xs
xsm
sm
md
lg

มุดหินลุยน้ำ ชม “ถ้ำน้ำเขาศิวะ” ความงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างที่เหนือคำบรรยาย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หินงอกหินย้อยภายใน “ถ้ำน้ำเขาศิวะ”
“ถ้ำ” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตระการตาที่ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยธรรมชาติ และซ่อนความสวยงามไว้อยู่ภายใน อีกทั้งถ้ำแต่ละแห่งก็ยังมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ รอให้เหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยได้เข้าไปสัมผัสในความงดงามเหล่านั้น

“ถ้ำน้ำเขาศิวะ” ก็เป็นอีกหนึ่งถ้ำที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของภาคตะวันออก โดยตั้งอยู่ที่บ้านเขาจันทร์แดง อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ระหว่างเทือกเขากกมะม่วงและเทือกเขาตาง๊อก ซึ่งเป็นเทือกเขาใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา


ภายในถ้ำน้ำเขาศิวะนั้นมีความงดงามของหินงอกหินย้อย ที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างขึ้นมาไม่แพ้ถ้ำไหนๆ พร้อมเส้นทางผจญภัยที่น่าตื่นเต้นในการเข้าไปชมทัศนียภาพภายในถ้ำ เพราะเราจะต้องลุยน้ำตลอดเส้นทางสมกับชื่อ “ถ้ำน้ำเขาศิวะ”
เปลี่ยนรองเท้าใส่เสื้อชูชีพ เตรียมตัวผจญภัย
แต่ก่อนจะเข้าไปผจญภัยภายในถ้ำจะขอกล่าวประวัติคร่าวๆ ให้ได้รู้กันก่อน ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2519 โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2527 ได้มีชาวบ้านเข้าไปหาปลาลึกเข้าไปในถ้ำและพบเห็นสิ่งประหลาดเข้า โดยเป็นสิ่งมีชีวิตมีลำตัวสีแดงแหวกว่ายอยู่ภายในถ้ำ ในบริเวณจุดที่เรียกว่า “หยดน้ำทิพย์” ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำหยดลงมา จึงเชื่อว่าถ้ำนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีพญานาคอาศัยอยู่ ชาวบ้านจึงร่วมกันตั้งศาลขึ้นและให้ชื่อว่า “ศาลปู่นาคา” และด้วยความงดงามภายในถ้ำ ต่อมาที่นี่จึงได้รับความสนใจจากผู้ที่รักในการผจญภัย และพัฒนาให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ปากทางเข้าถ้ำและ “ศาลปู่นาคา”
ในการเริ่มต้นการผจญนั้น เราจะต้องสวมเสื้อชูชีพและเปลี่ยนรองเท้าเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเสื้อชูชีพนั้นจะช่วยให้เราลอยตัวเมื่อต้องเจอช่วงน้ำลึกและรองเท้าจะช่วยทำให้การเดินภายในถ้ำนั้นสะดวกขึ้น เพราะเราต้องลุยน้ำเละเดินเหยียบหินเข้าไปตลอดเส้นทางการผจญภัยในระยะทาง 333 เมตร อีกทั้งภายในถ้ำยังมืดสนิท ซึ่งจะต้องมีไกด์เป็นผู้ถือไฟนำทางตลอดเส้นทางในการเข้าไปชมความสวยงามภายในถ้ำแห่งนี้
“ไกด์นำทาง” พร้อมไฟส่องทางและกะละมังลอยห่วงยาง สำหรับใส่สิ่งของ
ภายในถ้ำน้ำเขาศิวะนั้น ทัศนียภาพด้านในจะเป็นลำธารที่ไหลอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งระดับน้ำนั้นจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลแต่จะมีน้ำตลอดทั้งปี ในช่วงแรกการเข้าไปชมนั้นระดับน้ำยังไม่ลึกมาก ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวที่บินโฉบไปมาให้ได้ตื่นเต้น และช่วงนี้นักท่องเที่ยวก็ไม่ควรเข้าใกล้ผนังถ้ำเพราะเป็นที่อยู่อาศัยของแมงมุมหิน อาจได้รับอันตรายจากการถูกกัดได้
ทัศนียภาพภายใน “ถ้ำน้ำเขาศิวะ”
ลึกเข้ามาก็จะเจอกับช่วงน้ำตื้นน้ำลึกเป็นระยะๆ แต่ทัศนียภาพภายในนั้นก็จะเริ่มสวยงามขึ้นเรื่อยๆ เพราะรอบกายของเราจะถูกรายล้อมไปด้วยหินงอกหินย้อยที่สวยงามแปลกตาชวนหลงใหล และน้ำตลอดเส้นทางนั้นยังใสจนสามารถเห็นพื้นได้อีกด้วย ทำให้ผู้ที่มาเยือนทึ่งกับความงามที่ถูกธรรมชาติสร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นประติมากรรมอลังการอยู่ภายใต้เทือกเขาแห่งนี้
