โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)
“ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก”
พระราชดำริอันเกิดจากสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ได้นำมาสู่การก่อกำเนิด“โครงการหลวง”ขึ้นมา โดยมี“สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” บน“ดอยอ่างขาง” อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ถือกำเนิดขึ้นเป็นโครงการหลวงแห่งแรกของเมืองไทยในปี พ.ศ. 2512
จากนั้นพื้นที่ดอยอ่างขางได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พลิกฟื้นของภูเขาหัวโล้นแล้งโล่ง อันเกิดจากการปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอยให้กลายเป็น แหล่งเพาะปลูกพืชผัก ดอกไม้ ผลไม้เมืองหนาวอันอุดมสมบูรณ์ ช่วยให้ชาวเขามีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ผลพลอยได้จากโครงการหลวงยังทำให้ดอยอ่างขางร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ มีทัศนียภาพอันงดงาม จนปัจจุบันดอยอ่างขางเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันงดงามขึ้นชื่อของเมืองไทย ที่มีผู้คนเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมสัมผัสในความงามกันไม่ได้ขาด
1...
ความงดงามของดอยอ่างขาง ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน“สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”อันเลื่องชื่อ
สำหรับผู้ที่ขึ้นมาแอ่วดอยแห่งนี้จะได้สัมผัสกับความงามอันหลากหลายทั้งในพื้นที่สถานีฯอ่างขางและนอกพื้นที่สถานีฯอ่างขาง ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิว หมู่บ้านต่างๆ แปลงปลูกพืชผัก โดยผมขอเริ่มแนะนำจากนอกพื้นที่สถานีฯก่อนหมู่บ้านชาวเขาต่างๆ ที่น่าสนใจไปด้วยวัฒนธรรมวิถีชีวิต และวิถีชุมชนของแต่ละชนเผ่าอันทรงเสน่ห์ ได้แก่
-“บ้านนอแล” หมู่บ้านของชาวเขาเผ่า“ปะหล่อง”หรือ“ดาละอั้ง” ที่โดดเด่นไปด้วยการแต่งกายอันสวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะกับ “หน่องว่อง” หรือห่วงที่เอวอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของผู้หญิงปะหล่องที่นี่ รวมถึงในบริเวณหมู่บ้านนอแลยังมีไร่สตรอว์เบอร์รี่ และแปลงพืชผักเมืองหนาวที่ปลูกลดหลั่นกันไปตามไหล่เขาดูสวยงามน่ายล
-“บ้านขอบด้ง” ตั้งอยู่บริเวณสันขอบดอยอ่างขาง เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่า“มูเซอ” ที่มีทั้ง“มูเซอดำ”และ“มูเซอแดง” บ้านขอบด้งนอกจากจะเป็นจุดชมวิวอันสวยงามแล้ว ยังมีวิถีวัฒนธรรมของชาวมูเซออันน่าสนใจให้เที่ยวชมกันอีกด้วย
-“บ้านหลวง” หมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่อพยพมาจากประเทศจีนตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งโดดเด่นชวนสัมผัสไปกับภาพวิถีวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนาน พร้อมทั้งมีอาหารจีนยูนนานอร่อยๆให้ได้ลองลิ้มชิมรส และมีโรงงานดองท้อ บ๊วย ด้วยแรงงานคนที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
-“บ้านคุ้ม”ตั้งอยู่หน้าสถานีฯ มีทั้งชาวไทยใหญ่ จีนยูนานอาศัยอยู่ร่วมกัน ถือเป็นศูนย์กลางความเจริญ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไว้บริการนักท่องเที่ยว
ในพื้นที่นอกสถานีฯอ่างขาง ยังมี จุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอกอันสวยงามอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเส้นทางไปหมู่บ้านนอแลซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับแสงอรุณแรก ทะเลหมอก และตะวันลับขอบฟ้าได้สวยงาม, จุดชมวิวชายแดนไทย-พม่า ที่อยู่บริเวณฐานปฏิบัติการบ้านนอแลซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของฝั่งประเทศพม่าได้,จุดสูงสุดของดอยอ่างขางบนความสูง 1,928 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นอกจากจะมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามแล้ว ในช่วงเดือนธันวาคมยังมีกุหลาบพันปีออกดอกปีละครั้งผลิบานตลอดทางเดินขึ้น และ จุดชมวิวขอบด้ง ที่เป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและจุดชมทะเลหมอกอันงดงาม โดยบริเวณจุดชมวิวจะมีชาวบ้านนำสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนมาวางขายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกหากัน
