้วผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับความงามของทุ่งดอกบัวตองทั้งสองแห่งมา และยังคงความประทับใจอยู่ จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังรับเทศกาลทุ่งดอกบัวตองที่กำลังเบ่งบานอยู่ในเวลานี้
ดอยแม่เหาะ
แรกเริ่มเดิมทีผมไม่รู้ว่าที่ดอยแม่เหาะมีทุ่งดอกบัวตองแสนงามอยู่ แต่เมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวพิชิต 1,864 โค้ง บนถนนสาย 108 ในเส้นทาง “ฮอด-แม่ฮ่องสอน” จึงได้พบกับอีกหนึ่งความงามแปลกใหม่ที่น่าประทับใจกระไรปานนั้น
ถนนสาย 108 มีจุดเริ่มต้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ อ.หางดง, สันป่าตอง, ดอยหล่อ อ.จอมทอง ก่อนจะเข้าสู่ “อ.ฮอด” (จ.เชียงใหม่) ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ “โค้งแรก” ใน 1,864 โค้ง
สำหรับอำเภอฮอดวันนี้เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่พอหน้าหนาวมาเยือนทีไร ผมมักคิดฮอดอำเภอฮอดอยู่เสมอ เพราะนี่เป็นหนึ่งในอำเภอที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ คือ “อุทยานแห่งชาติออบหลวง” กับความแปลกตาของธรรมชาติลักษณะพิเศษเฉพาะตัว และ “สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว” หรือ “สวนสนบ่อแก้ว” กับบรรยากาศสวนสนแสนสวยที่ได้รับฉายาว่าเป็นดัง “เกาะนามิเมืองไทย”
จาก อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เมื่อเดินทางต่อไปก็จะเข้าเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน สู่ “อ.แม่สะเรียง” ในช่วงหลัก กม.ที่ 83-85 (ก่อนถึงตัว อ.แม่สะเรียง ประมาณ 19 กม.) ถนนบริเวณนี้จะดูเหลืองอร่ามไปด้วยดอกบัวตองที่บานเรียงรายประดับสองข้างทาง
ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะ มีจุดชมหลักๆ อยู่ที่บริเวณที่ทำการ อบต.แม่เหาะ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเข้าถึงง่าย ทำให้หลายๆ คนมักจะแวะไปชมทุ่งดอกบัวตองแค่ริมทาง หรือแค่แวะถ่ายรูปด้านหน้าแล้วก็จากไปแบบง่ายๆ โดยหารู้ไม่ว่าหากเสียเวลาเพิ่มอีกนิดหน่อย เดินตามเส้นทางเข้าไปชมข้างในอีกไม่กี่ 10 เมตร ก็จะได้พบกับ“อุโมงค์ดอกบัวตองดอยแม่เหาะ” อันทรงเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ดูน่าตื่นตาตื่นใจ
อุโมงค์ดอกบัวตองดอยแม่เหาะมีลักษณะเป็นดงดอกบัวตองต้นสูงใหญ่ ที่ต่างพากันออกดอกขนาดใหญ่ชูช่อเบ่งบานอยู่เหนือศีรษะให้เราสัมผัสได้กันอย่างใกล้ชิด และสามารถเดินลอดเข้าไปถ่ายรูปในซุ้มอุโมงค์ดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามได้ตามอัธยาศัย ในมุมใครมุมมัน สไตล์ใครสไตล์มัน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์นางแบบ สไตล์ฮิปเตอร์ สไตล์เบลอๆ สไตล์ฟรุ้งฟริ้ง หรือสไตล์ติดบัตร ก็สามารถเลือกสรรหามุม จัดสไตล์ท่าทางกันได้ตามใจชอบ
แต่ต้องไม่ไปทำให้ดอกบัวตองเสียหายหักหลุดเป็นอันขาด!!!
นอกจากซุ้มอุโมงค์ดอกบัวตองแล้ว ที่นี่ยังมีบัวตองดอกใหญ่ๆ ออกดอกกระจายให้ชมกันทั่วไป โดยเฉพาะดอกบัวตองที่อยู่ริมสนามกีฬาของ อบต.นี่ถือว่าเป็นสนามกีฬาที่ริมสนามเต็มไปด้วยสีเหลืองอร่ามดูฟรุ้งฟริ้งเท่ไม่เบา
นับได้ว่าดอยแม่เหาะเป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกบัวตองอันน่าสนใจยิ่ง ถึงแม้ทุ่งดอกบัวตองที่นี่จะเป็นฉบับกะทัดรัดไม่ได้ใหญ่โตอลังการ แต่ว่าทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะก็น่ายลไปด้วยความงามอันทรงเสน่ห์
โดยเฉพาะกับซุ้มอุโมงค์ดอกบัวตองอันสวยงามเป็นเอกลักษณ์ชวนให้ประทับใจไม่น้อยเลย
แม่สะเรียง
จากดอยแม่เหาะ ผมเดินทางเข้าสู่ตัวอำเภอแม่สะเรียงเพื่อปักหลักพักค้างก่อนออกเดินทางสู่ดอยแม่อูคอในวันถัดไป
แม่สะเรียงเป็นอำเภอเล็กๆ อันสงบงาม ถือเป็นจุดพักระหว่างทางที่วันนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมเดินทางมาพักสัมผัสกับบรรยากาศชิลๆ สงบ ไม่พลุกพล่าน
ในตัวเมืองแม่สะเรียง นอกจากบรรยากาศของสายน้ำ ทุ่งนา บ้านเรือน และวิถีชุมชนอันทรงเสน่ห์แล้ว ก็ยังมีวัดวาอารามต่างๆ ให้เที่ยวชมกัน นำโดย 2 วัดสำคัญ คือ“วัดจองสูง” (วัดอุทธยารมย์) กับ“วัดศรีบุญเรือง” ที่รั้วของทั้งสองวัดอยู่ติดกัน สามารถเดินทะลุไปมาหาสู่กันได้ โดยวัดจองสูงจะโดดเด่นไปด้วยพระธาตุเจดีย์เก่าแก่อันสวยงามคลาสสิก
ส่วนวัดศรีบุญเรืองนั้นเป็นวัดที่งดงามไปด้วยลวดลายฉลุไม้ในหลายๆ จุดของวัด ขณะที่ภายในโบสถ์นั้นก็ดูงดงามไปด้วยพระพุทธรูปศิลปะไทยใหญ่และพม่าอันขรึมขลังมลังเมลืองเปี่ยมศรัทธา
