ททท. เปิดตัวแคมเปญท่องเที่ยวใหม่ปี 59 กับ 3 โครงการใหญ่ นำโดยโครงการ “เขาเล่าว่า...” “เมืองต้องห้ามพลาด…PLUS” และ โครงการ “Outdoor Fest” มุ่งกระจายรายได้สู่วันธรรมดา ขยายตลาดกับกิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้ง
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 2559 ททท. มีกลยุทธ์หลักในการทำตลาดท่องเที่ยวในประเทศ โดยมุ่งเน้นการกระตุ้นรายได้ทางด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับความเข้มแข็งของชุมชนและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยจะนำเสนอมิติทางการท่องเที่ยว ผ่าน 3 โครงการใหญ่แห่งปี ประกอบด้วย โครงการ “เมืองต้องห้ามพลาด…PLUS” โครงการ “เขาเล่าว่า…” และ โครงการ “Outdoor Fest” ซึ่งทุกโครงการพร้อมตอบโจทย์ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” นำเสนอความคุ้มค่าของการท่องเที่ยวในวันธรรมดา เพื่อกระตุ้นการเดินทางให้เกิดความสมดุลเชิงพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวทางเลือก รวมทั้งเกิดการเดินทางแลกเปลี่ยนข้ามจังหวัด และเชื่อมโยงภูมิภาคมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ โครงการ “เมืองต้องห้ามพลาด…PLUS” เป็นโครงการที่ต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการเมืองต้องห้าม..พลาด ที่นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ใน 12 จังหวัด ทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 12% สร้างการรับรู้ทางด้านการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เมืองรอง ส่งผลให้แต่ละจังหวัดมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก อาทิ ลำปางและนครศรีธรรมราช ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวสูงเป็นลำดับต้น ๆ จากจังหวัดโครงการนี้ ไม่เพียงแต่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เท่านั้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเอกชน อาทิ สายการบินและการคมนาคม รวมถึงภาคบริการ ยังมีอัตราการเติบโตสูงตามไปด้วย
ดังนั้นในปี 2559 ททท. จึงเดินหน้าสานต่อของโครงการนี้เป็นปีที่ 2 ด้วยการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในเมืองที่น่าสนใจและมีลักษณะและพื้นที่ใกล้เคียงกัน อีก 12 จังหวัด ในชื่อโครงการ“เมืองต้องห้ามพลาด…PLUS” ประกอบด้วย
1. ลำปาง: เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา เชื่อมโยง
ลำพูน: ท่องเที่ยวเมืองเก่า กลิ่นอายของวันวาน ชมวิถีชีวิตเก่าๆ
2. น่าน: กระซิบรักเสมอดาว เชื่อมโยง
แพร่: เที่ยวด้วยตัวเองแบบช้าๆ ดื่มด่ำรายละเอียด
3. เพชรบูรณ์: ภูดอกไม้สายหมอกล เชื่อมโยง
พิษณุโลก: เที่ยวธรรมชาติสวยงามภูเขา ดอกไม้ สายหมอก
4. เลย: เย็นสุด...สุขที่เลย เชื่อมโยง
ชัยภูมิ : เที่ยวทางธรรมชาติสวยงาม UNSEEN และ ADVENTURE
5. บุรีรัมย์ : เมืองปราสาทสองยุค เชื่อมโยง
สุรินทร์ : เที่ยวปราสาทหินโบราณและอารยธรรมขอม
6. ราชบุรี : ชุมชนคนอาร์ต เชื่อมโยง
สุพรรณบุรี : ศิลปะพื้นบ้าน ศิลปะสร้างขึ้นมาใหม่ และพิพิธภัณฑ์ระดับจังหวัดและชุมชน
7. สมุทรสงคราม : เมืองสายน้ำสามเวลา เชื่อมโยง
นครปฐม : ท่องเที่ยววิถีชีวิตสายน้ำ
8. จันทบุรี : สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้ เชื่อมโยง
สระแก้ว : เชื่อมการท่องเที่ยวชายแดน
9. ตราด : เมืองเกาะในฝัน เชื่อมโยง
ระยอง : ท่องเที่ยวแบบหรูหราทางทะเลและหมู่เกาะ
10. ชุมพร : หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้ เชื่อมโยง
ระนอง : ท่องเที่ยวทางทะเล เกาะและสวนกาแฟ