2…
มาดูสิ่งน่าสนใจในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางกันบ้าง ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ทางการท่องเที่ยวของดอยอ่างขางแห่งนี้ โดยภายในสถานีฯ มีจุดเที่ยวชมน่าสนใจ ได้แก่
-สวนกลางแจ้ง บริเวณสโมสรอ่างขางมีสวนกลางแจ้งหลายสวน ที่ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้แตกต่างกันตามความเหมาะสมของฤดูกาล ได้แก่ สวนคำดอย, สวนหอม, สวนสมเด็จ และ สวนกุหลาบอังกฤษ, สวน Formal Garden, แปลงสาธิตไม้ดอกกลางแจ้ง และ“สวนแปดสิบ” ที่เป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญอีกจุดหนึ่งบนดอยอ่างขาง
-โรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผัก จัดแสดงพันธุ์ผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ ที่ปลูกในพื้นที่โครงการหลวง อาทิเช่น ผักตระกูลสลัดหลายชนิด, ผักตระกูลกะหล่ำ, ผักตระกูลมะเขือ, ผักตระกูลถั่ว และผักตระกูลแครอท รวมทั้งยังมีผักแปลกใหม่หลายชนิด เช่น สวิสชาร์ด, รูบาร์บ, อาร์ติโช๊ค และสมุนไพรต่างประเทศทั้งโรสแมรี่ และลาเวนเดอร์
-สวนบอนไซ ภายในสวนจัดแสดงพันธุ์ไม้ยุคต้นๆของสถานีฯ อ่างขางในรูปแบบการปลูกเลี้ยงในกระถาง ทั้งบอนไซไม้ดอก ไม้ผล และไม้โตเร็วเมืองหนาว นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง พืชทนแล้ง, พืชกินแมลง และสวนหินธรรมชาติซึ่งเป็นจุดชมวิวภายในสถานีฯ
-โรงเรือนไม้ดอก กับการจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวภายในโรงเรือนที่มีพันธุ์ไม้สวยงามให้ได้ชมตลอดปี อาทิ บีโกเนีย รองเท้านารี พืชกินแมลง ซึ่งดอกไม้ภายในโรงเรือนจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกดอกไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ในโรงเรือนไม้ดอกยังมีมุมน้ำตกจำลองเก๋ๆชุ่มฉ่ำสวยงาม มาช่วยสร้างสีสันให้โรงเรือนหลังนี้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้นไปอีก
-โรงเรือนกุหลาบตัดดอก ภายในโรงเรือนจะรวบรวมกุหลาบตัดดอกเพื่อการค้า ที่มีกลิ่นหอม ก้านยาว น่ายลไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีสันชูช่อสะพรั่ง
นอกจากนี้บนดอยอ่างขางยังมีกิจกรรมเด่นๆให้เราได้เพลิดเพลิน อาทิ
-ขี่จักรยานชมธรรมชาติ สถานีฯอ่างขางมีบริการจักรยานให้เช่าปั่นชมแปลงเกษตรภายในสถานีฯ ในช่วงฤดูหนาว ช่วยเพิ่มความสนุกสนานน่าตื่นเต้นในการเที่ยวชม
-ขี่ฬ่อชมธรรมชาติ สถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีการจัดกลุ่มชาวบ้านนำฬ่อมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ขี่ชมสถานที่บริเวณแปลงต่างๆ ผู้สนใจสามารถติดต่อเช่าขี่ฬ่อได้ที่สถานีฯ อ่างขาง
-เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เป็นเส้นทางเดินในแปลงปลูกป่าของสถานีฯ อ่างขางซึ่งเป็นไม้ที่นำเข้ามาจากประเทศไต้หวัน นักท่องเที่ยวสนใจเดินในเส้นทางของสถานีฯ อ่างขางสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลก่อนการเที่ยวชมได้
-ดูนก ดอยอ่างขางเป็นสถานที่ดูนกที่มีนกหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่จะมีนกอพยพหาดูยากมายังบริเวณสถานีฯ อ่างขางรวมถึงพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งชมรม “ ฅนรักษ์นกอ่างขาง ” โดยสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มีข้อมูลไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจดูนกที่อ่างขาง
3...
