xs
xsm
sm
md
lg

เดินป่า ขึ้นเขา ชมธรรมชาติมุมสูงให้ชุ่มปอด ที่ “สิงคโปร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

MacRitchie Reservoir Park
หากนึกถึงประเทศสิงคโปร์ หลายคนคงนึกถึงภาพตึกรามบ้านช่องที่สะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบเรียบร้อย มีผู้คนเดินขวักไขว่ มีห้างสรรพสินค้าและร้านรวงต่างๆ ให้เดินชอปปิ้งกันได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

แต่ถึงจะมีภาพลักษณ์เป็นเมืองที่ทันสมัย สิงคโปร์ก็ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสีเขียวอีกแห่งหนึ่งของโลก ที่ไม่ว่ามองไปทางไหนก็จะเห็นต้นไม้สีเขียวๆ สบายตาอยู่รอบๆ ตัว ซึ่งก็ถือว่าเป็นส่วนที่ช่วยให้ผู้คนในเมืองใหญ่แบบนี้รู้สึกผ่อนคลายได้ไม่มากก็น้อย
ช่วงวันหยุดก็มีคนมาทำกิจกรรมทางน้ำ
หากเมื่อออกนอกใจกลางเมืองใหญ่ไปอีกนิด สิงคโปร์ก็ยังมีป่าเขาและธรรมชาติให้คนได้ออกไปสัมผัสกัน อย่างเช่นที่ “MacRitchie Reservoir Park” ที่นี่เป็นอ่างเก็บน้ำเก่าแก่ของสิงคโปร์ และเป็นหนึ่งในสี่อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเขตป่าสงวนของสิงคโปร์ ทางรัฐบาลได้จัดให้พื้นที่รอบๆ ป่าสงวนเป็นสวนสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ส่วนชื่อของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ตั้งขึ้นตามชื่อของ James MacRitchie ผู้เป็นวิศวกรที่ออกแบบและสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้นั่นเอง และปัจจุบัน ก็ได้ใช้น้ำจากที่นี่ในการผลิตน้ำประปาบนเกาะสิงคโปร์ด้วย

บริเวณรอบๆ อ่างเก็บน้ำจะเป็นป่าเขาที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีเส้นทางเดินป่ารอบๆ อ่างเก็บน้ำอยู่หลายเส้นทาง โดยมีระยะทางตั้งแต่ 3 - 11 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเลือกเดินได้ตามความพอใจและสภาพร่างกาย บางช่วงของทางเดินเป็นถนนพื้นเรียบ บ้างก็เป็นสะพานไม้ บางจุดก็เป็นเส้นทางลัดเลาะผ่านป่าเขา จึงขอแนะนำให้คนที่จะมาเดินป่าที่นี่ ควรจะสวมรองเท้ากีฬาที่ใส่สบาย เพราะด้วยระยะทางที่ไกล และบางส่วนของเส้นทางยังมีความขรุขระ ถ้าใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับสภาพพื้นที่อาจจะทำให้เดินไปไม่ถึงจุดหมายก็เป็นได้
ทางเดินป่าภายใน MacRitchie Reservoir Park
บริเวณพื้นที่รอบๆ อ่างเก็บน้ำนั้น เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายของชาวสิงคโปร์ รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย เพราะรัฐบาลจัดให้ที่นี่เป็นแหล่งกิจกรรมทั้งทางบกและทางน้ำสำหรับผู้ที่รักความเป็นธรรมชาติ หากมาเยือนที่นี่ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ก็จะเป็นชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ร่วมกันทำกิจกรรมหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การเดินเล่น นั่งพักผ่อน วิ่งมาราธอน เดินป่า พายเรือคายัค ฯลฯ

แต่ไฮไลต์ของเราในครั้งนี้ อยู่ที่การไปพิสูจน์ความเสียวกันที่ “HSBC TREETOP WALK” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ MacRitchie Reservoir Park และเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายๆ คนอยากขึ้นไปสัมผัส เพราะนอกจากความเสียวที่จะต้องเดินผ่านสะพานสูงสุดยอดไม้ ก็ยังได้ชมธรรมชาติจากมุมสูง ได้สูดอากาศสดชื่นจนเต็มปอดอีกด้วย