11. ตรัง : ยุทธจักรความอร่อย เชื่อมโยง
สตูล : ท่องเที่ยวด้วยอาหารอร่อยขึ้นชื่อของพื้นถิ่น
12. นครศรีธรรมราช : นครสองธรรม เชื่อมโยง
พัทลุง : ท่องเที่ยวแบบธรรมะและธรรมชาติ
โครงการ “เขาเล่าว่า…” เป็นโครงการที่นำเรื่องราวพื้นบ้านหรือเรื่องเล่าในชุมชน มาสร้างเป็นจุดขาย เพื่อก่อให้เกิดเป็นคุณค่าตลอดจนมูลค่าเพิ่มให้กับแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนหรือพื้นที่ต่างๆ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยว 24 แห่งในโครงการนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีเรื่องราว เรื่องเล่า หรือตำนานความศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นการสร้างการรับรู้เรื่องราววิถีไทยที่น่าสนใจ เพื่อให้ได้สัมผัสกับความเชื่อ ความศรัทธา ความสามัคคีที่ชุมชนมีต่อสถานที่ต่างๆ เป็นการตอกย้ำความหมายที่มากกว่าของการเที่ยว ที่ไม่ใช่แค่การไปพบกับความสวยงาม แต่สามารถสร้างคุณค่าทางจิตใจ เสริมกำลังใจให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า “แหล่งท่องเที่ยวในโครงการ “เขาเล่าว่า…” ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2559 ต่อเนื่องจากโครงการ Dream Destinations เพื่อสร้างกระแสให้คนไทยเที่ยวในประเทศ กระตุ้นให้คนอยากเดินทางท่องเที่ยวสักครั้งในชีวิต” โดยรูปแบบการนำเสนอในโครงการนี้จะเป็นการเก็บเกี่ยวตำนานเรื่องเล่าจากทั่วเมืองไทย มาเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวใน 24 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่
ภาคเหนือ - สะพานอธิษฐานสำเร็จ : สะพานซูตองเป้ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
- ประตูรักแห่งขุนเขา : ประตูผาบ่อง ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
- เมืองที่ห้ามพูดโกหก : เมืองลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์,
- พระยาช้างชนะศึก : กู่ช้าง กู่ม้า อ.เมือง จ.ลำพูน
ภาคกลาง - พระประทานพร :
ได้แก่ - หลวงพ่อสด วัดจันทรังสี อ.เมือง จ.อ่างทอง
- พระพุทธเจ้าองค์ใหญ่ วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
- พระนอน วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
- เขาหนุมานวัดใจ : เขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
- มหาเทพแห่งความสำเร็จ :
ได้แก่ - พระพิฆเนศองค์นอน วัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา, - พระพิฆเนศองค์ยืน อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา
- พระพิฆเนศองค์นั่ง วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
- พระปางขอฝน ได้แก่ พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- หินชมนภา : หาดชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
- มหายุทธแดนอีสาน : พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก อ.เมือง จ.ยโสธร
- ถ้ำพญานาค : ศาลพญานาค สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 อ.เมือง
จ.มุกดาหาร
- วิมานเทวดา : ภูทอก อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
- ผ้าผิวสวย : ผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี
- แห่นาคโหด : บ้านโนนเสลา อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
ภาคตะวันออก
- เกาะแห่งรัก : สะพานอัษฎางค์ และ ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด)
เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
- มหัศจรรย์ทรายดำ : ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน
อ.แหลมงอบ จ.ตราด