พูดถึงดอยอ่างขาง แน่นอนว่าไฮไลท์การมาเที่ยวที่นี่ต้องเป็นในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเหน็บ มีดอกไม้หลากสีสันออกดอกสวยงามสะพรั่ง ฟ้าใส เมฆสวย ทะเลหมอกลอยพริ้งพราย
อย่างไรก็ดีดอยอ่างขาง ใช่เพียงมีมนต์เสน่ห์เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ในช่วงฤดูร้อนฤดูฝน ก็ยังคงน่าเที่ยว บนนั้นยังคงมีอากาศเย็นสบายให้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศแห่งขุนเขาดอกไม้งาม ซึ่งในช่วงหน้าฝนปีนี้ผมมีโอกาสขึ้นไปเที่ยวดอยอ่างขางอีกครั้ง ได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของดอยแห่งนี้ในอารมณ์ที่แตกต่างไปจากช่วงหน้าหนาวพอสมควร
ดอยอ่างขางช่วงหน้าฝน แม้แสงแดดท้องฟ้าจะไม่ใสดูขุ่นมัว บางช่วงฟ้าครึ้มขมุกขมัว และมีฝนตกหนัก-เบา ตกปรอยๆบ้างเป็นช่วงๆ แต่ว่าบรรยากาศบนนี้ยอดเยี่ยมไม่เบา ร่มรื่นชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ชวนเพลินตาสบายใจไปกับความเขียวขจีของธรรมชาติ ขุนเขา แมกไม้ ได้อารมณ์โรแมนติกแบบชวนเหงาๆ เหมาะต่อการมาพักผ่อนแบบสโลวไลฟ์ไม่เร่งรีบ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันสุดฟิน ท่ามกลางขุนเขา สวนสวย ดอกไม้งาม
สำหรับ“สวนแปดสิบ”ที่ถือเป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ภายในสถานีฯอ่างขางก็ยังคงงดงามไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน หลักๆจะเป็นดอกไม้งามประจำช่วงฤดูฝน นำโดย“ดอกม่วงอัมรินทร์”( Tibouchina urvilleana)ที่ออกดอกสีม่วงสดดูโดดเด่น
ม่วงอัมรินทร์ เป็นไม้พุ่มอายุหลายปี สกุลเดียวกับดอกโคลงเคลงของไทยเรา แต่ทรงพุ่ม ลำต้นและกลีบดอกใหญ่กว่า ซึ่งดอกจะบานตลอดในช่วงเดือนกันยายน
นอกจากนี้ในสวนแปดสิบ(หน้าฝน)ยังมีดอกไม้ที่มีสีสดใสหลากสีสัน ทั้งสี แดง ชมพู เหลือง ขาว คือ“ดอกเดเลีย”(Dahlia) หรือที่มีชื่อไทยนิยมเรียกขานกันว่า รักเร่, รักแรก , ดาเลีย เป็นต้น
เดเลียเป็นพืชวงศ์เดียวกับเดซี่(Daisy) คือ Asteracea (syn. Compositae) ซึ่งหมายถึงมีดอกลักษณะเดียวกับพระอาทิตย์ เดเลียเป็นไม้ดอกที่มีถิ่นกำเนิดใน เม็กซิโก โคลัมเบีย และในทวีปอเมริกากลาง
ในหน้าฝนนี้นอกจากนี่สวนแปดสิบแล้ว ที่บริเวณแปลงสาธิตดอกไม้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งซึ่งสามารถชมความงามของเหล่าดอกไม่ได้เป็นที่เพลิดเพลิน
ขณะที่เหล่าพืชผลผลิตทางการเกษตรนั้น ช่วงหน้าฝนอย่างนี้ภายในสถานีฯอ่างขางจะเป็นช่วงเวลาทองของผลไม้อย่าง “พลับ” ที่ให้ผลสีเหลืองชวนกิน
พลับที่ที่สถานีฯอ่างขาง ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้นำพันธุ์ต่างๆเข้ามาวิจัยร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2512 ที่สถานีวิจัยดอยปุย จนกระทั่งประสบผลสำเร็จสามารถส่งเสริมปลูกเป็นการค้า โดยวงจรของลูกพลับบนดอยอ่างขาง ในช่วงเดือนมีนาคม พลับจะเริ่มออกดอก หลังจากนั้นจะมีการปลิดผลเพื่อห่อผลในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม และเก็บเกี่ยวผลผลิตสด เดือนสิงหาคม - กันยายนของทุกปี ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้นับเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ลิ้มรสพลับสดๆใหม่ๆจากต้นบนดอยอ่างขางกัน
ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นบนดอยอ่างขางในช่วงหน้าฝนก็คือเรื่องของ“ราคาที่พัก” ที่ลดราคาลงมาจากช่วงหน้าไฮต์ซีซั่นเกือบครึ่งเลยทีเดียว ภายในสถานีฯมีที่พักหลักร้อยให้เลือกพักกันอย่างสบายใจ สบายกระเป๋า
4...
