เรื่องกระทบกระทั่งกันระหว่างบุคคลถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา แต่หากว่าเกิดขึ้นบนยานพาหนะอย่าง “เครื่องบิน” ก็ดูจะเป็นเรื่องที่มีคนพูดถึงอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในบางครั้งเรื่องกระทบกระทั่งแบบนี้อาจมีผลต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือทั้งลำ
เรื่องกระทบกระทั่ง หรือเรื่องเกรียนที่เกิดขึ้นนี้ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นระหว่างผู้โดยสารกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบน หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าแอร์โฮสเตส นั่นก็เพราะทั้งสองฝ่ายนี้จะต้องเผชิญหน้ากันอย่างใกล้ชิด จึงมีเรื่องที่ต้องขัดแย้งกันบ้างในบางครั้ง ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็เป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลมีเดียมาเป็นระยะๆ แล้ว และนี่ก็คือ 5 เหตุการณ์เกรียนระหว่างผู้โดยสารกับลูกเรือ ที่ปรากฏเป็นข่าวโด่งดังในโลกออนไลน์ให้วิพากวิจารณ์กันสนุกปาก
เหตุการณ์แรก เพิ่งเกิดขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ ยังเป็นกระแสไม่หยุดในโลกออนไลน์ เมื่อผู้โดยสารชายคนหนึ่งเกิดมีปากเสียงกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน สายการบินไทยแอร์เอเชีย เหตุจากขนาดกระเป๋าที่นำขึ้นเครื่องมีน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด อีกทั้งยังแสดงกิริยาไม่เหมาะสม ตั้งแต่ประตูขึ้นเครื่อง เมื่อขึ้นเครื่องไปก็มีปากเสียงกับพนักงานต้อนรับ จากนั้นพนักงานต้อนรับได้เชิญให้ชายคนดังกล่าวลงจากเครื่องเนื่องจากมีสภาวะทางอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด ผิดกฏและระเบียบการบินของกรมพลเรือนการบิน ฉบับที่ 54 ระบุไว้ว่า หากผู้โดยสารก่อเหตุวุ่นวาย ใช้ถ้อยคำที่มีลักษณะเป็นการข่มขู่ คุกคาม เป็นอันตรายหรือดูหมิ่นต่อลูกเรือ หรือมีพฤติกรรมที่มีลักษณะข่มขู่ คุกคาม เป็นอันตราย ดูหมิ่น ไม่เป็นระเบียบต่อลูกเรือ หรือมีเจตนารบกวนการปฏิบัติหน้าที่ของลูกเรือ ผู้โดยสารจะต้องถูกควบคุมตัว หรือถูกเชิญลงจากเครื่องบิน และดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงตัดสินใจโยนกระเป๋าลงมาด้านล่าง พร้อมกับย้ำว่าตนจะไม่ลงจากเครื่อง ขณะเดียวกันชายคนดังกล่าวยังได้ถือโทรศัพท์มือถือเพื่ออัดวิดีโอคลิป และขู่ว่าจะนำไปแชร์ในโซเชียลมีเดีย พร้อมต่อว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องว่าไม่ให้เกียรติลูกค้า และยังได้ฝากผู้โดยสารคนอื่นอัดวีดีโอคลิปไว้ด้วย ภายหลังสารวัตรทหารได้นำตัวชายคนดังกล่าวออกไป และกัปตันจึงนำเครื่องขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีลูกเรือหรือผู้โดยสารได้รับอันตรายแต่อย่างใด แต่ทำให้เที่ยวบินดังกล่าวออกเดินทางล่าช้าไปประมาณ 30 นาที
เหตุการณ์ที่สอง เป็นเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารหญิงคนนึงไม่พอใจพนักงานสายการบิน โอเรียนท์ไทย ที่ปฎิเสธการช่วยเหลือตนที่มาเช็คอินสาย 6 นาที หลังจากเคาเตอร์เช็คอินปิด และใช้เวลาในการเจรจากว่า 30 นาที ทำให้ตนตกเครื่องและต้องนอนกรุงเทพฯ ต่ออีก 1 คืน พร้อมตั้งคำถามว่า "น้ำใจคนไทยไปไหนหมด"
ทันทีที่ภาพและข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ที่นำภาพคนอื่นมาประจาน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและการเข้าใจผิด อีกทั้งในกระแสโซเชียลมีเดีย ได้มีความเห็นถึงการกระทำดังกล่าวมากมาย โดยมีความเห็นหนึ่งระบุไว้ว่า “ความผิดตัวเองแท้ๆ จะมาสาย 6 นาที หรือ 1 นาที มันก็คือสาย เอะอ่ะ อะไรก็จะให้หยวนๆ สังคมมันถึงได้ขาดระเบียบวินัย ไม่งั้นจะมีตารางเวลาไว้ทำไม”