เริ่มต้นเส้นทางการเดินสู่ทรีทอปวอล์ค ก็ต้องเดินผ่านทางเข้าหลักของ MacRitchie Reservoir Park ซึ่งบริเวณนี้จะมีจุดบริการ มีทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ จุดพักผ่อน เราจึงขอแนะนำว่าให้ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะกว่าจะเจอห้องน้ำอีกครั้งก็ต้องเดินไปอีก 5 กิโลเมตร นอกจากนี้ก็ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม ใส่เสื้อผ้าสบายๆ หรือชุดออกกำลังกาย ใส่รองเท้ากีฬา และพกน้ำเปล่าติดตัวไปสักขวด ถ้าพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางกันได้
ปากทางเข้าสู่สะพาน เดินตรงเข้าไปได้แต่ห้ามย้อนกลับ
เส้นทางการเดินในช่วงแรกนี้จะเป็นถนนเรียบๆ ลัดเลาะริมอ่างเก็บน้ำไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะเห็นผู้คนมาออกกำลังกายกัน บ้างก็เดิน บ้างก็วิ่ง บางคนก็จูงมือลูกหลายมาเดินเล่นรับอากาศสบายๆ ส่วนในอ่างเก็บน้ำนั้นก็จะเห็นคนมาพายเรือคายัคกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยรุ่นที่รวมตัวกันมาพร้อมกับเพื่อนฝูง เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่ามีลิงฝูงเล็กๆ ออกมาทักทายกันบ้าง ลองที่อยู่ที่นี่ค่อนข้างจะเชื่อง สามารถเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ ได้ แต่ห้ามให้อาหาร เพราะเป็นกฎของที่นี่

เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงปากทางเดินเข้าสู่ส่วนที่เป็นป่าเขา บริเวณนี้จะมีป้ายอธิบายกฎระเบียบ ข้อควรระวัง และหลักบอกระยะทาง เห็นป้ายแบบนี้แล้วก็เหมือนการเริ่มออกสตาร์ทการเดินป่าจริงๆ แล้ว ซึ่งเส้นทางการเดินไป-กลับ HSBC TREETOP WALK มีระยะทางราว 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินสบายๆ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เรียกว่าได้ไปออกกำลังขากันอย่างเต็มที่
สะพานสูงบนยอดไม้ ชมความเขียวขจีรอบๆ ตัว
เส้นทางในช่วงนี้จะเป็นเส้นทางเดินในป่า มีความขรุขระในบางช่วง บางช่วงเป็นหิน บางช่วงเป็นดิน เดินขึ้น-ลงเนินเขาไปเรื่อยๆ รอบๆ ตัวก็จะเป็นต้นไม้น้อยใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น ถ้าเดินแบบสบายๆ ไม่รีบร้อน ก็ลองสังเกตต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ ตัว ชมความเขียวชอุ่มให้สบายตา หรือหากจะลองสังเกตคนรอบๆ ตัวเรา ก็จะเห็นทั้งคนที่เดินไปเรื่อยๆ อย่างเรา หรือคนที่มาวิ่งออกกำลังกายอย่างจริงจัง

เดินบ้างพักบ้างมาเรื่อยๆ ตามทาง พอขาเริ่มตึงๆ ก็มาถึงปากทางเดินเข้าสู่ HSBC TREETOP WALK ซึ่งจะมีจุดบริการให้ข้อมูล มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลืออยู่ ซึ่งสะพานแห่งนี้ใช้เชื่อมเนินเขา 2 ลูก มีความยาวประมาณ 250 เมตร และมีความเสียวที่ประมาณไม่ได้สำหรับคนที่กลัวความสูง แต่ไหนๆ ก็มาถึงปากประตูแล้ว ก็ต้องเข้าไปสัมผัสให้ได้สักหน่อย

กฎการเดินเข้าสู่สะพานแห่งนี้คือ เดินได้ทางเดียว ถ้ามย้อนศรกลับเด็กขาด เรียกว่าวัดใจกันไปเลยทีเดียว ถ้าใครที่กลัวความสูงก็เดินขาสั่นกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงปลายทาง แต่หากได้มองออกไปรอบๆ ตัวแล้ว ก็อาจจะลืมความกลัวไปชั่วขณะ เพราะความเขียวขจีของต้นไม้ที่อยู่เบื้องล่างนั้น ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมามากๆ มองออกไปไกลสุดสายตาก็เป็นท้องฟ้าและต้นไม้เขียวๆ
HSBC TREETOP WALK
อันที่จริงแล้ว สะพานนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวมากอย่างที่คิด เพราะตัวสะพานแข็งแรงดี มีตาข่ายกั้นทั้งสองข้างทาง สะพานก็ไม่ได้กวัดแกว่งไปตามลม อาจจะมีโยกไหวบ้างในช่วงตรงกลาง แต่ก็นิ่งพอที่จะสามารถแอคท่าถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ แต่ด้วยขนาดความกว้างของสะพานที่ไม่มากนัก พอให้คนสองคนเดินแทรกผ่านกันไปได้ เวลาถ่ายรูปจึงควรมองซ้ายมองขวาด้วย เผื่อว่าจะมีเพื่อนร่วมทางอยากเดินแซงหน้าไปก่อน