สำหรับอีกหนึ่งมนเสน่ห์ที่แตกต่างและเป็นความพิเศษชวนประทับใจในช่วงหน้าฝนก็คือ บรรยากาศยามเช้า(ของวันที่ฝนไม่ตก) ซึ่งในยามเช้าตรู่บนดอยอ่างขางเราคงไม่ต้องไปรอลุ้นเฝ้ารอชมความงามยามพระอาทิตย์ขึ้นให้เสียเวลา เพราะโอกาสที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงกลมโตเป็นไข่แดงค่อยๆโผล่แย้มกลีบเมฆอวดโฉมความงามขึ้นมาท่ามกลางทะเลหมอกและสภาพแสงอันสวยงามนั้น มีโอกาสน้อยถึงน้อยมาก(ถ้าไม่โชคดี(มาก)จริงๆ
แต่สิ่งที่ถือเป็นเสน่ห์สำคัญก็คือทะเลหมอกหรือสายหมอกยามเช้าในช่วงฤดูฝนที่มีโอกาสพบเจอได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเช้าหลังฝนตกยามเย็น-กลางคืนของเมื่อวันวาน
ในทริปนี้หลังฝนโปรยสายมาในตอนค่ำ วันรุ่งขึ้นผมออกไปเฝ้ารอชมทะเลหมอกยามเช้ากันที่บ้านนอแล ที่บรรยากาศของหมู่บ้านนอแลนั้นก็มากไปด้วยสีสัน เห็นชาวปะหล่องโดยเฉพาะผู้หญิงใส่ชุดชนเผ่าของตัวเองตามวิถีดูเป็นที่เพลิดเพลิน เหล่าเด็กเล็กที่ต้องขึ้นรถไปโรงเรียนมีทั้งส่งเสียงดัง พูดคุย หยอกล้อ บ้างร้องไห้จ้า เพราะไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งพ่อแม่ต้องมาคอยปลอบคอยดุ เป็นบรรยากาศการจับปูใส่กระด้งที่มีสีสันไม่น้อย
ชาวบ้านนอแลบอกกับผมว่า โครงการหลวงช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้นมาก เด็กๆได้รับโอกาสทางการศึกษา พวกผู้ใหญ่ได้รับโอกาสในอาชีพการงาน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีมือถือใช้ บ้านเรือนติดจานดาวเทียม มีมอเตอร์ไซค์หรือไม่ก็มีรถกระบะไว้ส่งพืชผัก แต่กระนั้นชาวปะหล่องส่วนใหญ่ก็ยังคงมีวิถีแบบดั้งเดิมผสมผสานกันอยู่ เช่น ยังแต่งชุดประจำถิ่น ยังมีการขี่ม้า มีฬ่อ ที่แม้จะเน้นเพื่อการริการนักท่องเที่ยวเป็นหลักก็ตามที
ขณะที่บรรยากาศของทะเลหมอกในเช้าวันนั้น ผมได้เห็นทะเลหมอกฟุ้งๆหรือแบบที่เรียกกันในภาษาวัยรุ่นว่า“ทะเลหมอกฟรุ้งฟริ้ง” ลอยเป็นสายสวยงามไต่ไร่เรี่ยในลักษณะ“หมอกไหล”ไปตามขุนเขา ท่ามกลางหมู่บ้าน โรงเรือน แปลงผักที่ปลูกเป็นขั้นบันไดดูสวยงามยิ่งนัก
นับเป็นความงามที่ก่อกำเนิดขึ้นหลังโครงการหลวงได้เข้ามาช่วยพลิกฟื้น เปลี่ยนสภาพของ“ดอยอ่างขาง”จากเขาหัวโล้นป่าเสื่อมโทรม ให้กลายเป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์สวยงาม จนได้รับฉายาว่า “อ่างขาง ดอยมหัศจรรย์”
นับเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นภายใต้พระบารมีอย่างแท้จริง
นับเป็นความงามที่ก่อกำเนิดขึ้นหลังโครงการหลวงได้เข้ามาช่วยพลิกฟื้น เปลี่ยนสภาพของ“ดอยอ่างขาง”จากเขาหัวโล้นป่าเสื่อมโทรม ให้กลายเป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์สวยงาม จนได้รับฉายาว่า “อ่างขาง แดนมหัศจรรย์”
นับเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นภายใต้พระบารมีอย่างแท้จริง
***********************************************************
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ตั้งอยู่ที่บ้านคุ้ม ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ติดต่อสอบถามข้อมูลและบ้านพักได้ที่ โทร.0-5345-0107-9 ต่อสโมสร(ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) 113 ต่อบ้านพัก 114 หรือดูที่ www.angkhangstation.com
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดเชียงใหม่เชื่อมโยงกับดอยอ่างขางได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ (พื้นที่รับผิดชอบ เชียงใหม่,ลำปาง,ลำพูน) โทร. 0 5324 8604-5
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
“ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก”
พระราชดำริอันเกิดจากสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ได้นำมาสู่การก่อกำเนิด“โครงการหลวง”ขึ้นมา โดยมี“สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” บน“ดอยอ่างขาง” อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ถือกำเนิดขึ้นเป็นโครงการหลวงแห่งแรกของเมืองไทยในปี พ.ศ. 2512
จากนั้นพื้นที่ดอยอ่างขางได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พลิกฟื้นของภูเขาหัวโล้นแล้งโล่ง อันเกิดจากการปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอยให้กลายเป็น แหล่งเพาะปลูกพืชผัก ดอกไม้ ผลไม้เมืองหนาวอันอุดมสมบูรณ์ ช่วยให้ชาวเขามีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ผลพลอยได้จากโครงการหลวงยังทำให้ดอยอ่างขางร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ มีทัศนียภาพอันงดงาม จนปัจจุบันดอยอ่างขางเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันงดงามขึ้นชื่อของเมืองไทย ที่มีผู้คนเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมสัมผัสในความงามกันไม่ได้ขาด
1...
