“แม่แจ่ม”...แจ่มแจ๋วเจ๋ง ตระการตา “นาขั้นบันได” แสนงาม

ภาคเหนือของไทยซึ่งมีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา มีความลาดชัน การทำเกษตรกรรมโดยเฉพาะการทำนาจึงต้องใช้ภูมิปัญญาดัดแปลงทุ่งนาในที่ราบให้เป็น “นาขั้นบันได” ที่นอกจากจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูกแล้ว ยังเป็นการรักษาหน้าดินไม่ให้ถูกกัดเซาะหรือชะล้างไป และในปัจจุบัน “นาขั้นบันได” ยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ใครต่อใครเดินทางมาเยี่ยมเยือนเที่ยวชมกันอีกด้วย

นาขั้นบันไดที่ขึ้นชื่อที่สุดในภาคเหนือ ต้องยกให้ที่ “อำเภอแม่แจ่ม” จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีความสวยงามแจ่มจรัสสมชื่อ แม่แจ่มมีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา จึงมีการทำนาขั้นบันไดกันในหลายๆ จุด นาเหล่านี้จะทำปีละครั้ง โดยจะเริ่มทำนามาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ส่วนในช่วงเดือนตุลาคมขณะนี้ข้าวที่ปลูกไว้เริ่มออกรวงท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที และในช่วงสิ้นเดือนนี้ก็จะออกรวงสุกเหลืองอร่ามไปทั้งท้องทุ่ง แต่ถ้าเลยเดือนพฤศจิกายนไปแล้วก็จะได้เวลาเก็บเกี่ยวของชาวนา ดังนั้นต้องรีบมาชมกันให้ทันเสียแล้ว


“ตะลอนเที่ยว” มาที่แม่แจ่มในวันนี้นับเป็นช่วงกำลังเหมาะในการมาชมนาขั้นบันได มาครั้งนี้ได้เดินทางไปชมนาขั้นบันไดในเขตตำบลช่างเคิ่ง และตำบลบ้านกลาง อำเภอแม่แจ่ม ได้แก่ นาขั้นบันไดที่บ้านทุ่งยาว บ้านป่าตึง บ้านตีนผา และบ้านป่าบงเปียง โดยจุดชมนาขั้นบันไดทั้ง 4 แห่งนี้อยู่ในเส้นทางเดียวกันทั้งหมด และแต่ละแห่งก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป

แต่การเดินทางไปชมนาขั้นบันไดตามเส้นทางที่ว่านี้จะต้องใช้รถกระบะ หรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อขับขึ้นเขาไปชม แต่ถ้ารถของใครไม่พร้อม หรือไม่ได้ขับรถมา ก็มีอีกหนึ่งวิธีการเดินทางที่สะดวกมากๆ นั่นก็คือการเหมารถสองแถวที่คิวรถจอมทองให้ตระเวนพาไปชมนาขั้นบันได พาเพื่อนนั่งไปเที่ยวด้วยกันได้เป็นสิบคน


ในวันนี้ “ตะลอนเที่ยว” และพรรคพวกก็ใช้บริการรถสองแถวสีเหลืองแจ่มให้พาไปชมนาขั้นบันไดเช่นกัน ในสนนราคาเหมาทั้งคัน 1,500 บาท แถมคนขับที่เป็นเหมือนไกด์ชี้ชวนให้เราชมวิวสวยๆ ตามจุดต่างๆ เรานั่งรถกินลมออกห่างจากเมืองแม่แจ่มมาไม่นาน เราก็มาถึงจุดชมวิวจุดแรก ที่ “บ้านทุ่งยาว” ที่อยู่ริมถนนสายแม่แจ่ม-ขุนยวม แต่จุดนี้ยังไม่เห็นนาขั้นบันไดอลังการมากนัก แต่มองเห็นทุ่งนาสีเขียวขจีกว้างไกล มีฉากหลังเป็นดอยอินทนนท์ ภูเขาที่มีระดับความสูง 2,565.3341 เมตร นับเป็นยอดดอยที่สุดในประเทศไทย แต่วันนี้ยอดดอยอินทนนท์แอบหลบอยู่หลังเมฆก้อนใหญ่ ไม่โผล่หน้ามาให้เราได้ชื่นชมความยิ่งใหญ่กันเสียเลย มีแต่เจ้าวัวตัวโตเคี้ยวเอื้องยืนจ้องมองบรรดาตากล้องที่กรูกันลงมาถ่ายรูปอย่างงงๆ

ดังนั้นเราจึงเดินทางกันต่อไปยังจุดชมวิวแห่งที่สอง รถสองแถวไต่ระดับความสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่ “บ้านป่าตึง” รถจอดแอบริมถนนให้เราลงไปถ่ายรูปชมวิวทิวทัศน์กัน ที่นี่เราได้เห็นนาขั้นบันไดกว้างใหญ่จากมุมสูง มองเห็นคันนาเรียงขั้นถี่ มีกระต๊อบหลังน้อยกลางทุ่งนาตั้งกระจายตัวกันอยู่ห่างๆ เนินเขาสูงลดหลั่นมีนาข้าวขั้นบันไดและทุ่งข้าวโพดปลูกสลับไล่สีเขียวเข้มเขียวอ่อนแซมด้วยสีเหลือง ยิ่งเมื่อโดนแสงแดดจ้าตอนบ่ายส่องกระทบ สีเขียวแซมเหลืองก็ยิ่งเจิดจ้าน่ามองมากยิ่งขึ้น


