ถ้าถามว่าอยากจะซื้อของกระจุกกระจิกแบบยกโหล จำพวกเครื่องประดับต่างๆ เครื่องเขียน ตุ๊กตา ฯลฯ จะไปที่ไหนดี หลายๆ คนต้องคิดถึง “สำเพ็ง” อย่างแน่นอน เพราะตลาดสำเพ็งนั้นถือเป็นศูนย์รวมของสินค้าเหล่านี้เลยทีเดียว
แต่รู้หรือไม่ว่า ตลาดสำเพ็งที่เราเห็นกันในปัจจุบันนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว โดยภายหลังจากที่ย้ายเมืองหลวงมาอยู่ทางฝั่งพระนคร (กรุงรัตนโกสินทร์) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าให้ชาวจีนที่อาศัยอยู่บริเวณท่าเตียน ย้ายไปสร้างชุมชนอยู่บริเวณคลองสามปลื้มไปจนถึงคลองวัดสำเพ็ง มีการสร้างย่านการค้าขายให้เจริญเติบโตอยู่ในย่านนั้น
จนมาถึงสมัยรัชกาลที่ 4 สำเพ็งจัดว่าเป็นตลาดบกที่ใหญ่ที่สุดในพระนคร และมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีสินค้าวางขายทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจากจีน และนอกจากจะเป็นตลาดใหญ่แล้ว ก็ยังเป็นแหล่งรวมอบายมุขขนาดใหญ่ในยุคนั้น มีทั้งโรงฝิ่น บ่อนการพนัน และโรงหญิงโสเภณี
เนื่องจากเป็นย่านการค้าใหญ่โต จึงทำให้มีคนมาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก มีการสร้างบ้านติดกันจนแออัด และทำให้เกิดเพลิงไหม้บ่อยครั้ง ในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงทรงมีรับสั่งให้สร้างถนนตรงกลางสำเพ็งเพื่อทำการขยายชุมชนและย่านการค้าให้ใหญ่โตขึ้น และมีการสร้างตึกแบบฝรั่งเพื่อให้ประชาชนทำการค้าขาย ซึ่งถนนที่สร้างขึ้นใหม่ในเวลานั้นก็มีหลายสาย อาทิ ถนนทรงวาด ถนนราชวงศ์ เป็นต้น
จนกระทั่งในปัจจุบัน “สำเพ็ง” ก็ยังถือว่าเป็นย่านการค้าที่สำคัญมาก เพราะในทุกวันจะมีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยหาซื้อสินค้ากันตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่เช้ามืด เวลาประมาณ 03.00-07.00 น. เป็นเวลาของ “ตลาดเช้า” ที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่จะมาเลือกซื้อสินค้าไปขายต่อมักจะมากันในช่วงนี้ เนื่องจากสินค้าที่วางขายนั้นมีลักษณะเป็นแบบเหมาโหล ทำให้ราคาถูกกว่าในช่วงกลางวัน โดยเฉพาะพวกเครื่องประดับ ตุ๊กตา และเครื่องเขียน
ส่วนในช่วงเวลาปกตินั้น ตลาดสำเพ็งจะเปิดขายตั้งแต่ 08.00-17.00 น. โดยประมาณ และจะปิดตลาดเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น เรียกว่าขายกันทั้งปี มีของให้ชอปอย่างจุใจ
“ตลาดสำเพ็ง” นั้นจะอยู่ในซอยวานิช 1 โดยมีถนนราชวงศ์ตัดผ่านกลาง แบ่งออกเป็นสองฝั่ง หากเริ่มเข้าเขตตลาดสำเพ็งก็จะสังเกตได้ว่ามีของวางขายอยู่ริมถนนทั้งสองฝั่ง