ความงดงามของดอยอ่างขาง ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน“สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”อันเลื่องชื่อ
สำหรับผู้ที่ขึ้นมาแอ่วดอยแห่งนี้จะได้สัมผัสกับความงามอันหลากหลายทั้งในพื้นที่สถานีฯอ่างขางและนอกพื้นที่สถานีฯอ่างขาง ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิว หมู่บ้านต่างๆ แปลงปลูกพืชผัก โดยผมขอเริ่มแนะนำจากนอกพื้นที่สถานีฯก่อนหมู่บ้านชาวเขาต่างๆ ที่น่าสนใจไปด้วยวัฒนธรรมวิถีชีวิต และวิถีชุมชนของแต่ละชนเผ่าอันทรงเสน่ห์ ได้แก่
-“บ้านนอแล” หมู่บ้านของชาวเขาเผ่า“ปะหล่อง”หรือ“ดาละอั้ง” ที่โดดเด่นไปด้วยการแต่งกายอันสวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะกับ “หน่องว่อง” หรือห่วงที่เอวอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของผู้หญิงปะหล่องที่นี่ รวมถึงในบริเวณหมู่บ้านนอแลยังมีไร่สตรอว์เบอร์รี่ และแปลงพืชผักเมืองหนาวที่ปลูกลดหลั่นกันไปตามไหล่เขาดูสวยงามน่ายล
-“บ้านขอบด้ง” ตั้งอยู่บริเวณสันขอบดอยอ่างขาง เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่า“มูเซอ” ที่มีทั้ง“มูเซอดำ”และ“มูเซอแดง” บ้านขอบด้งนอกจากจะเป็นจุดชมวิวอันสวยงามแล้ว ยังมีวิถีวัฒนธรรมของชาวมูเซออันน่าสนใจให้เที่ยวชมกันอีกด้วย
-“บ้านหลวง” หมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่อพยพมาจากประเทศจีนตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งโดดเด่นชวนสัมผัสไปกับภาพวิถีวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนาน พร้อมทั้งมีอาหารจีนยูนนานอร่อยๆให้ได้ลองลิ้มชิมรส และมีโรงงานดองท้อ บ๊วย ด้วยแรงงานคนที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
-“บ้านคุ้ม”ตั้งอยู่หน้าสถานีฯ มีทั้งชาวไทยใหญ่ จีนยูนานอาศัยอยู่ร่วมกัน ถือเป็นศูนย์กลางความเจริญ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไว้บริการนักท่องเที่ยว
ในพื้นที่นอกสถานีฯอ่างขาง ยังมี จุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอกอันสวยงามอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเส้นทางไปหมู่บ้านนอแลซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับแสงอรุณแรก ทะเลหมอก และตะวันลับขอบฟ้าได้สวยงาม, จุดชมวิวชายแดนไทย-พม่า ที่อยู่บริเวณฐานปฏิบัติการบ้านนอแลซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของฝั่งประเทศพม่าได้,จุดสูงสุดของดอยอ่างขางบนความสูง 1,928 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นอกจากจะมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามแล้ว ในช่วงเดือนธันวาคมยังมีกุหลาบพันปีออกดอกปีละครั้งผลิบานตลอดทางเดินขึ้น และ จุดชมวิวขอบด้ง ที่เป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและจุดชมทะเลหมอกอันงดงาม โดยบริเวณจุดชมวิวจะมีชาวบ้านนำสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนมาวางขายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกหากัน
2…
มาดูสิ่งน่าสนใจในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางกันบ้าง ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ทางการท่องเที่ยวของดอยอ่างขางแห่งนี้ โดยภายในสถานีฯ มีจุดเที่ยวชมน่าสนใจ ได้แก่