ระหว่างนาขั้นบันไดมีแนวต้นไม้กั้นแบ่งเขตหมู่บ้าน มองไปเห็นชาวนาออกมาดูแลต้นข้าว ออกมาถอนหญ้าถอนวัชพืชอยู่ในแปลงนา เป็นภาพวิถีชีวิตที่แม้เราจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม แต่ก็สุขใจเมื่อได้เห็น

เราใช้เวลาถ่ายภาพที่จุดนี้นานพอสมควร ก่อนจะเริ่มเดินทางต่อไปยังจุดชมวิว “บ้านตีนผา” ที่มีเขตติดต่อกับบ้านป่าบงเปียง เส้นทางระหว่างนี้และเส้นทางข้างหน้าเริ่มทรหดมากขึ้น ถนนลูกรังฝุ่นแดงๆ ฟุ้งตามล้อที่เคลื่อนไป หลุมบ่อและก้อนหินน้อยใหญ่กลางถนนทำให้ทุกคนต้องหาที่มั่นเกาะไว้ให้ดีๆ แต่นั่งโขยกเขยกกันไม่นานนักก็มาถึงจุดชมวิวบ้านตีนผาจนได้

ภาพตรงจุดนี้ทำให้ “ตะลอนเที่ยว” ถึงกับอุทานโอ้โห! เมื่อได้เห็นนาขั้นบันไดบนเนินเขาเป็นขั้นเป็นชั้นลดหลั่นกันลงมางดงามยิ่งนัก ยิ่งเมื่อแสงแดดยามบ่ายที่แอบไปหลบอยู่หลังเมฆค่อยๆ สาดแสงสีทองเฉียงๆ ลงมายังทุ่งนา ก็ดูราวกับทั้งท้องทุ่งสว่างไสวไปหมดเลยทีเดียว


นาขั้นบันไดตรงจุดนี้ยังเห็นเป็นขั้นชัดเจน มองดูคล้ายลอนคลื่นอันนุ่มนวลของผืนพรมสีเขียวจากต้นข้าว ถ่ายรูปไป “ตะลอนเที่ยว” ก็อดชื่นชมไม่ได้กับความงามของธรรมชาติบวกกับความงามจากภูมิปัญญาฝีมือมนุษย์ที่สร้างสรรค์ขึ้น

รถสองแถวพาเราโขยกเขยกมาถึงจุดสุดท้ายซึ่งเป็นไฮไลต์ ที่ “บ้านป่าบงเปียง” ได้ทันเวลาก่อนที่แสงสุดท้ายจะหมดไป นาขั้นบันไดที่บ้านป่าบงเปียงคือจุดที่มองเห็นได้จากจุดชมวิวบ้านตีนผา ตรงจุดนี้แม้จะไม่เห็นเป็นขั้นชัดเจนเหมือนที่บ้านตีนผา แต่ก็มองเห็นทุ่งนาแผ่กว้างไกลออกไป มีกระท่อมหลังน้อยแทรกตัวอยู่ในต้นข้าวได้เหมาะเจาะ เบื้องหน้าเป็นภูเขาสลับซับซ้อน ด้านหลังเขาคือพระอาทิตย์ที่คล้อยต่ำลงเรื่อยๆ

พวกเราตั้งกล้องรอให้พระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขา รอให้แสงสีส้มทาบทาท้องทุ่งนาขั้นบันได ตั้งใจว่าแสงสวยๆ อย่างนี้จะต้องได้ภาพดีๆ กลับไปเป็นที่ระลึกแน่นอน แต่ยิ่งอยู่ในที่สูง สภาพอากาศก็ยิ่งแปรปรวน ดังนั้นไม่ช้าเมฆดำก็ลอยต่ำใกล้เข้ามา และกลั่นตัวกลายเป็นฝนปลายฤดูหยาดลงมาไม่ขาดสาย



แม้จะไม่ได้ภาพพระอาทิตย์ตกกลางทุ่งนาขั้นบันได แต่สายฝนที่พร่างพรมลงมาท่ามกลางแสงสีส้มจางๆ ของพระอาทิตย์ที่ถูกเมฆบัง บวกกับสีเขียวขจีชุ่มฉ่ำของต้นข้าวที่ถูกฝนพรำ ทำให้ภาพที่เราเห็นนั้นงดงามไปในอีกบรรยากาศหนึ่ง และจะเป็นภาพประทับใจของ “นาขั้นบันไดแม่แจ่ม” ที่ “ตะลอนเที่ยว” จะไม่ลืมไปอีกนาน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

นาขั้นบันไดในอำเภอแม่แจ่มที่มีทัศนียภาพงดงามยังมีให้ชมอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านกองกาน บ้านแม่ศึก บ้านแม่ปาน เป็นต้น อีกทั้งในตอนเช้า ยังมีจุดชมทะเลหมอกบนเขาบริเวณบ้านบนนาที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วยเช่นกัน สามารถสอบถามจากคนขับรถสองแถวได้ ราคาเหมารถสองแถวพาเที่ยวนาขั้นบันไดในเส้นทางข้างต้นราคา 1,500 บาท นั่งได้ประมาณ 10 คน ผู้ที่สนใจสอบถามคิวรถสองแถวพาไปชมนาขั้นบันได โทร.08 2888 5180 และสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในอำเภอแม่แจ่ม และแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ สอบถามโทร.0-5324-8604, 0-5324-8607
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com