xs
xsm
sm
md
lg

ร่อนพลอยแดง-ทำสปาสุ่มไก่-สูดยาดมบุฟเฟต์สมุนไพร ที่ “บ้านช้างทูน” จ.ตราด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แหล่งเรียนรู้ที่ บ้านช้างทูน
“บ้านช้างทูน” ใน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์นิเวศและวัฒนธรรมแห่งใหม่ของจังหวัดตราด ได้พัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้นิเวศพิพิธภัณฑ์ หรืออีโค่มิวเซียมในรูปแบบใหม่ที่ส่งเสริมการนำเอาความ รู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตของสังคมไทยในชนบทยุคหลังอุตสาหกรรม ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น พิพิธภัณฑ์เพื่อชีวิต ที่บริหารจัดการโดยชุมชนเพื่อชุมชน เป็นแนวคิดการปฏิรูปพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นรูปแบบใหม่ที่พัฒนาจากแม่แบบในประเทศฝรั่งเศสและประเทศเกาหลี โดยโรงเรียนการท่องเที่ยวและบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตได้นำมาประยุกต์ใช้และเผยแพร่แนวทางเพื่อพัฒนาชุมชนบ้านช้างทูนให้เป็นชุมชนต้นแบบที่มีการกระตุ้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมปฏิบัติการเพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ของชาติพันธุ์และวิถีนิเวศของชองในจังหวัดตราด
ทีเด็ดของบ้านช้างทูน สปาสุ่มไก่
“ชุมชนบ้านช้างทูน”แห่งนี้ เรียกอีกอย่างว่า “นิเวศพิพิธภัณฑ์ ชอง บ้านช้างทูน” เป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ โดยมีชนพื้นเมืองดั้งเดิมอยู่ในจังหวัดตราดคือ“กลุ่มชาติพันธุ์ชองเผ่าซัมเร”หรือ“ชาวชอง” เป็นชนพื้นถิ่นดั้งเดิมที่ตั้งรกรากอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศไทย ในบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด แต่เดิมชาวชองมีภาษาพูดและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แต่ปัจจุบันสูญหายไปเป็นจำนวนมากเนื่องจากลูกหลานชาวชองได้รับการศึกษาและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ห่างไกลจากกระบวนการสืบทอดมรดกวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ
ชาวบ้านสาธิตการลอดพลอย
ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้ใหม่ให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ แนวคิด ประสบการณ์แปลกใหม่ นอกจากนั้นยังมีความน่าชื่นชมเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการทำบ้านช้างทูน จำพวกโต๊ะ ตู้ ประตู หลังคา เพราะทำจากวัสดุธรรมชาติทั้งหมดปราศจากตะปู พลาสติก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเป็นการช่วยลดโลกร้อน บ้านช้างทูนแห่งนี้มีกิจกรรมมากมายประกอบด้วย การเรียนรู้ทำยาดมจากสมุนไพรท้องถิ่น หัตถกรรมจักสานจากต้นคลุ้ม การนั่งพาหนะท้องถิ่น “ซาเล้งเจอร์” ไปทำกิจกรรมสปาโคลนขาว การร่อนพลอยแดง”ทับทิมสยาม” การทำฝายชอง การอบสมุนไพรแบบดั้งเดิม “สปาสุ่มไก่” และการรับประทานอาหาร “ชองซัมเร” เมนูท้องถิ่น เช่น แกงกล้วยพระรับประทานกับข้าวเหนียวมูล เป็นต้น ยังคงมีการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีที่หาชมได้ยาก ภูมิปัญญาในการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอำเภอบ่อไร่ใน “ยุคตื่นพลอย” ให้เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชนเช่นการร่อนพลอย
คัดแยกหาพลอยทับทิม