-สวนกลางแจ้ง บริเวณสโมสรอ่างขางมีสวนกลางแจ้งหลายสวน ที่ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้แตกต่างกันตามความเหมาะสมของฤดูกาล ได้แก่ สวนคำดอย, สวนหอม, สวนสมเด็จ และ สวนกุหลาบอังกฤษ, สวน Formal Garden, แปลงสาธิตไม้ดอกกลางแจ้ง และ“สวนแปดสิบ” ที่เป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญอีกจุดหนึ่งบนดอยอ่างขาง
-โรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผัก จัดแสดงพันธุ์ผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ ที่ปลูกในพื้นที่โครงการหลวง อาทิเช่น ผักตระกูลสลัดหลายชนิด, ผักตระกูลกะหล่ำ, ผักตระกูลมะเขือ, ผักตระกูลถั่ว และผักตระกูลแครอท รวมทั้งยังมีผักแปลกใหม่หลายชนิด เช่น สวิสชาร์ด, รูบาร์บ, อาร์ติโช๊ค และสมุนไพรต่างประเทศทั้งโรสแมรี่ และลาเวนเดอร์
-สวนบอนไซ ภายในสวนจัดแสดงพันธุ์ไม้ยุคต้นๆของสถานีฯ อ่างขางในรูปแบบการปลูกเลี้ยงในกระถาง ทั้งบอนไซไม้ดอก ไม้ผล และไม้โตเร็วเมืองหนาว นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง พืชทนแล้ง, พืชกินแมลง และสวนหินธรรมชาติซึ่งเป็นจุดชมวิวภายในสถานีฯ
-โรงเรือนไม้ดอก กับการจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวภายในโรงเรือนที่มีพันธุ์ไม้สวยงามให้ได้ชมตลอดปี อาทิ บีโกเนีย รองเท้านารี พืชกินแมลง ซึ่งดอกไม้ภายในโรงเรือนจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกดอกไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ในโรงเรือนไม้ดอกยังมีมุมน้ำตกจำลองเก๋ๆชุ่มฉ่ำสวยงาม มาช่วยสร้างสีสันให้โรงเรือนหลังนี้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้นไปอีก
-โรงเรือนกุหลาบตัดดอก ภายในโรงเรือนจะรวบรวมกุหลาบตัดดอกเพื่อการค้า ที่มีกลิ่นหอม ก้านยาว น่ายลไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีสันชูช่อสะพรั่ง
นอกจากนี้บนดอยอ่างขางยังมีกิจกรรมเด่นๆให้เราได้เพลิดเพลิน อาทิ
-ขี่จักรยานชมธรรมชาติ สถานีฯอ่างขางมีบริการจักรยานให้เช่าปั่นชมแปลงเกษตรภายในสถานีฯ ในช่วงฤดูหนาว ช่วยเพิ่มความสนุกสนานน่าตื่นเต้นในการเที่ยวชม
-ขี่ฬ่อชมธรรมชาติ สถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีการจัดกลุ่มชาวบ้านนำฬ่อมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ขี่ชมสถานที่บริเวณแปลงต่างๆ ผู้สนใจสามารถติดต่อเช่าขี่ฬ่อได้ที่สถานีฯ อ่างขาง
-เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เป็นเส้นทางเดินในแปลงปลูกป่าของสถานีฯ อ่างขางซึ่งเป็นไม้ที่นำเข้ามาจากประเทศไต้หวัน นักท่องเที่ยวสนใจเดินในเส้นทางของสถานีฯ อ่างขางสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลก่อนการเที่ยวชมได้
-ดูนก ดอยอ่างขางเป็นสถานที่ดูนกที่มีนกหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่จะมีนกอพยพหาดูยากมายังบริเวณสถานีฯ อ่างขางรวมถึงพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งชมรม “ ฅนรักษ์นกอ่างขาง ” โดยสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มีข้อมูลไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจดูนกที่อ่างขาง
3...