ตลาดสำเพ็งฝั่งที่อยู่ใกล้กับเยาวราชจะคึกคักมากกว่าอีกฝั่งหนึ่ง เนื่องจากมีสินค้ากิฟต์ชอป ตุ๊กตา ของเล่น เครื่องเขียน เครื่องประดับ กิ๊บติดผม กระเป๋า และรองเท้า เป็นสินค้าหลักที่วางขาย มีทั้งคนที่มาซื้อสินค้าแบบเหมาโหลนำไปขายต่อ และมีลูกค้าทั่วไปที่มาซื้อสินค้าไปใช้เอง ซึ่งแม้ว่าราคาแยกต่อชิ้นอาจจะแพงกว่า แต่บางร้านก็สามารถคละสินค้ารวมกันได้ ทำให้หลายๆ คนตัดสินใจมาเลือกซื้อของที่ตลาดสำเพ็ง
โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ ร้านค้าหลายร้านก็จะมีสินค้าประจำเทศกาลมาวางขาย เช่นในช่วงปีใหม่ก็จะมีกระดาษสีๆ สายรุ้ง กระดาษห่อของขวัญมาวางขายให้เลือกมากมาย และยังมีสินค้าที่สามารถนำไปเป็นของขวัญให้กับคนที่รักได้อีกด้วย หลายคนจึงนิยมมาเลือกซื้อของที่สำเพ็ง เพราะมาที่เดียวสามารถได้สินค้ากลับไปครบเลยทีเดียว
ส่วนตลาดสำเพ็งฝั่งที่อยู่ติดกับพาหุรัด จะเน้นขายผ้าเป็นหลัก โดยมีทั้งอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยต่างๆ ผ้านานาชนิด และเครื่องแต่งกาย ซึ่งจะสังเกตได้ว่ามีลูกค้าบางตากว่ามาก สามารถเดินชมสินค้าอย่างสบายๆ
การมาเดินจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดสำเพ็ง มีข้อควรระวังอยู่สองอย่างคือ ในช่วงเวลาที่มีคนเบียดเสียดกันมาก มักจะมีโจรล้วงกระเป๋าแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคน ทำให้หลายๆ คนสูญเสียทรัพย์สินไปโดยไม่รู้ตัว ข้อควรระวังอีกอย่างก็คือ เวลาเดินเลือกซื้อสินค้าจะต้องคอยระวังรถมอเตอร์ไซค์ที่รับส่งสินค้าภายในซอย รวมถึงรถเข็นสินค้าต่างๆ ที่มักจะวิ่งผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา ใครที่มาชอปที่นี่ก็ต้องใช้ทักษะในการหลบหลีกอยู่พอสมควร
จะเห็นว่า “ตลาดสำเพ็ง” นั้นเป็นตลาดใหญ่ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยก่อน ใครที่ยังไม่เคยมาเดินเลือกซื้อของที่ตลาดแห่งนี้ ต้องลองดูสักครั้ง เพราะนอกจากจะมีสินค้ามากมายให้เลือกสรรแล้ว ที่นี่ก็ยังมีของอร่อยๆ ให้ลองชิมตลอดทางเดินในตลาดอีกด้วย (คลิก!! อ่านเรื่องกินในย่านสำเพ็ง)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ตลาดสำเพ็ง” เปิดทำการทุกวัน (หยุดเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์) ตั้งแต่เวล่ 08.00-17.00 น. ส่วนตลาดเช้าสำเพ็งจะเปิดเวลา 03.00-07.00 น. การเดินทาง สามารถใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าน้ำราชวงศ์ แล้วเดินตรงมาที่ถนนราชวงศ์ จะเห็นซอยวานิช 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดสำเพ็ง หรือใช้บริการรถประจำทางสาย 8, 4, 7, 73, 43, 40 และ 56 ลงที่ป้ายจักรวรรดิ (ถนนจักรวรรดิ) ป้ายสุดท้ายก่อนขึ้นสะพานพระปกเกล้า จากนั้นเดินเข้าซอยวานิช 1 เช่นกัน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com