“น่าน” หนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ ที่ถูกรายล้อมด้วยทัศนียภาพอันสวยงามของภูเขา และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ได้ไปเยือน พร้อมทั้งมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมเมื่อครั้งอดีตที่เรียบง่าย ที่ยังไม่จางหายให้ได้สัมผัส จนทำให้จังหวัดแห่งนี้ได้ถูกคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้อยู่ในแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็น 1 ใน 12 “เมืองต้องห้าม...พลาด” ในชื่อ “น่านกระซิบรักเสมอดาว” ซึ่งทำให้ใครๆ ก็อยากจะมาเที่ยวที่ “น่าน” สักครั้งในชีวิต
และหากใครที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยวจังหวัดน่านแล้ว ก็ไม่ควรพลาดไปเยือน 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ใครๆ มาเที่ยวน่านก็ต้องไปเยือน เพราะเมื่อพลาดแล้วก็เหมือนกับมาไม่ถึงน่าน
สถานที่ท่องเที่ยวอันดับแรก คือ “วัดภูมินทร์” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ภายในวัดแห่งนี้มีความโดดเด่นของพระวิหารและพระอุโบสถเป็นหลังเดียวกันสร้างทรงจัตุรมุขดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัวที่ช่างโบราณได้สร้างสรรค์ขึ้นอย่างดงามให้ได้ชม และภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน “พระประธานจตุรทิศ” ซึ่งเป็นพระประธานปางมารวิชัยศิลปะสุโขทัยหันพระพักตร์ไปทางทิศทั้ง 4 อีกทั้งภายในพระอุโบสถแห่งนี้ก็ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามให้ได้ชม โดยเฉพาะภาพ “ปู่ม่าน ย่าม่าน” อันโด่งดังที่ได้ชื่อว่าเป็นภาพกระซิบรักบันลือโลก และใครที่มาเที่ยวน่านก็ต้องห้ามพลาดที่จะมาชม
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 2 ที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเมื่อได้มาเที่ยวจังหวัดน่าน คือ “พระธาตุแช่แห้ง” ตั้งอยู่ที่อำเภอภูเพียง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่านแห่งนี้ เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีเถาะ (ปีนักษัตรกระต่าย) องค์พระธาตุเป็นแบบล้านนาตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นสีทองสุกเปล่งปลั่ง โดยมีสันนิษฐานว่ามี อายุราว 600 ปี ซึ่งพญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย จนกลายเป็นอนุสรณ์ของความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต และด้านข้างองค์พระธาตุ ยังเป็นที่ตั้งของวิหารหลวงที่ภายในประดิษฐาน “พระเจ้าล้านทอง” พระประธานที่มีพุทธลักษณะงดงามให้ได้สักการะ
และสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 3 คือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำจังหวัดน่าน เมื่อครั้งอดีตเป็นที่ประทับของพระเจ้าสุริยพงษ์ผลิตเดชฯ พระเจ้าน่าน ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2446 จนกระทั่งกรมศิลปากรได้รับมอบอาคารจากกระทรวงมหาดไทย และทำการซ่อมแซม จนเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2530 โดยพื้นที่ภายในนั้นจัดแสดงโบราณคดีและประวัติศาสตร์ศิลปะของเมืองน่านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีโบราณวัตถุที่สำคัญจัดแสดงให้ได้ชม อาทิ งาช้างดำ, หีบพระธรรมไม้แกะสลัก ฝีมือช่างสกุลน่าน, สมุดข่อยอาณาจักรหลักคำกฎหมายเมืองน่าน, ศิลาจารึกหลักที่ 64 อักษรสุโขทัย
สถานที่ท่องเที่ยวที่ใครๆ ต้องมาเที่ยว แห่งที่ 4 ได้แก่ “วัดพระธาตุเขาน้อย” ในเขตอำเภอเมือง บนดอยเขาน้อยที่มีความสูง 240 เมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุเขาน้อยศิลปะพม่าผสมล้านนา ที่บรรจุพระเกศาธาตุขององค์พระพุทธเจ้าไว้ภายใน บริเวณบนเขายังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ ที่สามารถมองเป็นทิวทัศน์ของเมืองน่านมุมสูงได้อย่างชัดเจน และยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน” พระพุทธรูปปางลีลาที่หันพระพักตร์ไปทางตัวเมืองน่าน หากใครที่ต้องการจะชมเมืองวิวทิวทัศน์เมืองน่านมุมสูงก็ไม่ควรพลาดที่จะมา
“วัดศรีพันต้น” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 5 ที่ได้รับความนิยมของผู้ที่มาเยือนเมืองน่าน วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง วัดแห่งนี้สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา ภายในวัดแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของพระวิหารสีทองอร่ามถูกตกแต่งด้วยจิตรกรรมอันงดงาม โดยเฉพาะจิตรกรรมปูนปั้นพญานาคเจ็ดเศียรบริเวณบันไดหน้าวิหารที่งดงามอย่างมาก ซึ่งเป็นผีมือของนายอนุรักษ์ สมศักดิ์ หรือ "สล่ารง" ช่างชาวน่าน อีกทั้งภายในพระวิหารยังมีการเขียนภาพลายเส้นลงสีธรรมชาติสวยงามที่วาดเป็นประวัติของพระพุทธเจ้า และประวัติการกำเนิดเมืองน่านให้ได้ชมอีกด้วย
และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งที่ 6 ได้แก่ “หอศิลป์ริมน่าน” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง สถานที่แห่งนี้เป็นหอแสดงงานศิลปะขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน ก่อตั้งโดยศิลปินชาวน่าน วินัย ปราบริปู เพื่อให้หอศิลป์ริมน่านเป็นแหล่งรวมงานศิลปะและวัฒนธรรมของจัวหวัดน่าน โดยเป็นที่จัดเเสดงผลงานของศิลปินไทยร่วมสมัยที่มีผลงานการสร้างสรรค์โดดเด่น เเละเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน เเละยังถูกใช้เป็นที่ศึกษาศิลปะร่วมสมัยของนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจะจัดนิทรรศการหมุนเวียนให้ผู้ที่แวะเวียนมาได้ชมงานศิลป์ไปพร้อมๆ กับได้ชมทัศนียภาพของพื้นที่โดยรอบ ที่มีวิวแม่น้ำน่านพร้อมภูเขาที่โอบล้อม
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 7 ได้แก่ “ดอยเสมอดาว” อำเภอนาน้อย ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ที่งดงามไปด้วยมีวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อน อีกทั้งยังมีสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำน่าน และยังเป็นที่อยู่ของสัตว์หลากหลายชนิด อาทิ ช้างป่า, วัวแดง, กระทิง อีกทั้งภายในอุทยานแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวบนยอดหน้าผาสูง ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้อย่างดงามในมุม 360 องศา และมีลานกว้างตามสันเขาสำหรับพักผ่อน ดูพระอาทิตย์ตก ดูดาวและทะเลหมอกในฤดูหนาว ซึ่งในจุดนี้จึงเป็นที่มาของคำว่า “กระซิบรักเสมอดาว”
“วัดหนองบัว” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 8 ที่ควรไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อได้มาเที่ยวจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าวังผา เป็นวัดไทลื้อเก่าแก่ที่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 4 ราวปี พ.ศ. 2405 ภายในวัดเป็นที่ตั้งของวิหารไทลื้อแบบ “เตี้ยแจ้” ที่งดงามและเรียบง่าย ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวิหารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไทยลื้อที่สมบูรณ์ ภายในวิหารยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงามเล่าเรื่องในปัญญาชาดกซึ่งเป็นชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า และพื้นที่ด้านหลังวัดก็มีบ้านไทลื้อจำลองบอกเล่าการกินอยู่ของคนไทลื้อสมัยก่อนให้ได้ชมกัน
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 9 สุดท้ายแต่ไม่ท้ายที่สุด ที่ผู้คนมาเที่ยวน่านนิยมมาเยือน คือ “ดอยภูคา” ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดน่าน ได้แก่ อำเภอปัว, ท่าวังผา, ทุ่งช้าง, เชียงกลาง, บ่อเกลือ, สันติสุข, เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอแม่จริม ซึ่งดอยภูคาแห่งนี้เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดน่าน ที่มีความสูง 1,980 เมตร พื้นที่ภายในอุทยานมีความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่าที่สามารถพบพืชพรรณและสัตว์ป่าหายากได้หลากหลายชนิด และยังเป็นที่ที่สามารถพบ “ดอกชมพูภูคา” พรรณไม้หายากที่มีที่ดอยภูคาแห่งเดียวเท่านั้นให้ได้ชมความสวยงาม
และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดน่านแห่งสุดท้าย ได้แก่ “บ่อเกลือสินเธาว์” สถานที่ท่องเที่ยวที่ใครได้มาเยือนจังหวัดน่าน ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาชม ตั้งอยู่ที่อำเภอบ่อเกลือ สถานที่ดังกล่าวเป็นชุมชนชาวบ้านบ่อหลวง เป็นชุมชนโบราณที่สืบสานกรรมวิธีต้มเกลือสินเธาว์บนภูเขามาตั้งแต่อาณาจักรล้านนา ด้วยในสมัยก่อนพื้นที่แถบนี้เคยเป็นทะเลมาก่อนเมื่อหลายล้านปีก่อน ทำให้มีน้ำเค็มแทรกซึมใต้พื้นดินเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันบริเวณบ้านบ่อหลวงมีบ่อเกลือสินเธาว์อยู่ 2 บ่อ คือ บ่อเกลือเหนือและบ่อเกลือใต้ โดยชาวบ้านยังคงอนุรักษ์การทำเกลือด้วยวิธีเดิม และในทุกๆ วันแรม 8 ค่ำเดือน 5 จะทำพิธีเลี้ยงผีเมืองและเจ้ารักษาบ่อเกลือ เพื่อเป็นการขออนุญาตก่อนนำเกลือขึ้นมาต้ม ซึ่งกิจกรรมทั้งสองเป็นวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดน่านทั้ง 10 สถานที่นั้น ต่างมีความสวยงามแตกต่างกันไป เเละมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ใครที่มาเที่ยวน่านแล้วก็ควรวางแผนการท่องเที่ยวให้ดีๆ เพราะหากพลาดสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเหล่านี้แล้ว ก็อาจจะพูดไม่ได้ว่ามาถึงน่าน หรือเมื่อกลับบ้านไปก็อาจจะเสียใจในภายหลังก็เป็นได้
**********************************************************************************
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ (รับผิดชอบจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์) โทร.0-5452-1127 และทางอีเมล tatphrae@tat.or.th
**********************************************************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com