พูดถึงดอยอ่างขาง แน่นอนว่าไฮไลท์การมาเที่ยวที่นี่ต้องเป็นในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเหน็บ มีดอกไม้หลากสีสันออกดอกสวยงามสะพรั่ง ฟ้าใส เมฆสวย ทะเลหมอกลอยพริ้งพราย
อย่างไรก็ดีดอยอ่างขาง ใช่เพียงมีมนต์เสน่ห์เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ในช่วงฤดูร้อนฤดูฝน ก็ยังคงน่าเที่ยว บนนั้นยังคงมีอากาศเย็นสบายให้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศแห่งขุนเขาดอกไม้งาม ซึ่งในช่วงหน้าฝนปีนี้ผมมีโอกาสขึ้นไปเที่ยวดอยอ่างขางอีกครั้ง ได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของดอยแห่งนี้ในอารมณ์ที่แตกต่างไปจากช่วงหน้าหนาวพอสมควร
ดอยอ่างขางช่วงหน้าฝน แม้แสงแดดท้องฟ้าจะไม่ใสดูขุ่นมัว บางช่วงฟ้าครึ้มขมุกขมัว และมีฝนตกหนัก-เบา ตกปรอยๆบ้างเป็นช่วงๆ แต่ว่าบรรยากาศบนนี้ยอดเยี่ยมไม่เบา ร่มรื่นชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ชวนเพลินตาสบายใจไปกับความเขียวขจีของธรรมชาติ ขุนเขา แมกไม้ ได้อารมณ์โรแมนติกแบบชวนเหงาๆ เหมาะต่อการมาพักผ่อนแบบสโลวไลฟ์ไม่เร่งรีบ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันสุดฟิน ท่ามกลางขุนเขา สวนสวย ดอกไม้งาม
สำหรับ“สวนแปดสิบ”ที่ถือเป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ภายในสถานีฯอ่างขางก็ยังคงงดงามไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน หลักๆจะเป็นดอกไม้งามประจำช่วงฤดูฝน นำโดย“ดอกม่วงอัมรินทร์”( Tibouchina urvilleana)ที่ออกดอกสีม่วงสดดูโดดเด่น
ม่วงอัมรินทร์ เป็นไม้พุ่มอายุหลายปี สกุลเดียวกับดอกโคลงเคลงของไทยเรา แต่ทรงพุ่ม ลำต้นและกลีบดอกใหญ่กว่า ซึ่งดอกจะบานตลอดในช่วงเดือนกันยายน
นอกจากนี้ในสวนแปดสิบ(หน้าฝน)ยังมีดอกไม้ที่มีสีสดใสหลากสีสัน ทั้งสี แดง ชมพู เหลือง ขาว คือ“ดอกเดเลีย”(Dahlia) หรือที่มีชื่อไทยนิยมเรียกขานกันว่า รักเร่, รักแรก , ดาเลีย เป็นต้น
เดเลียเป็นพืชวงศ์เดียวกับเดซี่(Daisy) คือ Asteracea (syn. Compositae) ซึ่งหมายถึงมีดอกลักษณะเดียวกับพระอาทิตย์ เดเลียเป็นไม้ดอกที่มีถิ่นกำเนิดใน เม็กซิโก โคลัมเบีย และในทวีปอเมริกากลาง
ในหน้าฝนนี้นอกจากนี่สวนแปดสิบแล้ว ที่บริเวณแปลงสาธิตดอกไม้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งซึ่งสามารถชมความงามของเหล่าดอกไม่ได้เป็นที่เพลิดเพลิน
ขณะที่เหล่าพืชผลผลิตทางการเกษตรนั้น ช่วงหน้าฝนอย่างนี้ภายในสถานีฯอ่างขางจะเป็นช่วงเวลาทองของผลไม้อย่าง “พลับ” ที่ให้ผลสีเหลืองชวนกิน
พลับที่ที่สถานีฯอ่างขาง ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้นำพันธุ์ต่างๆเข้ามาวิจัยร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2512 ที่สถานีวิจัยดอยปุย จนกระทั่งประสบผลสำเร็จสามารถส่งเสริมปลูกเป็นการค้า โดยวงจรของลูกพลับบนดอยอ่างขาง ในช่วงเดือนมีนาคม พลับจะเริ่มออกดอก หลังจากนั้นจะมีการปลิดผลเพื่อห่อผลในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม และเก็บเกี่ยวผลผลิตสด เดือนสิงหาคม - กันยายนของทุกปี ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้นับเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ลิ้มรสพลับสดๆใหม่ๆจากต้นบนดอยอ่างขางกัน
ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นบนดอยอ่างขางในช่วงหน้าฝนก็คือเรื่องของ“ราคาที่พัก” ที่ลดราคาลงมาจากช่วงหน้าไฮต์ซีซั่นเกือบครึ่งเลยทีเดียว ภายในสถานีฯมีที่พักหลักร้อยให้เลือกพักกันอย่างสบายใจ สบายกระเป๋า
4...