- ป่าสีทอง : ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง
- สะดือมังกร : หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ภาคใต้ - สันหลังมังกร : หาดสันหลังมังกร อ.เมือง จ.สตูล
- พระแอด-ปวดหาย : พระกัจจายนะ(พระแอด) วัดพระมหาธาตุวรวิหาร
อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
- น้ำตาศักดิ์สิทธิ์ : เขาหงอนนาค อ.เมือง จ.กระบี่
- สะพานแห่งความสุข : สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
- อุโมงค์แสงมรกต : ลานแสงมรกต ถ้ำภูผาเพชร อ.มะนัง จ.สตูล
- ไอ้ไข่ขอได้ : ไอ้ไข่วัดเจดีย์ อ.สิชล จ. นครศรีธรรมราช
โครงการ “Outdoor Fest” เป็นงานแสดงสินค้าทางด้านการท่องเที่ยวแนวใหม่ จะจัดขึ้นพร้อมกับงาน “วันธรรมดาน่าเที่ยว” โดยนำเสนอกิจกรรมทางการท่องเที่ยวกลางแจ้ง อาทิ ขี่จักรยาน ดำน้ำ ตีกอล์ฟ ปีนเขา เดินป่า ดูนก เป็นต้น รวมถึงนวัตกรรมทางการท่องเที่ยวต่างๆ นอกจากนี้ มีการจัดแข่งขัน ไตรกีฬา ที่ประกอบด้วย วิ่ง พายเรือคายัค ปืนหน้าผา และกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่มีกระแสความนิยมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นตลาดน่าสนใจสอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ที่ชอบรวมกลุ่มทำกิจกรรม ชอบแลกเปลี่ยนความรู้ ชอบแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ รวมถึงความตื่นเต้นในการท่องเที่ยว สำหรับ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” จะจัดขึ้นในวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นำเสนอแพ็กเกจที่คุ้มค่าในราคาพิเศษ โดยรวมเอาผู้ประกอบการโรงแรม สปา แหล่งท่องเที่ยว ผู้ให้บริการกิจกรรมต่างๆ รถเช่า บริษัททัวร์ สินค้าและบริการต่างๆ มารวมไว้ในงานเดียว รวมกว่า 250 ราย ตั้งเป้าหมายจะสร้างเม็ดเงินสะพัดในการท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 20 คือ ประมาณ 120 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 260,000 คน
นายยุทธศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า 3 โครงการใหญ่ที่จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว มีเป้าหมายในการสร้างความสมดุลของการท่องเที่ยวให้เกิดความคึกคักขึ้นช่วงวันธรรมดา ซึ่งยังมีอัตราการท่องเที่ยวน้อยกว่าวันหยุด พร้อมทั้งการกระจายรายได้ทางด้านการท่องเที่ยวไปยังเมืองท่องเที่ยวทางเลือกใหม่หรือเมืองรอง สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นการดึงศักยภาพของนักท่องเที่ยวสอดคล้องตามเป้าหมาย ททท. ปี 2559 ครอบคลุมทั้ง 4 ตลาด ได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Y) วัยเริ่มต้นการทำงานทั้งแบบประจำและทำงานอิสระ กลุ่มผู้หญิง (Lady) กลุ่มครอบครัวที่ไม่มีบุตรนิยมเดินทางท่องเที่ยวเป็นคู่ (DINKs) และกลุ่มคุณภาพสูงและผู้สูงวัย เร่งส่งเสริมเพิ่มคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับท่องเที่ยวไทยควบคู่กันไป โดยสร้างเอกลักษณ์ทางการท่งเที่ยวให้แตกต่างจากประเทศในภูมิภาคเดียวกัน เพื่อรองรับการแข่งขันในโอกาสของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้
ทั้งนี้ ในปี 2559 ททท. ได้ตั้งเป้าหมายการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 150.8 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 4% มีรายได้ 807,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.04% ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะสร้างรายได้ 1,536,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.32%