“ตระเวนกิน” ไม่ได้แวะเวียนมาย่านสยามสแควร์เสียนาน ย่านวัยรุ่นของสยามเมืองยิ้มเรานี้ ยังคงคึกคักไม่สร่างซา มีร้านค้า ร้านอาหารทั้งร้านเก่า และร้านใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เรียกว่าหากได้มาเยือนย่านสยามสแควร์คราใด คนชอบกินอย่างเรามักไม่พลาดที่จะได้ฝากท้องอิ่มกับร้านอาหารเหล่านี้ ที่มีอาหารหลากหลายสัญชาติให้ได้เลือกอิ่มกันตามใจต้องการ
เหมือนที่ครั้งนี้หลังจากทำธุระปะปังเสร็จสิ้น เราก็ได้เมียงมองเล็งหาว่ามื้อนี้จะกินอาหารอะไรดี ในที่สุดเราก็เตะตาและต้องใจเข้ากับร้านอาหารที่ตั้งอยู่ตรงสยามสแควร์ ซอย 11 ที่มีชื่อว่า “Rabbit in the kitchen” เป็นร้านอาหารไทยน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน แต่ว่ามีความน่าสนใจชวนสะดุดตาและสะดุดใจกับชื่อร้านเก๋ๆ ที่ทางร้านบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากกระต่ายขูดมะพร้าว ซึ่งเป็นเครื่องครัวโบราณที่อยู่ในครัวไทย
เมื่อเราเดินเข้ามายังตัวร้าน “Rabbit in the kitchen” ด้านใน ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของร้านที่ถูกออกแบบตกแต่งสไตล์โมเดิร์นดูทันสมัย แต่ก็แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทย ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยกระต่ายขูดมะพร้าวและเครื่องครัวไทยเก๋ๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งในมุมสบายหลากหลาย ทั้งมุมส่วนตัว มุมโซฟา หรือโต๊ะกลางขนาดใหญ่สำหรับมาสังสรรค์ ให้ได้เลือกนั่งกันตามชอบใจ
หลังจากที่เราเลือกที่นั่งในมุมสบายที่ถูกใจได้แล้ว ก็ขอเมนูอาหารของที่นี่มาดูกัน ซึ่งที่นี่นำเสนออาหารไทยแบบมีคอนเซ็ปต์ที่ว่า “Thai Favorite with Attitude” คือเป็นอาหารไทยรสชาติแบบโบราณดั้งเดิม แต่ว่าเพิ่มกลิ่นอายความโมเดิร์นเข้าไปด้วย โดยการนำเสนอและจัดแต่งจานอาหารให้มีหน้าตาที่ชวนกิน อีกทั้งอาหารไทยที่นี่มีจุดเด่นอยู่ที่ มีเมนูแนะนำเป็นอาหารไทยตำรับชาววังและเป็นเมนูที่หากินไม่ได้ง่ายๆ รวมถึงยังมีเมนูอาหารนานาชาติที่หากินได้ยาก ซึ่งทางร้านยังได้ปรุงแต่งสูตรอาหารขึ้นมาเป็นพิเศษ และเน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่ต้องมีความสดใหม่ และเลือกใช้แต่ของเกรดคุณภาพ เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารไทยจานเด็ดที่ชวนชิม
มื้อนี้เราขอเลือกสั่งเมนูจานเด่นขึ้นชื่อที่ทางร้านแนะนำว่าถ้ามาที่ร้านแล้วต้องสั่งมาลองลิ้มกันให้ได้ ก็มีอยู่หลายเมนูด้วยกัน ประเดิมด้วยเมนูนี้ ขนมจีบตำรับวัง (90 บาท++) เป็นขนมจีบไทยตำรับดั้งเดิมสูตรจากวัง ที่มีหน้าตาชวนกินเอามากๆ ตัวขนมจีบเป็นไส้หมูกับกุ้งที่ผสมปรุงรสตามสูตรเฉพาะให้เข้ากัน ห่อกับแผ่นแป้งเกี๊ยวแล้วนึ่งจนสุก เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมกับราดน้ำจิ้มสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้านมาให้ด้วยเลย เรียกว่ากินง่ายแค่จิ้มขนมจีบส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมทั้งคำสัมผัสได้ถึงความนุ่มแน่นหนึบของไส้ ที่มีรสชาติกลมกล่อมเข้ากันดีกับน้ำจิ้มหอมๆ รสเยี่ยม ถูกปากโดนใจดีแท้
เสิร์ฟมาติดๆ คือ ยำเนื้อย่างเสด็จ (180 บาท++) ใครชอบกินเนื้อไม่ควรพลาด ทางร้านนำเนื้อสันนอกคุณภาพดีมากริลล์จนสุกได้ที่ สไลด์มาเป็นชิ้นพอดีคำ และมีเครื่องแยกมาต่างหาก คือ มีมะเขือเปราะ หอมแดง สะระแหน่ ตะไคร้ และมีน้ำยำสูตรพิเศษมาให้ด้วย เวลากินให้ราดน้ำจิ้มลงไปคลุกเคล้ากับเนื้อและเครื่องทุกอย่างให้เข้ากัน กินแล้วเนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปากชุ่มรสชาติน้ำยำรสจัดจ้านแซบลิ้น (แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อจะสั่งเป็นหมูก็ได้)