สำหรับอีกหนึ่งมนเสน่ห์ที่แตกต่างและเป็นความพิเศษชวนประทับใจในช่วงหน้าฝนก็คือ บรรยากาศยามเช้า(ของวันที่ฝนไม่ตก) ซึ่งในยามเช้าตรู่บนดอยอ่างขางเราคงไม่ต้องไปรอลุ้นเฝ้ารอชมความงามยามพระอาทิตย์ขึ้นให้เสียเวลา เพราะโอกาสที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงกลมโตเป็นไข่แดงค่อยๆโผล่แย้มกลีบเมฆอวดโฉมความงามขึ้นมาท่ามกลางทะเลหมอกและสภาพแสงอันสวยงามนั้น มีโอกาสน้อยถึงน้อยมาก(ถ้าไม่โชคดี(มาก)จริงๆ
แต่สิ่งที่ถือเป็นเสน่ห์สำคัญก็คือทะเลหมอกหรือสายหมอกยามเช้าในช่วงฤดูฝนที่มีโอกาสพบเจอได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเช้าหลังฝนตกยามเย็น-กลางคืนของเมื่อวันวาน
ในทริปนี้หลังฝนโปรยสายมาในตอนค่ำ วันรุ่งขึ้นผมออกไปเฝ้ารอชมทะเลหมอกยามเช้ากันที่บ้านนอแล ที่บรรยากาศของหมู่บ้านนอแลนั้นก็มากไปด้วยสีสัน เห็นชาวปะหล่องโดยเฉพาะผู้หญิงใส่ชุดชนเผ่าของตัวเองตามวิถีดูเป็นที่เพลิดเพลิน เหล่าเด็กเล็กที่ต้องขึ้นรถไปโรงเรียนมีทั้งส่งเสียงดัง พูดคุย หยอกล้อ บ้างร้องไห้จ้า เพราะไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งพ่อแม่ต้องมาคอยปลอบคอยดุ เป็นบรรยากาศการจับปูใส่กระด้งที่มีสีสันไม่น้อย
ชาวบ้านนอแลบอกกับผมว่า โครงการหลวงช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้นมาก เด็กๆได้รับโอกาสทางการศึกษา พวกผู้ใหญ่ได้รับโอกาสในอาชีพการงาน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีมือถือใช้ บ้านเรือนติดจานดาวเทียม มีมอเตอร์ไซค์หรือไม่ก็มีรถกระบะไว้ส่งพืชผัก แต่กระนั้นชาวปะหล่องส่วนใหญ่ก็ยังคงมีวิถีแบบดั้งเดิมผสมผสานกันอยู่ เช่น ยังแต่งชุดประจำถิ่น ยังมีการขี่ม้า มีฬ่อ ที่แม้จะเน้นเพื่อการริการนักท่องเที่ยวเป็นหลักก็ตามที
ขณะที่บรรยากาศของทะเลหมอกในเช้าวันนั้น ผมได้เห็นทะเลหมอกฟุ้งๆหรือแบบที่เรียกกันในภาษาวัยรุ่นว่า“ทะเลหมอกฟรุ้งฟริ้ง” ลอยเป็นสายสวยงามไต่ไร่เรี่ยในลักษณะ“หมอกไหล”ไปตามขุนเขา ท่ามกลางหมู่บ้าน โรงเรือน แปลงผักที่ปลูกเป็นขั้นบันไดดูสวยงามยิ่งนัก
นับเป็นความงามที่ก่อกำเนิดขึ้นหลังโครงการหลวงได้เข้ามาช่วยพลิกฟื้น เปลี่ยนสภาพของ“ดอยอ่างขาง”จากเขาหัวโล้นป่าเสื่อมโทรม ให้กลายเป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์สวยงาม จนได้รับฉายาว่า “อ่างขาง ดอยมหัศจรรย์”
นับเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นภายใต้พระบารมีอย่างแท้จริง
นับเป็นความงามที่ก่อกำเนิดขึ้นหลังโครงการหลวงได้เข้ามาช่วยพลิกฟื้น เปลี่ยนสภาพของ“ดอยอ่างขาง”จากเขาหัวโล้นป่าเสื่อมโทรม ให้กลายเป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์สวยงาม จนได้รับฉายาว่า “อ่างขาง แดนมหัศจรรย์”
นับเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นภายใต้พระบารมีอย่างแท้จริง
***********************************************************
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ตั้งอยู่ที่บ้านคุ้ม ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ติดต่อสอบถามข้อมูลและบ้านพักได้ที่ โทร.0-5345-0107-9 ต่อสโมสร(ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) 113 ต่อบ้านพัก 114 หรือดูที่ www.angkhangstation.com
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดเชียงใหม่เชื่อมโยงกับดอยอ่างขางได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ (พื้นที่รับผิดชอบ เชียงใหม่,ลำปาง,ลำพูน) โทร. 0 5324 8604-5
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com