xs
xsm
sm
md
lg

ต้อนรับปีใหม่ กับอาหารมงคลจากนานาชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขนมหวานตระกูลทอง
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความรื่นเริง มีการเฉลิมฉลองกันไปทุกที่ ซึ่งนอกจากความยินดีปรีดาที่จะได้เริ่มต้นปีใหม่แล้ว แต่ละประเทศก็มีความเชื่อในเรื่องอาหารการกินที่เกี่ยวข้องกับการต้อนรับปีใหม่อยู่ด้วยเหมือนกัน ซึ่งแต่ละชาติจะกินอะไรบ้างในช่วงปีใหม่ ลองมาดูกันเลยดีกว่า

เริ่มจากบ้านเรา ประเทศไทย วันขึ้นปีใหม่ดั้งเดิมของไทยก็คือช่วงสงกรานต์ และแม้ว่าในปัจจุบันจะเปลี่ยนมาเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามแบบสากลแล้ว แต่ความเชื่อเหล่านี้ก็ยังคงอยู่เช่นเดิม คนไทยเราเน้นกินอาหารที่มีชื่อเป็นมงคลและมีลักษณะเป็นมงคล เช่น “ลาบ” ซึ่งมีคำพ้องเสียงกับ ลาภ เชื่อว่าจะมีโชคลาภ และไม่มีโรคภัย “ขนมหวานตระกูลทอง” เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมหวานเหล่านี้เป็นขนมมงคล เชื่อว่าจะมีความมั่งคั่งร่ำรวย มีเงินมีทองใช้ “ขนมชั้น” ได้รับการเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่ง
ต็อกกุก
ประเทศเกาหลีใต้ ปีใหม่ของเกาหลีใต้เรียกว่า วันซอลลัล ถือเป็นวันปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ผู้คนจะกลับบ้านไปอยู่รวมกัน มีงานเลี้ยวและกิจกรรมสังสรรค์กัน โดยในวันแรกของปี ชาวเกาหลีใต้นิยมกิน “ต็อกกุก” เป็นแป้งต็อกในน้ำซุปกระดูกวัว โดยจะหั่นต็อกเป็นชิ้นบางๆ รูปร่างวงกลม เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนพระอาทิตย์ เป็นตัวแทนของการเริ่มต้นปีใหม่ แทนความสดใสและความสุข อีกความหมายหนึ่งก็คือรูปร่างของต็อกที่กลมเหมือนเหรียญ แทนความร่ำรวย มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สิน
Osechi ryori
ประเทศญี่ปุ่น มีอาหารพิเศษที่กินเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ เรียกว่า “Osechi ryori” ที่จะเริ่มกินกันตั้งแต่เช้าวันที่ 1 ม.ค. ไปจนถึงวันที่ 3 ม.ค. ในสมัยก่อนอาหารชนิดนี้เป็นอาหารที่ทำเพื่อถวายแด่เทพเจ้าใน 5 เทศกาล ต่อมาประชาชนได้เริ่มทำกินเองในช่วงปีใหม่ ซึ่งการกินอาหารปีใหม่นี้เป็นการขอพรเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงและนำมาซึ่งความสุขในช่วงปีใหม่ วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ในอาหารชนิดนี้มักจะเป็นพืชผักผลไม้ที่มีชื่อและมีความหมายมงคล เช่น sato imo หรือเผือก เปรียบได้กับการมีทรัพย์สมบัติ konbu หรือสาหร่ายทะเลใบแข็ง มีเสียงพ้องกับคำที่หมายถึงความยินดีปรีดา kachiguri เกาลัดตากแห้ง มีเสียงพ้องกับคำว่าชัยชนะ เป็นต้น

ประเทศสเปน โปรตุเกส เปรู และบราซิล จะกินองุ่น 12 ลูก ในเวลาเที่ยงคืนของคืนวันส่งท้ายปีเก่า โดยเริ่มกินองุ่นลูกแรกเมื่อนาฬิกาตีครั้งที่หนึ่ง และจะไล่เรียงไปจนครบ 12 ลูก โดยเชื่อว่าองุ่นแต่ละลูกนั้นเปรียบได้กับหนึ่งเดือนของปี องุ่น 12 ลูก หมายถึง เดือน 12 เดือน โดยเชื่อว่าหากกินองุ่นครบ 12 ลูกได้ทันเวลาที่นาฬิกาตีครบ 12 ครั้งจะมีโชคดีในปีใหม่ที่มาถึง แต่ชาวเปรูจะมีการกินองุ่นรับปีใหม่ทั้งหมด 13 ลูก เพื่อการันตีความโชคดีหากกินองุ่นได้ครบทั้ง 13 ลูก ที่มาของการกินองุ่นเฉลิมฉลองรับปีใหม่ เริ่มจากสมัยอดีตในสเปน มีการเก็บเกี่ยวองุ่นได้มาก จึงมีการนำองุ่นมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในวันส่งท้ายปีเก่า เพื่อให้ประชาชนได้กินองุ่นต้อนรับปีใหม่
องุ่น
นอกจากสี่ประเทศนี้แล้ว ชาติอื่นๆ ก็มีอาหารที่นิยมกินกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วยเช่นกัน อาทิ เนเธอร์แลนด์ นิยมกินโดนัท เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตครบถ้วนสมบูรณ์ตามรูปร่างของโดนัท อิตาลี นิยมกินถั่วเลนเทิล ที่มีรูปร่างคล้ายเหรียญเงิน เชื่อว่าจะนำความร่ำรวยมาให้ เยอรมัน นิยมกินกะหล่ำปลี โดยจะนำใบกะหล่ำปลีมาปรุงเป็นอาหารในมื้อแรกของปี เชื่อว่าจะเป็นปีที่มั่งคั่งร่ำรวยและอุดมสมบูรณ์

สิ่งที่สำคัญในช่วงเทศกาลปีใหม่แบบนี้ นอกเหนือจากการกินอาหารที่เชื่อว่าเป็นมงคลต่อชีวิตนั่นก็คือ การได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว ได้ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกัน ถือว่าเป็นความสุขอย่างที่สุดในการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีของทุกคน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น