อาหารการกินของบ้านเรานั้นมีให้เลือกกินเลือกชิมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นของคาว ของว่าง ของหวาน แต่ละอย่างก็มีเมนูให้เลือกสรรกันนับไม่ถ้วน แถมยังมีให้กินกันได้ทั้งวันทั้งคืน
อย่างข้าวต้ม ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มหมู ข้าวต้มไก่ ส่วนใหญ่ก็จะกินกันในช่วงเช้า แต่ถ้าเป็นข้าวต้มกุ๊ย ก็มักจะหากินได้ช่วงเย็นจนถึงดึก และยังมีข้าวต้มปลา ที่มักจะหากินได้ในช่วงเย็นถึงค่ำเช่นเดียวกัน
ส่วนร้านเก่าแก่ที่เปิดขายข้าวต้มปลามานานก็ต้องอยู่ในละแวกสะพานเหลืองและพลับพลาไชย อย่างร้านที่ “ผ่านมาแวะชิม” มาลิ้มรสในคราวนี้ ก็ตั้งอยู่บนถนนพลับพลาไชย แม้จะมาเปิดเป็นร้านใหม่ แต่สูตรลับความอร่อยนั้นมาจากร้านข้าวต้มปลาสะพานเหลืองนั่นเอง
ร้านนี้มีชื่อว่า “ข้าวต้มปลา by อุษณีย์” โดย คุณอุษณีย์ ลิขิตยั่งยืน ผู้เป็นเจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า สูตรข้าวต้มปลาของที่ร้านก็มาจากต้นตำรับของคุณพ่อ ที่เป็นข้าวต้มปลาเจ้าเก่าสะพานเหลือง ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ ก็ยังคงคำนึกถึงคุณภาพ ความสดใหม่ และความสะอาดเป็นอันดับแรก
หากว่ายืนมองอยู่หน้าร้านก็จะเห็นเครื่องเคราที่เตรียมไว้ปรุงใส่ข้าวต้มวางอยู่หลากหลาย คุณอุษณีย์เล่าว่า เนื้อปลาที่นำมาใช้จะเลือกใช้ปลากะพงจากน้ำทะเลลึก ซึ่งแต่ละตัวนั้นจะมีขนาดใหญ่มาก นำมาหั่นเป็นชิ้นใหญ่ แล้วต้มให้สุก แล้วก็ยังมีตับปลากะพงสด และกระเพาะปลาสดที่ใช้กระเพาะจากปลากะพงน้ำลึกเช่นกัน นำมาต้มให้สุก ก่อนจะนำไปใส่ข้าวต้มออกมาให้ลองชิม
เครื่องเคราอื่นๆ อย่างกุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ๆ หรือหอยนางรม ก็ต้องเลือกสั่งมาจากเจ้าประจำสดๆ ใหม่ๆ ทุกวันเช่นกัน ส่วนเครื่องในก็มีกระเพาะหมู ที่จะล้างทำความสะอาดและตุ๋นจนได้ที่ เซี่ยงจี้หมูก็จะคัดอย่างดี นำมาล้างทำความสะอาดและตัดเมือกออก นำไปแช่น้ำแข็งให้คงความสด เมื่อมีคนสั่งก็ค่อยนำมาลวกให้สุกชามต่อชาม
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือข้าวและน้ำซุป โดยข้าวจะใช้ข้าวหอมมะลิเก่าต้มมาเป็นข้าวต้ม ได้ข้าวต้มเนื้อนุ่มๆ เม็ดกำลังสวย ใส่ผสมกับน้ำซุปที่ต้มจากกระดูกหมูล้วนๆ เคี่ยวอยู่หลายชั่วโมงจนได้น้ำซุปใสๆ กลิ่นหอมหวน
เห็นเครื่องเคราหลากหลายแล้วก็อดใจไม่ไหว สั่งข้าวต้มชามแรกมาลองชิม ข้าวต้มรวมมิตร (200 บาท) ที่ชามนี้ใส่ทั้งหอยนางรม กุ้งแชบ๊วย เนื้อปลากะพง กระเพาะหมู เซี่ยงจี้ และบะเต็ง ซดน้ำซุปร้อนๆ กินคู่กับข้าวต้มนุ่มๆ รสชาติกลมกล่อม ส่วนเนื้อปลานุ่มแน่นเด้งไม่คาว ชิ้นปลาใหญ่เคี้ยวเต็มปาก หอยนางรมและกุ้งสดเด้งหวาน ส่วนเครื่องในก็นุ่มไม่มีกลิ่นคาว กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรอร่อยของทางร้านที่จะเสิร์ฟมาให้คู่กัน คือน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว ใครชอบแบบไหนก็เลือกจิ้มกันได้ตามสะดวก
ส่วนชามถัดไปขอเลือกเป็น ข้าวต้มปลา+กระเพาะหมู (150 บาท) ชามนี้ก็อร่อยถูกใจ ได้ชิมเนื้อปลาเน้นๆ กระเพาะหมูแน่นๆ จิ้มน้ำจิ้มเพิ่มรสชาติอีกหน่อย อร่อยเต็มปากเต็มคำ
แต่ถ้าเบื่อข้าวต้มแล้วก็หันมาลอง เกาเหลาแห้งลวกจิ้ม (150-200 บาท) ชามนี้ใส่เครื่องเคราเต็มที่ ทั้งเนื้อปลาสดหวาน ตับปลากะพง และกระเพาะปลา ด้านล่างรองด้วยผักกาดขาวลวกสุก โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่ายและกระเทียมเจียวหอมๆ จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มทั้งสองแบบก็ยิ่งอร่อย
ข้าวต้มของร้านนี้มีเครื่องเคราให้เลือกมากมาย ใครชอบอะไรก็เลือกสั่งจับคู่กันได้เลย หรืออยากจะสั่งลวกจิ้มมากินเปล่าๆ ก็ได้ วัตถุดิบสดๆ ใหม่ๆ นำมาปรุงสุกแบบต้นตำรับ ช่างหอมอร่อยจนอยากกลับไปกินบ่อยๆ เสียจริง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “ข้าวต้มปลา by อุษณีย์” ตั้งอยู่ริมถนนพลับพลาไชย แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. การเดินทางจากถนนพระราม 1 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเกษม ตรงมาแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าถนนหลวง แล้วตรงมาจนถึงห้าแยกพลับพลาไชย เลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่ถนนพลับพลาไชย วิ่งตรงมาผ่านหน้า ธ.ไทยพาณิชย์ ให้สังเกตทางขวามือ จะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน บริเวณปากซอยสุกี้ยศเส ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 17.00-22.00 น. (บางวันอาจปิดร้านไปออกงานนอกสถานที่ กรุณาโทรสอบถามล่วงหน้า) โทร. 08-1000-0671, 08-1868-5323 facebook : kawtomplabyusanee
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง ร้าน "ข้าวต้มปลา By อุษณีย์"
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com