เหตุการณ์ที่สาม เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ที่เซเลปคนดังลูกสาวหมอลำโพสต์ภาพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไทยแอร์เอเชีย ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เหตุมาจากเซเลปคนดังได้เรียกคนรู้จักมานั่งเก้าอี้ Hot Seat ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มบนสายการบินไทยแอร์เอเชียในขณะที่เครื่องกำลังจะ Take off จนพนักงานต้อนรับบนเครื่องต้องออกประกาศเตือน เนื่องจากไม่สามารถลุกขึ้นมาบอกด้วยตนเองได้ จนคนรู้จักของเซเลปคนดังกล่าวต้องกลับไปนั่งที่เดิม ซึ่งทำให้เซเลปคนดังเกิดความไม่พอใจ จากนั้นเซเลปคนดังจึงได้ฝ่าฝืนกฏข้อบังคับในการบินที่ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะนำเครื่องขึ้น-ลง นำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพพนักงานต้อนรับและนำมาโพสต์ประจานลงในอินสตาแกรมส่วนตัว จนเป็นที่วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมต่อการกระทำของเซเลปคนดังกล่าว
เหตุการณ์ที่สี่ เป็นเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารชาวจีนเกิดเหตุทะเลาะวาทและเกิดการชกต่อยกันบนเครื่องบินโดยสายของการบินไทย เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เป็นวิดีโอคลิปที่มีความยาวประมาณ 1 นาที แสดงให้เห็นเหตุการณ์ผู้โดยสารชาวจีนกำลังทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกัน ท่ามกลางผู้โดยสารคนอื่นๆ บนเครื่องบิน จนมีเจ้าหน้าที่ของการบินไทยออกมาห้ามปรามแต่ผู้โดยสารก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด
ในส่วนของสายการบินก็มีมาตรการในการป้องกันความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารกรณีที่มีเหตุทะเลาะวิวาทขณะเครื่องบินทำการบิน ทั้งการเข้าระงับเหตุ การแยกผู้โดยสารคู่กรณีออกจากกัน และหาที่นั่งแยก รวมถึงเมื่อมีเหตุทะเลาะ หรือสร้างความเสียหาย ผู้โดยสารนั้นๆ จะถูกบันทึกรายชื่อขึ้นบัญชีไว้ หากมีการเดินทางครั้งต่อไปร่วมกันอีก ลูกเรือจะดูแลเป็นพิเศษ และแยกคู่กรณีไม่ให้นั่งโดยสารใกล้กัน
เหตุการณ์ที่ห้า เป็นเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้วกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน สายการบินไทยแอร์เอเชีย ขณะที่เครื่องกำลังจะทำการขึ้นพนักงานต้อนรับได้ไปเตือนให้ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งที่กำลังใช้โทรศัพท์อยู่ ให้ปิดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้โดยสารดังกล่าวอ้างว่ากำลังคุยธุระกับลูกค้าชาวต่างชาติอยู่ จนเกิดการโต้เถียงกันแต่ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น จากนั้นเครื่องก็ทำการขึ้นตามปกติ และเมื่อถึงเวลาอาหารว่าง ผู้โดยสารคนดังกล่าวได้บอกให้พนักงานต้อนรับคนเดิม ต้มน้ำร้อนชงบะหมี่ใส่ถ้วยมาให้ 1 ชุด เมื่อพนักงานต้อนรับนำบะหมี่มาเสิร์ฟให้ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อผู้โดยสารนำถ้วยบะหมี่ร้อนๆ สาดเข้าใส่พนักงานตอนรับ จากนั้นก็ทำร้ายร่างกายพนักงานต้อนรับคนดังกล่าว จนต้องแจ้งความกับตำรวจ และเป็นข่าวใหญ่โตทีเดียว
ทั้ง 5 เหตุการณ์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้โดยสารและพนักงานต้อนรับ เหนือสิ่งอื่นใดแล้ว การที่แต่ละฝ่ายเคารพกฎ กติกา ที่สายการบินหรือสนามบินตั้งขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้โดยสารเอง และเพื่อความราบรื่นในการเดินทาง เพื่อให้ทุกคนเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com