โลกใต้ทะเลถือเป็นอีกโลกหนึ่งที่มีความน่าอัศจรรย์ยิ่ง ราวกับเป็นอีกมิติหนึ่งที่มีสิ่งมีชีวิตต่างๆ อาศัยอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝูงปลานานาชนิด สัตว์ทะเลน้อยใหญ่ ปะการังสีสันสวยงามมากมาย รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตอันหลากหลายใต้ท้องทะเลด้วยเช่นกัน
หากอยากเห็นความงามใต้ทะเลก็ต้องดำน้ำลงไปชมด้วยตาของตัวเอง ซึ่งโลกใต้ทะเลของเมืองไทยนับเป็นแหล่งดำน้ำที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้ที่อื่นๆ โดยเฉพาะทางฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งสามารถดำน้ำชมความงามใต้ทะเลได้ทั้งแบบดำน้ำตื้น (Snorkeling) และดำน้ำลึก (Scuba) และในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 5 แหล่งดำน้ำยอดฮิตของทะเลไทยฝั่งอันดามัน ซึ่งในแต่ละจุดนั้นเรียกได้ว่ามีความสวยงามโดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งจะมีที่ไหน และมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นด่ำดิ่งไปชมกันเลย...
“หมู่เกาะสิมิลัน” งดงามติดอันดับโลก
“หมู่เกาะสิมิลัน” ใน จ.พังงา ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดแหล่งดำน้ำลึกของเมืองไทย และมีความงดงามติดอันดับ 1 ใน 10 แหล่งดำน้ำลึกยอดนิยมของโลก โดยจุดดำน้ำลึกเด่นๆ ของหมู่เกาะสิมิลัน ได้แก่ แฟนตาซีรีฟ ที่มีกองหินใต้น้ำ 3 ลูก เป็นจุดรวมของปะการัง กัลปังหา และสัตว์น้ำหลากชนิด เกาะปาหยูหรือเกาะเจ็ด ด้านตะวันออกมีทั้งจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึก มีทั้งปะการังแข็ง ปะการังอ่อน กัลปังหา และฝูงปลาหลากชนิด หินปูซาหรือหินหัวกะโหลก เป็นเกาะขนาดเล็กซึ่งมีก้อนหินรูปร่างคล้ายหัวกะโหลกอยู่เหนือน้ำ ส่วนใต้น้ำก็งามแปลกตาด้วยก้อนหินที่มีรูโพรงและมีช่องให้นักดำน้ำตื่นตาตื่นใจ เรือนกล้วยไม้บริเวณเกาะหก มีปะการังอ่อนสวยงามมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง และมักพบปลาสิงโตและกระเบนธงขนาดใหญ่ เกาะบางูหรือเกาะเก้า และบริเวณหินสันฉลาม ซึ่งเป็นกองหินปริ่มน้ำใกล้เกาะปาหยันหรือเกาะสาม นักดำน้ำมักได้พบกับฉลามครีบเงิน ฉลามเสือดาว และฉลามหูขาว
ส่วนจุดดำน้ำตื้นที่สิมิลันก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยบริเวณเกาะสี่และเกาะแปด ถ้าโชคดีนักดำน้ำก็จะได้พบเต่าทะเลมาแหวกว่ายดำน้ำเป็นเพื่อนเคียงคู่ไปด้วยกัน
“หมู่เกาะสุรินทร์” ดำน้ำตื้นดีที่สุดในไทย
“หมู่เกาะสุรินทร์” จ.พังงา ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่สวยงามที่สุดในเมืองไทย โดยในบริเวณอ่าวรอบๆ หมู่เกาะเกือบทุกอ่าวจะเต็มไปด้วยแนวปะการังแข็งที่สมบูรณ์ เป็นที่อาศัย แหล่งหากิน และเป็นที่หลับภัย ขยายพันธุ์ของสัตว์ทะเลจำนวนมาก อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งชมปลาการ์ตูนและเต่าทะเลที่หาดูได้ยาก และเป็นจุดดำน้ำที่พบฉลามวาฬบ่อยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ส่วนจุดดำน้ำลึกที่หมู่เกาะสุรินทร์ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน คือที่กองหินริเชลิว ซึ่งเป็นกองหินใต้น้ำที่มีลักษณะคล้ายคอนโดมิเนียมใต้ทะเล มีสัตว์ทะเลเล็กๆ อาศัยอยู่ตามซอกมุมของหิน เช่น ปลากบ กุ้งตัวตลก ม้าน้ำ ทากทะเล ปะการังอ่อนหลากสี และบางครั้งอาจได้พบกับฝูงปลาสากยักษ์ และปลากะพงขนาดใหญ่จำนวนมาก