ต่อด้วยเมนู แกงกะหรี่ไก่-อาจาด-โรตี (120 บาท++) เป็นแกงกะหรี่ที่ได้รับอิทธิพลจากแกงมัสล่าหรือกุรุหม่าของอินเดีย ทางร้านนำมาดัดแปลงสูตรให้เข้ากับลิ้นคนไทยมากขึ้น ใช้เนื้อไก่ส่วนอกมาแกงกับเครื่องแกงและผงกะหรี่หอมๆ มีจุดเด่นอยู่ที่รสชาติอันเข้มข้นถึงเครื่องแกง เนื้อไก่นุ่มชุ่มรสแกงกะหรี่ กินคู่กับโรตีทอดกรอบช่างเข้ากันดี และมีอาจาดมาให้กินแกล้มแก้เลี่ยนด้วย
แล้วมาชิมเมนูนี้ ข้าวคลุกน้ำพริกลงเรือ (120 บาท++) ทางร้านนำข้าวหอมมะลิมาคลุกกับน้ำพริกลงเรือสูตรพิเศษที่ทำแบบสดใหม่ มาพร้อมกับผักกะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว แตงกวา ถั่วพู ผักทอด หมูหวาน ไข่เค็ม และมีน้ำพริกลงเรือเสิร์ฟมาเพิ่มให้ด้วย ชิมข้าวคลุกน้ำพริกลงเรือรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมถูกปากดี กินเคียงกับเครื่องต่างๆ อิ่มอร่อยท้องดีจริง
กินเมนูไทยๆ มาก็หลายเมนูแล้ว หันมาชิมเมนูอาหารนานาชาติอื่นๆ ที่ทางร้านนำมาเสนอให้ชิมกันบ้าง มี ไก่ซูสี (180 บาท++) เมนูนี้ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาเอง นำปีกไก่บนมาเลาะกระดูกออกหมด แล้วนำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกปรุงเครื่องแบบครบรสไว้แล้วมายัดลงไปในปีกไก่ แล้วนำไปทอดกรอบอีกที เสิร์ฟมาร้อนๆ กินปีกไก่กรอบนอกเนื้อในเคี้ยวนุ่มได้รสชาติข้าวเหนียวรสดีถูกปาก จิ้มเพิ่มรสชาติกับน้ำจิ้มที่ออกเปรี้ยวนำหวานตาม
กุ้งสิงคโปร์-ขนมปังฝรั่งเศส (320 บาท++) เป็นอีกหนึ่งเมนูนานาชาติที่ชวนลิ้มรส ทางร้านนำกุ้งขาวไปผักคลุกเคล้ากับซอสสูตรเด็ดที่ปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ กุ้งเนื้อแน่นเคี้ยวเด้งปาก ฉ่ำซอสรสดีออกหวานๆ เค็มๆ และมีขนมปังฝรั่งเศสปิ้งกรอบๆ มาให้กินคู่กัน เข้ากันดีเยี่ยม
นอกจากของคาวที่ชวนกินแล้ว ยังมีของหวานให้ได้ลิ้มรสกันด้วย ที่อยากแนะนำก็มี ส้มฉุน (90 บาท++) เป็นขนมหวานแบบไทยๆ ทำจากผลไม้รวมนำมาลอยแก้ว มีลิ้นจี่เป็นส่วนผสมหลัก และน้ำเชื่อมที่ทำจากส้มซ่า ใส่น้ำแข็ง และโรยหน้าด้วยขิงสดกับหอมเจียว กินแล้วอร่อยสดชื่นปากชุ่มคอชื่นใจ หอมหวานโดนใจ
และแรบบิทเมซ (120 บาท++) เป็นอีกหนึ่งเมนูขอหวานที่ชวนชิม มีผลไม้หลายอย่างคลุกเคล้ามากับครีมสดที่ทางร้านทำเอง ก้นถ้วยใส่ซอสเสาวรส และท็อปด้วยเสาวรสสด กินแล้วผลไม้สดหวานเข้ากันดีกับครีมเบานุ่มมันปาก ตัดด้วยรสเปรี้ยวจากซอสเสาวรสสดชื่นปากดีแท้
แม้ว่าจะกินมาหลายเมนูจนอิ่มแน่นท้องสุดๆ แล้ว แต่ในเมนูก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก อาทิ ขนมจีนกุ้งสด-ทอดมันปลากราย (160 บาท++) แกงรัญจวน-หมูกรอบท่านสมุห์ (140 บาท++) เปาะเปี๊ยะลาบหมูทอด (90 บาท++) ผัดวุ้นเส้นปูสไตล์เวียดนาม (220 บาท++) ฯลฯ รวมถึงยังมีเครื่องดื่มที่ชวนดื่มอีก อย่างเช่น ชาไทยเฉาก๊วย (80 บาท++) สตรอเบอร์รี่ลามเมด (120 บาท++) เห็นทีว่าเมนูอื่นๆ คงต้องขอติดเอาไว้คราวหน้า ถ้าได้มาสยามสแควร์อีกเมื่อไหร่ จะต้องแวะเวียนกลับมากินอาหารไทยอร่อยๆ ที่ร้าน “Rabbit in the kitchen” นี้อีกให้จงได้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Rabbit in the kitchen” ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ ซอย 11 ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม . การเดินทางถ้านั่งรถไฟฟ้าBTS ให้ลงที่สถานีสยามสแควร์ แล้วเดินมาที่สยามสแควร์ซอย 11 จะเห็นร้านRabbit in the kitchen ตั้งอยู่ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น. โทร. 0-2658-4200 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: rabbitinthekitchen / Instragram : rabbitinthekitchen / Twitter : rabbitkitchen
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง ร้าน "Rabbit in the kitchen"
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com