พอสุดทางเดินบนสะพานแล้ว ก็ลงมาสู่ทางเดินที่เป็นสะพานไม้ ลัดเลาะไปตามป่า ซึ่งระหว่างทางก็มีป้ายข้อมูลให้ความรู้เกี่ยวกับต้นไม้และระบบนิเวศ เดินอ่านเพลินๆ ก็จะถึงทางแยกให้เลือกว่าจะเดินวนออกไปเส้นทางเก่า หรือจะเดินออกไปในเส้นทางใหม่ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย
Merlion บน Mount Feber
ได้เดินบนสะพานสูงๆ แล้วก็ชักติดใจ ขอแวะไปอีกสักที่ที่สวยไม่แพ้กัน นั่นคือ “Henderson Waves Bridge” สะพานแห่งนี้เป็นสะพานคนเดินที่สูงที่สุดของสิงคโปร์ มีความสูง 36 เมตรเหนือถนน Henderson และมีความยาว 274 เมตร เชื่อมต่อระหว่างป่าสองแห่งคือ Mount Faber Park และ Telok Blangah Hill Park

เราเดินทางมาที่ Henderson Waves Bridge โดยขึ้นทาง Mount Feber ซึ่งก็สามารถเดินทางขึ้นมาได้หลายแบบ ทั้งนั่งแท๊กซี่ขึ้นมาที่ยอดเขา Mount Feber นั่งเคเบิลคาร์มาลงที่ยอดเขา หรือจะนั่งรถเมล์มาลงที่ป้ายรถเมล์ด้านล่าง Henderson Waves Bridge ก็ได้ แต่ไหนๆ ก็มาถึงภูเขาแล้ว ก็ขอขึ้นไปสำรวจเสียหน่อยว่าด้านบนมีอะไรบ้าง

บน Mount Feber นั้น มีสถานีเคเบิลคาร์ที่วิ่งไปยังเกาะเซ็นโตซ่า มีร้านขายของและร้านอาหารวิวสวยๆ แล้วก็ยังมี Faber Point เป็นสวนเล็กๆ อยู่บนยอดเขา ที่สำคัญคือมีเจ้า Merlion มาซ่อนอยู่ที่นี่อีกหนึ่งตัว ซึ่งหากรวมแล้ว ประเทศสิงคโปร์มี Merlion ทั้งหมด 4 ตัว คือ 2 ตัวบริเวณริมอ่าวมารีน่า 1 ตัวบนเกาะเซ็นโตซ่า และอีก 1 ตัวบนยอดเขาแห่งนี้
Henderson Waves Bridge ยามพลบค่ำ
ส่วนการเดินต่อไปยัง Henderson Waves Bridge นั้น จะเดินลัดเลาะริมถนนจากบนยอดเขาไปอีกราวๆ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงสะพาน หรือหากใครที่มาด้วยรถเมล์ ก็เดินขึ้นบันไดขึ้นเขาไปประมาณ 10 นาที ก็จะถึงสะพานสวยๆ ที่ว่านี้

Henderson Waves Bridge เป็นสะพานที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามแปลกตา จนติดอันดับสะพานแปลกของโลก หากมองจากด้านข้างหรือด้านล่างของสะพาน จะเห็นเป็นรูปเกลียวคลื่นโค้งไปมา และยิ่งถ้ามาในช่วงพลบค่ำแล้ว ก็จะเห็นอีกความสวยงามแปลกตา เพราะที่นี่จะเปิดไฟให้แสงสีตั้งแต่ช่วง 19.00-02.00 น. ทำให้มองเห็นเป็นเกลียวคลื่นที่เปล่งแสงระยิบระยับสวยงาม

