xs
xsm
sm
md
lg

รวบอีก 1 โจ๋แสบชิงทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สน.สำราญราษฎร์ รวบอีก 1 โจ๋แสบชิงทรัพย์ ผู้ต้องหาคดีเดียวกับ สน.นางเลิ้ง สารภาพร่วมกับเพือนก่อเหตุ ขยายผลพบหมายจับเพียบ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (14 ธ.ค.) พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.สำราญราษฎร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายสุวัตร นเรนรัมย์ อายุ 29 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีขาว-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ปืนออร์โตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 7 นัด กระเป๋าสะพาย จำนวน 9 ใบ กระเป๋าสตางค์ 8 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง และทรัพย์สินอื่นๆ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2147/2556 ลง 30 ต.ค.2556 ท้องที่ สน.สามเสน ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 764/2556 ลง 1 พ.ย. 2556 ท้องที่ สน.นางเลิ้ง ชิงทรัพย์ ตามหมายจับ ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ จ.744/2556 ลง 10 ต.ค. 2556 ท้องที่ สน.บางพลัด

พล.ต.ต.วัลลภ กล่าวว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (14 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ได้ทำการจับกุมตัว นายสุวัตร หรือบี นเรนรัมย์ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ ซึ่งจับกุมได้ขณะที่สายตรวจได้ออกปฏิบัติหน้าที่ ได้มีคนร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงออกติดตาม จนพบผู้ต้องสงสัยพร้อมแสดงตัวขอตรวจค้น พบว่ามีอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผล และนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นภายในห้องพัก ในชุมชนวัดโสมนัส 2 เขตป้อมปราบ กทม. พบกระเป๋าพายแบบผู้หญิง จำนวน 9 ใบ กระเป๋าสตางค์ จำนวน 8 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ จากนั้นเจ้าหน้าที่รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ต่อมา ทำการขยายผลจนทราบว่าผู้ต้องรายนี้ มีหมายจับอีก 3 คดีดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาย้อนหลัง พบว่า เคยก่อเหตุโดยรอบพื้นที่ฝั่งธนฯ กว่า 31 คดี โดยผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษคดีครอบครองยาบ้าที่ สน.พลับพลาไชย 1 เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา

จากรสอบสวน นายสุวัตร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ขับขี่ จยย. แล้ว นายอาทิตย์ หรือแบงค์ เหมัสเฐียร เป็นผู้ซ้อนท้าย แล้วตระเวนหาเหยื่อที่เป็นผู้หญิง ใช้เวลากลางคืนที่เดินอยู่ริมถนนคนเดียว โดยนายอาทิตย์ จะใช้อาวุธปืนข่มขู่เหยื่อ จากนั้นจะนำทรัพย์สินทีได้มาไปขาย หรือเข้าโรงรับจำนำ จากนั้นนำเงินที่ได้มาไปใช้เที่ยวเตร่ และเสพยาเสพติด

น.ส.รสสุคนธ์ แก้วบุญเรือง ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. เวลาประมาณ ตี 1 ตนได้ขับขี่ จยย.กลับจากทำงาน เมื่อมาถึงบริเวณซอยเจริญนคร 23 ได้มีคนร้ายขับ จยย.เข้ามาประกบขณะที่ตนกำลังชะลอรถ คนร้ายได้กระชากกุญแจรถ จยย.ของตนออก ก่อนจะชักปืนออกมาข่มขู่ แล้วบอกให้ตนส่งกระเป๋าให้ จากนั้นคนร้ายยังพยายามถามถึงรหัสเอทีเอ็ม แต่ตนปฏิเสธว่าในกระเป๋าไม่มีบัตรเอทีเอ็ม คนร้ายจึงโมโห และใช้เท้าถีบตนจนรถ จยย.ล้มแล้วหลบหนีไป

เบื้องต้น แจงข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไมมีเหตุอันสมควร และฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม ม.18(4) แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
กำลังโหลดความคิดเห็น