ใครๆ ก็บอกว่าย่านถนนพระอาทิตย์ เป็นย่านที่มีของอร่อยมากมายให้เลือกกินได้ทั้งคาวหวาน ซึ่ง “ผ่านมาแวะกิน” ก็ว่าจริง เพราะเมื่อมาเดินเล่นบนถนนสายนี้ เดินไปไม่กี่ก้าวก็จะเจอร้านอร่อยที่มีลูกค้ามานั่งกินเต็มร้านอยู่ตลอด
และนอกจากจะมีร้านเก่าแก่ที่เปิดขายมานานแล้ว ก็ยังมีร้านอร่อยร้านใหม่ๆ เปิดขายให้มาลองชิมความอร่อยอีกด้วย อย่างร้านที่จะมาลองชิมในวันนี้ แม้จะเพิ่งเปิดมาได้ 2 ปี แต่ก็อร่อยถูกปากถูกใจลูกค้ามากๆ
ร้านนี้มีชื่อว่า “กาลาเปา” ที่เปิดขายซาลาเปาสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง โดยเป็นสไตล์จีนโบราณ แป้งซาลาเปาจะนุ่มๆ เด้งๆ หน้าไม่แตก คุณฐิติมา รินวิไลรักษ์ เจ้าของร้าน บอกว่า ในแต่ละวันจะมีซาลาเปาทำออกมาขายสดๆ ใหม่ๆ ทุกวัน วันละ 9 ไส้ วัตถุดิบนั้นก็ต้องเลือกสรรมาอย่างดี เน้นความสด สะอาด เพื่อคุณภาพที่ดีของอาหาร
เริ่มชิมซาลาเปาจากไส้ยอดฮิต ซาลาเปาหมูสับไข่เค็ม (ลูกละ 22 บาท) ตัวไส้จะทำจากหมูสับนำมาหมักปรุงรส แล้วยังใส่กุนเชียงและไข่แดงเค็มลงไปในไส้ด้วย นึ่งออกมาร้อนๆ ชิมแล้วหอมอร่อย ไส้หมูสับเข้มข้น เพิ่มความมันและเค็มจากไข่แดงเค็ม
ต่อด้วย ซาลาเปาหมูแดง (ลูกละ 22 บาท) ที่อร่อยไม่แพ้กัน ทางร้านจะใช้สันคอหมูมาหมักเป็นหมูแดง นำไปย่าง แล้วหั่นเพื่อนำมาทำเป็นไส้ซาลาเปา ชิมแล้วเนื้อหมูนุ่มๆ มีกลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อมไม่หวานมากเกินไป
ส่วนซาลาเปาไส้หวานที่นี่ก็มีให้ชิมเป็น ซาลาเปาไส้ครีม (ลูกละ 20 บาท) จะเป็นไส้ครีมคัสตาร์ด โดยใช้ไข่ไก่ผสมปรุงรส จนออกมาเป็นไส้ครีม เมื่อลองชิมแล้วไส้ครีมหอมนุ่มอร่อยหวานมันกำลังดี
แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อสัตว์ ที่ร้านนี้ก็ยังมี ซาลาเปาไส้ผัก (ลูกละ 20 บาท) ให้เลือกกิน โดยจะมีส่วนผสมของกะหล่ำปลี แครอท ข้าวโพดอ่อน และเห็ดหอม นำมาผัดปรุงรสก่อนแล้วค่อยยัดเป็นไส้ซาลาเปา ไส้ผักชิมแล้วหอมๆ หวานๆ รสกลมกล่อมอร่อยดี
และนอกจากร้านนี้จะมีซาลาเปาขายแล้ว ก็ยังมี ขนมจีบหมู (เข่งละ 20 บาท) และ ขนมจีบกุ้ง (เข่งละ 35 บาท) ให้ลองชิมอีกด้วย อย่างขนมจีบหมูทางร้านจะใช้เนื้อหมูผสมมันหมูเล็กน้อยนำมาบดแล้วปรุงรส จากนั้นห่อในแผ่นแป้งเกี๊ยวแล้วนำไปนึ่ง ส่วนขนมจีบกุ้งจะใช้กุ้งขาวล้วนๆ มาบดแล้วปรุงรส นำมาห่อกับแผ่นแป้งเกี๊ยวแล้วนำไปนึ่ง ชิมขนมจีบหมูรสกลมกล่อมเนื้อนุ่มหอมพริกไทย ส่วนขนมจีบกุ้งเนื้อเด้งอร่อยได้รสชาติ
ถ้าอิ่มอร่อยจากขนมจีบ-ซาลาเปาแล้ว ก็มาจิบเครื่องดื่มหวานๆ เย็นๆ ให้ชื่นใจกันหน่อย เริ่มจาก ชานมไข่มุก (35 บาท) บลูโซดา (45 บาท) และ ช็อกชาไทย (50 บาท) ที่พิเศษตรงนำชาเย็นมาผสมกับช็อกโกแลต ได้ความหอมหวานจากชาผสมกับความเข้มข้นจากช็อกโกแลต
สำหรับซาลาเปา นอกจาก 4 ไส้ที่ได้ชิมไปแล้ว ก็ยังมีไส้อื่นๆ ให้เลือกอร่อยกันด้วย คือ ซาลาเปาไส้ข้าวโพด (ลูกละ 20 บาท) ซาลาเปาไส้ช็อกโกแลต (ลูกละ 20 บาท) ซาลาเปาไส้งาดำ (ลูกละ 20 บาท) ซาลาเปาไส้ถั่วแดง (ลูกละ 20 บาท) และ ซาลาเปาไส้เผือก (ลูกละ 20 บาท)
นอกจากนี้ก็ยังมีขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ และเครื่องดื่มให้เลือกชิมอีกมากมายด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “กาลาเปา” ตั้งอยู่ที่ 76/1 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. การเดินทางจากแยกบางลำพู เลี้ยวเข้าถนนพระสุเมรุ มุ่งหน้าป้อมพระสุเมรุ วิ่งมาจนถึงถนนพระอาทิตย์ ผ่านหน้าบ้านพระอาทิตย์ ตรงไปอีกเล็กน้อยจะเห็นซอยรามบุตรีทางซ้ายมือ ให้สังเกตซ้ายมือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน เลยปากซอยรามบุตรีมาไม่ไกล ทางร้านมีบริการจัด snack box และมีบริการเดลิเวอรี่เฉพาะพื้นที่ใกล้ๆ ร้าน ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 08.00-18.30 น. โทร. 08-9894-2582
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "กาลาเปา"
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com