“หินหน้าพระศิวะ” มองดูเงาคล้ายหน้าคนหันข้าง
ตลอดเส้นทางเราก็จะพบกับจุดไฮไลต์เด่นๆ คือ “หินหน้าพระศิวะ” โดยเป็นหินที่งอกลงมาจากผนังถ้ำเมื่อส่องไฟแล้วจะเห็นเงาเป็นลักษณะหน้าคนหันข้าง “หยดน้ำทิพย์” บริเวณนี้เป็นหินย้อยที่มีลักษณะเป็นเกลียวลงมาและมีน้ำไหลลงมาตามเกลียวซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยจะมีผู้ที่เข้ามาเพื่อนำน้ำในจุดนี้ไปประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ด้วย และในจุดนี้ไกด์จะบอกให้เรานำน้ำมาลูบหัวเพื่อความเป็นมงคล และบริเวณ “น้ำตก” ในถ้ำช่วงสุดท้ายจะมีน้ำตกเล็กๆ ในช่วงระหว่างทางเดินซึ่งสวยงามเป็นอย่างมาก
หินงอกหินย้อยงดงามชวนหลงใหล
ผนังถ้ำด้านในสุดจะเป็นจุดที่เป็นตาน้ำ ซึ่งจะมีน้ำไหลออกมาจากด้านล่าง ในจุดนี้มีเรื่องเล่าไว้ว่า ก่อนที่จะเปิดให้เข้ามาท่องเที่ยวได้มีการสำรวจโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำมาด้วย เมื่อถึงปลายสุดของถ้ำได้มีการดำน้ำลงไปสำรวจเพราะบริเวณนี้เป็นบริเวณตาน้ำที่ลึกที่สุด และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ดำลงไปสำรวจแล้ว เมื่อกลับขึ้นมาเล่าว่าข้างล่างนั้นเป็นเหมือนเมืองบาดาล เจ้าหน้าที่คนนั้นเพียงแค่เล่าเรื่องราวแต่ไม่หันกลับไปมองบริเวณนั้นอีกและยังไม่มีใครกล้าที่จะดำลงไปอีก จึงกลายมาเป็นเรื่องราวปริศนาที่เล่าต่อๆ กันมาของถ้ำน้ำเขาศิวะแห่งนี้
น้ำตกระหว่างทางเดินภายในถ้ำ
เมื่อสิ้นสุดเส้นทางการผจญภัยแล้วนั้น เราก็ต้องเดินย้อนกลับมาตามเส้นทางเดิม เพราะถ้ำแห่งนี้เป็นทางตัน และหากใครที่กลัวว่าภายในถ้ำจะมีกลิ่นอับและรู้สึกอึดอัด ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะภายในถ้ำนั้นเย็นสบายมีอากาศถ่ายเท ระยะเวลาในการชมถ้ำนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และหากใครที่ต้องการจะนำกล้องเข้าไปถ่ายรูปก็สามารถทำได้เพราะไกด์จะมีกะละมังลอยห่วงยางไว้สำหรับใส่อุปกรณ์ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความระมัดระวังของตัวเราเองด้วย
“หยดน้ำทิพย์” น้ำศักดิ์สิทธิ์ใต้ขุนเขา
สำหรับเส้นทางในการเดินทางมาถ้ำน้ำเขาศิวะนั้น จากตัวเมืองจังหวัดสระแก้ว แล้วใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 317 เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกตัดเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 3067 จากนั้นเลี้ยวขวาตัดเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 3395 ตรงไปประมาณ 15 กิโลเมตร จะพบสามแยก และเลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะถึงทางเข้า “ถ้ำเขาน้ำศิวะ”

นับเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ หากใครที่ได้มาเที่ยว ก็คงจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
นักท่องเที่ยวชมความงามภายใน “ถ้ำน้ำเขาศิวะ”
น้ำภายในถ้ำใสและไหลเย็น
บริเวณด้านในสุดของถ้ำน้ำเขาศิวะ
ทัศนียภาพริมทางก่อนเข้าสู่ “ถ้ำน้ำเขาศิวะ”
(คลิกติดตามแหล่งท่องเที่ยวอื่นของ “จังหวัดสระแก้ว” ได้ที่ลิงก์นี้)

**********************************************************************************************************************************************

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก (รับผิดชอบพื้นที่ จ.นครนายก, ปราจีนบุรี, สระเก้ว) โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284 www.facebook.com/tatnanokfans#sthash.vipljNrA.dpuf

การเข้าชมภายในถ้ำน้ำเขาศิวะ ต้องติดต่อที่ว่าการอำเภอคลองหาด ในการจัดหาคนนำทางและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ชูชีพ ไฟนำทาง ห่วงยาง ค่าบริการ 200 บาท โทร.0-3751-2241

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น