กิจกรรมอย่างแรกที่น่าสนใจคือ "การร่อนพลอยแดง" ทับทิมสยามที่คลองแอ่ง อยู่บริเวณชุมชนบ้านช้างทูน การไปร่อนพลอยจะต้องเดินทางโดยการนั่งซาเล้งเจอร์หรือรถพ่วงข้างที่เราคุ้นหูคุ้นตา ลงไปที่ริมคลอง ในอดีตชาวบ้านจะนิยมมาร่อนพลอยแดงกันเพื่อนำพลอยที่ร่อนมาได้ไปขายให้พ่อค้าพลอยเพื่อแลกเป็นเงินมาจุนเจือครอบครัวและชุมชมในสมัยนั้น แต่ในปัจจุบันกลับมีนักท่องเที่ยวแห่กันมาร่อนพลอยกันอย่างมากมายทำให้กลายเป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ไปแล้ว
พลอยทับทิมที่ได้จากการลอดพลอย
ทำยาดมบุฟเฟ่
กิจกรรมถัดมาเป็นการทำ “ยาดมสมุนไพรบุฟเฟ่ต์” หลายๆคนคงยังไม่เคยรู้ว่ายาดมสมุนไพรแท้ๆนี่เขาทำกันยังไง ชุมชนบ้านช้างทูนแห่งนี้มีคำตอบ ยาดมที่บ้านช้างทูนไม่เหมือนที่อื่นมีความพิเศษตรงที่ให้ลงมือทำเองอย่างง่ายๆ ยาดมสมุนไพรจะให้กลิ่นที่เย็นชื่อใจจากสมุนไพรล้วนๆ แก้วิงเวียน ฯลฯ การทำยาดมสมุนไพร มีวิธีที่ง่ายมากแทบจะไม่ต้องตวงส่วนประกอบอะไรเลย เรียกได้ว่าตามใจคนทำ ทั้งยังมีชาวบ้านคอยอธิบายให้ข้อมูลอีกว่าสมุนไพรแต่ละชนิดมีประโยชน์อะไร ไม่ว่าจะเป็นดอกจัน , กระวาน ,กานพลู , พริกไทย , ดีปลี , หัวบัว (และพิมเสน,เมนทอล,การบูร)นอกจากนั้นยังสามารถจดจำสูตรเพื่อประกอบอาอาชีพแบบไม่หวงสูตรอีกด้วย
สปาสุ่มไก่
เรามาปิดท้ายกันด้วยความสบาย ผ่อนคลายกับสปาอย่างแรก “สปาสุ่มไก่” สปาที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก นับว่าเป็นคิดค้นของชาวบ้านที่บ้านช้างทูนที่แปลกใหม่และยังไม่มีใครทำ มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี รักษาอาการหลังคลอดได้อีกด้วย ลักษณะการอบสปาสุ่มไก่ภายในสุ่มจะมีหม้อต้มสมุนไพรนานาชนิดอยู่ในสุ่ม บริเวณโดยรอบในสุ่มไก่มีผ้ากันน้ำอยู่ข้างในรอบสุ่ม วิธีการอบสปาสุ่มไก่ต้องเอาตัวเข้าไปในสุ่ม และจะมีรูตรงกลางข้างบนเพื่อให้สอดหัวขึ้นมา ทั้งยังได้กลิ่นหอมสมุนไพรที่พุ่งเป็นไอขึ้นมา ใช้เวลาในการอบละ 10-15 นาที
สมุนไพรในหม้อและเอาซ่อนไว่ในสุ่มไก่
สาธิตการพอก พอกโคลนขาว
ต่อมาเป็น “สปาโคลนขาว” ความพิเศษของโคลนแห่งนี้คือ มีแร่พลอยผสมอยู่ในคลองแห่งนี้ด้วย ซึ่งเป็นคลองเดียวกันกับที่มีการร่อนพลอยแดง ซึ่งมีการค้นพบที่นี้ที่แรกและเป็นที่เดียว โคลนที่นำมาพอกจะใช้โคลนบริเวณข้างๆคลอง โคลนจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองอ่อน จากนั้นจะน้ำโคลนมาผสมกับผงขมิ้น , ผงไพร ช่วยเพิ่มกลิ่มหอมของผงสมุนไพรต่างๆ ต่อไปคนให้เข้ากันแล้วนำมาพอกตามใบหน้าหรือลำตัว ในการพอกโคลนขาวแต่ละครั้งจะทิ้งไว้ 10-15 นาทีพอโคลนแห้งก็ล้างใบหน้าและลำตัวด้วยน้ำเปล่าตามปกติ หลังจากนั้นจะรู้สึกได้ว่าผิวมีความเนียนนุ่มขึ้นและดูสุขภาพดี ได้มีการค้นพบและวิจัยแล้วว่าไม่มีสารอันตรายใดๆทั้งสิ้น นอกจากนั้นชาวบ้านชุมชนบ้านช้างทูนยังมีไอเดียทำสปาโคลนขาวเป็นสินค้า OTOP ของที่นั่นอีกด้วย
โคลนขาว
นั่ง ซาเล้งเจออร์ ไปทำกิจกรรม
ในอนาคตชาวบ้านที่ชุมชนบ้านช้างทูนจะทำธนาคารสมุนไพร เปิดโอกาสให้ผู้คนในชุมชน นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้ามาเรียนรู้เรื่องประโยชน์ของสมุนไพร สามารถปลูกฝากต้นไม้จำพวกสมุนไพรได้อีกด้วย ชาวบ้านในชุมชนก็จะคอยช่วยกันดูแลเพื่อมุ่งหวังให้เด็กๆและชาวบ้านในชุมชนได้มีส่วนร่วมในด้านนี้ เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และปลูกฝังเด็กๆตั้งแต่ยังเยาว์วัย
เที่ยวบ้านช้างทูน จังหวัดตราด
ผู้ที่สนใจเข้าไปท่องเที่ยวในชุมชนบ้านช้างทูน ที่นี่เปิดทำการ เวลา 10.00-16.00น. สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานตราด โทร. 0-3959-7255 และประธานกลุ่มพิพิธพัณฑ์บ้านช้างทูน โทร. 09-2542-9395
กำลังโหลดความคิดเห็น