นอกจากจะมีดีไซน์งดงามแปลกตาแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นอีกจุดหนึ่งที่คนนิยมมานั่งพักผ่อนในยามเย็น หรือมาออกกำลังกาย มาถ่ายรูป และชมวิวสวยๆ ในมุมสูง ตรงส่วนที่เป็นโค้งของสะพาน สร้างให้เป็นที่นั่งพักได้ตลอดริมทางเดิน พื้นผิวไม้ที่ใช้ตกแต่งเป็นไม้เต็งและไม้ยางแปรรูป มีทั้งหมด 7 โค้งด้วยกัน ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและจุดท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์
ทางเดินบน OCBC Skyway
แถมอีกที่สำหรับใครที่ชอบมองต้นไม้ในมุมสูง แนะนำให้มาที่ Garden by the Bay ในช่วงค่ำๆ เพราะที่นี่จะมีการเปิดไฟให้ชม พร้อมแสงสีเสียงตระการตา

“Garden by the Bay” ได้รับการขนานนามว่าเป็นโอเอซิสใจกลางประเทศสิงคโปร์ ที่นี่เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ริมมารีน่าเบย์ รวบรวมพรรณไม้จากทั่วทุกมุมโลกมาจัดแสดงไว้ได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่เราขอแนะนำให้ไปชมก็คือบริเวณของ Supertree Grove หรือต้นไม้ยักษ์ ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นแปลกตาอยู่ภายในสวน มีถึง 18 ต้น และแต่ละต้นมีขนาดความสูงแตกต่างกันไปตั้งแต่ 25-50 ม. หรือมีความสูงประมาณเท่ากับตึก 9-16 ชั้น
การแสดง Garden Rhapsody
ต้นไม้ยักษ์เหล่านี้ถูกออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษให้เป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่ มีพวกไม้เลื้อยเขตร้อน พืชอิงอาศัย และเฟิร์นเมืองร้อนประดับประดาพันเกี่ยวอยู่ตามลำต้น และต้นไม้ยักษ์เหล่านี้ยังมีทางเดินให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเดินเล่นชมวิวมุมสูงบนทางเดินลอยฟ้า (OCBC Skyway) ที่มีความยาว 128 ม. เชื่อมต่อระหว่างต้นไม้ 2 ต้น ซึ่งถ้าใครไม่กลัวความสูงเดินขึ้นไปก็จะได้ชมวิวสิงคโปร์ในมุมสูงที่สวยงาม และต้นไม้ยักษ์นี้ในเวลากลางคืนจะงดงามไปอีกแบบ เพราะว่ามีแสงไฟหลากสีสันประดับประดาไว้ แถมยังมีการแสดง แสง สี เสียง “Garden Rhapsody” ประกอบดนตรีให้ได้ดูกันด้วย

นอกจากจะนั่งชมแสงสียามค่ำคืนของ Supertree Grove ภายในบริเวณของ Garden by the Bay แล้ว “ตะลอนเที่ยว” ขอแนะนำอีกจุดที่สามารถชมแสงสีสวยๆ ในมุมสูงได้อีกแห่งคือ บริเวณสะพานทางเชื่อมระหว่าง Garden by the Bay และ Marina Bay Sands ที่จะสามารถชม Supertree Grove ที่เรืองแสงสวยงาม และชมแสงสีรอบๆ สิงคโปร์ได้พร้อมๆ กันอีกด้วย

มาสิงคโปร์รอบนี้ ได้ชมธรรมชาติสวยๆ แบบจุใจ แถมยังได้วัดใจกับสะพานสูงๆ อีกหลายที่ เรียกว่าเป็นสิงคโปร์ในมุมใหม่ๆ ที่น่าประทับใจไม่น้อย
ชม Supertree Grove ในมุมสูง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

HSBC TREETOP WALK อยู่ภายใน MacRitchie Reservoir Park ซึ่งจะเปิดให้เข้าวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) วันอังคาร-ศุกร์ เปิดเวลา 9.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 8.30-17.00 น. (ประตูทางเข้า HSBC TREETOP WALK เปิดถึงเวลา 16.45 น.) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

Garden by the Bay เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากต้องการเข้าชมส่วนของโดมต่างๆ ต้องซื้อบัตรเข้าชม OCBC Skyway เปิดทุกวัน เวลา 9.00-21.00 (เปิดขายบัตรถึง 20.00 น.) ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 5 SGD และการแสดง Garden Rhapsody สามารถชมได้ฟรี โดยมีการแสดงวันละ 2 รอบ คือ 19.45 น. และ 20.45 น.

การเดินทางสู่ประเทศสิงคโปร์ มีหลายสายการบินที่บินตรงสู่สิงคโปร์ หนึ่งในนั้นคือ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่บินตรง ดอนเมือง-สิงคโปร์ ทุกวัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ www.airasia.com หรือโทร 0-2515-9999
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น