“จังหวัดสุรินทร์” นั้นถือได้ว่าเป็นเมืองแห่งช้าง เพราะบรรพบุรุษครั้งโบราณของชาวสุรินทร์นั้นคือชาวกวย ซึ่งเป็นมีวิถีชีวิตระหว่างคนกับช้างมาอย่างช้านาน และหากมีการจัดงานประเพณีหรืองานเทศกาลของทางจังหวัดขึ้นเมื่อใด ก็มักจะมีการนำช้างมาเข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของงานด้วยเสมอ
ในช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ใกล้เข้ามาของวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ “วันอาสาฬหบูชา” และ “วันเข้าพรรษา” โดยในปีนี้แต่ละจังหวัดก็ได้มีการเตรียมจัดงานต้อนรับวันแห่งการทำบุญกันอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้จัด “งานตักบาตรบนหลังช้าง” ขึ้นมาในช่วงเทศกาลงานบุญนี้ เพื่อให้เหล่าพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมงาน อีกทั้งงานดังกล่าวยังเป็น 1 ใน 4 งานที่ยิ่งใหญ่และน่าสนใจของทางจังหวัด เเละช้างสัตว์ใหญ่ใจดีชนิดนี้ ก็ยังมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาอีกด้วย โดยในพุทธประวัตินั้น พุทธเจ้าเมื่ออดีตชาติเคยเกิดเป็นพญาช้างชื่อ “พญาฉัททันต์” พญาช้างเผือกแห่งป่าหิมพานต์ ก่อนที่พระองค์จะทรงประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
“งานตักบาตรบนหลังช้าง” นั้นจะจัดขึ้นในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาของทุกปี โดยจะมีการทำบุญตักบาตรบนหลังช้างกันที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อำเภอเมือง โดยมีการอัญเชิญพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งบนหลังขบวนช้างที่ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงาม เพื่อออกรับบิณฑบาตแก่เหล่าพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธารวมถึงนักท่องเที่ยว ให้ได้ร่วมตักบาตรและทำบุญ โดยปีนี้จะมีการจัดงานขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ในเวลา 07.00 น.และยังถือได้ว่างานตักบาตรบนหลังช้างนั้น มีการจัดขึ้นที่เดียวในโลก และเป็น 1 ใน 4 งานช้างอันยิ่งใหญ่ของจังหวัดสุรินทร์
ไม่ได้หมดเพียงแค่นั้น จังหวัดสุรินทร์ยังมีอีก 3 งานที่ยิ่งใหญ่ หนึ่งในนั้นคือ “งานประเพณีบวชนาคช้าง” ประเพณีงดงามยิ่งใหญ่ของชาวกวย ซึ่งเป็นชาวบ้านที่มีวิถีชีวิตระหว่างคนกับช้าง ที่สืบทอดวิถีชีวิตจากบรรพบุรุษมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี โดยจะมีการจัดขึ้นที่บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม ในช่วง วันขึ้น 13-15 ค่ำเดือน 6 ของทุกๆ ปี
นับได้ว่าเป็นประเพณีงานบุญที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ไหน เพราะเป็นประเพณีที่เหล่าผู้ชายชาวกวยที่มีอายุครบบวช ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ต้องเดินทางกลับมาบ้านเกิดเพื่อเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ซึ่งจะมีช้างเป็นพาหนะในการร่วมประกอบพิธีในครั้งนี้ด้วย ด้วยจะมีไฮไลต์เด่นอยู่ที่ความอลังการของขบวนแห่นาคบนหลังช้าง เพื่อไปสักการะศาลบรรพบุรุษที่วังทะลุอันเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำมูลเเละลำชี ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งงานช้างที่ยิ่งใหญ่และน่ามาชมเป็นอย่างมาก
(คลิกติดตามเรื่อง “งานประเพณีบวชนาคช้าง” ได้ที่ลิงก์นี้)
อีกหนึ่งงานยิ่งใหญ่ที่ตอกย้ำคำว่า “สุรินทร์ถิ่นช้าง” คือ “งานแสดงช้างประจำปี” ซึ่งตามประวัตินั้นมีการจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 ที่อำเภอท่าตูม ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านช้าง นายอำเภอในขณะนั้นได้เชิญชวนให้ชาวกวยที่มีอาชีพเลี้ยงช้างได้นำช้างของตนมาจัดแสดงและจัดขบวนแห่ช้างให้ประชาชนทั่วไปได้ชม และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จนกลายมาเป็นงานช้างประจำปีของจังหวัดสุรินทร์ในปัจจุบัน โดยจะมีการจัดงานขึ้นประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี พร้อมกับงานกาชาดของทางจังหวัด
ในช่วงงานเทศกาลนั้น จะมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับช้าง อาทิ กิจกรรมโต๊ะจีนช้าง ที่ถือได้ว่าเป็นการเลี้ยงอาหารช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีกิจกรรมการแสดงจากช้างที่ยิ่งใหญ่ตระการตา และไฮไลต์ในการแสดงแต่ละปีนั้นก็จะไม่เหมือนกัน จึงเป็นอีกหนึ่งงานช้างที่น่าสนใจ และควรที่จะมีสักครั้งหนึ่งในชีวิต ในการหาโอกาสมาชมความน่ารักและความแสนรู้ของเจ้าสัตว์ใหญ่ใจดีชนิดนี้
งานสุดท้าย 1 ใน 4 งานช้างของจังหวัดสุรินทร์ คือ ”งานแต่งงานบนหลังช้าง” เป็นอีกหนึ่งงานที่มีหนึ่งเดียวในโลก โดยจะมีการจัดขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี อันเป็นวันแห่งความรักสากลระดับโลก ซึ่งภายในงานนั้นจะมีการจัดงานพิธีแต่งงานแบบชาวกวย ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณเรียกว่า “พิธีซัตเต” พร้อมการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง
งานแต่งงานบนหลังช้างนั้น ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะคู่รักชาวกวย แต่ยังมีบ่าวสาวที่ให้ความสนใจจากทั่วภูมิภาคมาร่วมงานกันอย่างคึกคักด้วย งานนี้จึงนับได้ว่าเป็นงานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่ใช่มีแค่คนเป็นสักขีพยาน แต่ยังมีเจ้าช้างตัวใหญ่ร่วมเป็นสักขีพยานในงานพิธีมงคลด้วย ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดสุรินทร์แห่งนี้
“4 งานช้าง” จึงเป็นงานเทศกาลและประเพณีที่มีหนึ่งเดียวในโลก และยิ่งใหญ่สมกับที่มีสัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาร่วมงานด้วย นับเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์และของประเทศไทย ที่งดงามน่าชม ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็น
**************************************************************************************************************
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0-4451-4447-8
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com