ในเมืองแม่สะเรียงยังมี “พระธาตุ 4 จอม” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นของอำเภอแห่งนี้ เพราะเมืองแม่สะเรียงนั้นได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งพระธาตุ 4 จอม” เพราะมีการสร้างพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองไว้ ณ 4 มุมเมือง คือ “พระธาตุจอมกิตติ”, “พระธาตุจอมทอง”, “พระธาตุจอมแจ้ง” และ “พระธาตุจอมมอญ” ซึ่งพระธาตุทั้งสี่นั้นอยู่ไม่ไกลกันมากนัก สามารถเดินทางไปกราบไหว้ได้อย่างสบายๆ
นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้วตรงหัวมุมถนนทางเข้าสู่ตัวเมืองแม่สะเรียงยังเป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง” ที่โดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมไทยใหญ่อันงดงาม ภายในบอกเล่าประวัติความเป็นมาของแม่สะเรียง พร้อมข้าวของเครื่องใช้ศิลปวัตถุน่าสนใจอันบ่งบอกถึงวิถีแห่งแม่สะเรียง
แต่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ พิพิธภัณฑ์หลังนี้ได้ถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง
นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และน่าเศร้าใจไม่น้อย...
ดอยแม่อูคอ
หลังพักค้างและเที่ยวแม่สะเรียงกันอย่างจุใจแล้ว วันรุ่งขึ้นผมออกเดินทางต่อผ่าน อ.แม่ลาน้อย สู่ อ.ขุนยวม เพื่อไปชมทุ่งดอกบัวตองอันสวยงามสุดอลังการกันที่ “วนอุทยานดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ” อันขึ้นชื่อลือชา
ทุกๆ ปีบนดอยแม่อูคอจะมีการจัด “เทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ” ขึ้น ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม โดยช่วงที่ดอกบัวตองบานเต็มที่จะอยู่ประมาณหลังวันที่ 15 พ.ย.เป็นต้นไป และจะบานเต็มที่ไปประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนจะค่อยๆ เหี่ยวร่วงโรยไป แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศของแต่ละปีด้วย
บัวตอง หรือ Maxican Sunflower weed เป็นพืชในตระกูลทานตะวันขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโก และทวีปอเมริกากลาง มีข้อมูลว่าบัวตองเดินทางข้ามทวีปมาที่เมืองไทยด้วยการนำเข้ามาของมิชชันนารีที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนา และได้นำเมล็ดบัวตองเข้ามาหว่าน จนวันนี้มีบัวตองขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วไทย
สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันนอกจากจะมีดอกบัวตองเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกบัวตอง เพราะเมื่อถึงฤดูกาลทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอจะพร้อมใจกันเบ่งบานย้อมขุนเขาทั้งลูกเป็นเป็นสีเหลืองสดใส จนหลายคนขนานนามให้ที่นี่เป็น “ขุนเขาสีทอง” อันขึ้นชื่อลือลั่น
ปัจจุบันทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอมีเนื้อที่กว่า 500 ไร่ ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ซึ่งทาง ททท.ได้ยกให้ “ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ” เป็นหนึ่งในไฮไลต์จุดชมดอกไม้ประจำเดือน พ.ย. จากโครงการ “Dream Destinations 2 กาลครั้งนั้น ความฝันผลิบาน” ที่เป็นการคัดสรร 22 เส้นทางดอกไม้งามทั่วเมืองไทยมานำเสนอ ชวนให้ผู้สนใจได้ไปเที่ยวกัน
อย่างไรก็ดี เมื่อหลายๆ ปีก่อน ช่วงที่ทุ่งดอกบัวตองเริ่มเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ได้มีนักวิชาการบางคนออกมาค่อนขอดและจุดกระแสว่า บัวตองเป็น “พืชเอเลี่ยน” ที่จะเข้ามาสร้างความเสียหายให้แก่พืชพันธุ์ในบ้านเรา
แต่ดูเหมือนประเด็นนี้จะไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีข้อมูลแย้งว่าถึงคุณประโยชน์ของดอกบัวตองว่าที่ดอยแม่อูคอว่า วันนี้ทุ่งดอกบัวตองได้เปลี่ยนสภาพของดอยแม่อูคอ จากอดีตหุบเขาหัวโล้นแล้งโล่งเตียนเมื่อหลายสิบปีก่อน ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นโด่งดังขึ้นมา
ส่งผลให้วันนี้ทุ่งดอกบัวตองได้กลายเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ดาวเด่นประจำช่วงหน้าหนาว ที่เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชม สร้างรายได้สร้างงาน สร้างเม็ดเงินให้แก่แหล่งชมทุ่งดอกบัวตองต่างๆ ได้ไม่น้อยเลย
*****************************************
“เทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ” ปีนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 พ.ย. - 10 ธ.ค. 58 ณ ดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อ.ขุนยวม 0-5369-1110 เทศบาล ต.ขุนยวม 0-5369-1019 และ ททท.แม่ฮ่องสอน 0-5361-2982-3
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com