ชมปะการังอ่อนที่ “หินม่วง หินแดง”
“หมู่เกาะลันตา” จ.กระบี่ เป็นอีกหนึ่งแหล่งดำน้ำที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม โดยเฉพาะบริเวณกองหินที่เรียกว่า หินม่วง หินแดง ซึ่งเป็นแหล่งปะการังอ่อนหลากสีสัน และมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่ อย่าง วาฬ ฉลามวาฬ และแมนต้าเรย์ รวมถึงกระเบนราหู กระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีโอกาสพบฉลามเสือดาวนอนหมอบอยู่ตามพื้นทรายหรือพบกับฝูงปลาสากยักษ์
ส่วนที่เกาะห้าซึ่งส่วนหนึ่งของหมู่เกาะลันตาก็เป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำขึ้นชื่อ เกาะห้าเป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก ใต้ผิวน้ำมีถ้ำขนาดใหญ่สลับซับซ้อน หากดำน้ำอยู่ในถ้ำแล้วมองออกมาจะเห็นแสงอาทิตย์ส่องกระทบผิวน้ำลงมาสู่ใต้ทะเลเป็นภาพที่งดงามมาก ส่วนทางด้านทิศตะวันตกของเกาะห้า มีกองหินขนาดใหญ่และปะการังอ่อนขึ้นอยู่ทั่วพื้นที่
ปะการังเจ็ดสีงดงามที่ “ร่องน้ำจาบัง”
“หมู่เกาะตะรุเตา” จ.สตูล บริเวณร่องน้ำจาบัง ที่นี่เป็นแหล่งดำน้ำตื้นชมปะการังเจ็ดสีที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง กองหินใต้น้ำบริเวณนี้ถูกปกคลุมไปด้วยปะการังอ่อนสีชมพู สีม่วง สีฟ้า สีแดง ฯลฯ มีดอกไม้ทะเล ดาวขนนก ปะการัง ปะการังครกขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายให้ชมมากมาย ไม่ว่าเป็น ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง แต่บริเวณร่องน้ำจาบังแห่งนี้เป็นร่องน้ำลึก มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว นักท่องเที่ยวที่ดำน้ำควรมีชูชีพ และเกาะเชือกที่ผูกไว้กับเรือขณะดำน้ำ เพราะกระแสน้ำอาจพัดไปไกลจนว่ายน้ำกลับเรือไม่ไหว
นอกจากนั้น แหล่งดำน้ำตื้นชมปะการังที่น่าสนใจของของหมู่เกาะตะรุเตาก็ยังมีที่ “เกาะดง” และ “เกาะยาง” เป็นแหล่งดำน้ำตื้นชมปะการังและฝูงปลาที่น่าชม สำหรับเกาะยางเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวนวล น้ำทะเลสีสวย ส่วนเกาะดง เป็นเกาะใหญ่และมีเกาะบริวารเล็กๆ อีก 6 เกาะ เช่น เกาะหินซ้อน ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะดงประมาณ 200 เมตร ลักษณะโดดเด่นคือ มีก้อนหินตั้งเป็นชั้น ๆ ด้านหน้าเกาะ มีแหล่งดำน้ำตื้นชมปะการังและฝูงปลาได้เช่นกัน
พบฉลามที่ “Shark Point” เกาะพีพี
ส่วนอีกหนึ่งจุดดำน้ำแห่งสุดท้ายที่นำมาแนะนำกันก็คือที่ “หมู่เกาะพีพี” จ.กระบี่ ที่นี่มีจุดดำน้ำลึกที่น่าสนใจ คือ บริเวณกองหินมูสัง หรือที่รู้จักในชื่อ Shark Point หรือ Anemone Reef ซึ่งอยู่ระหว่างภูเก็ตและเกาะพีพี มีลักษณะเป็นแนวกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่หลายกองเชื่อมต่อกัน มีปะการังและเนินใต้ทะเลซึ่งปกคลุมไปด้วยดอกไม้ทะเลหลากสีสัน รวมทั้งที่นี่ยังมีซากเรือคิงส์ครุยเซอร์ ที่เป็นดังบ้านใหม่ของสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด และบริเวณนี้ยังมีโอกาสพบฉลามดาวได้บ่อยครั้ง
นอกจากนั้นบริเวณเกาะคู่หรือกองหินปิดะ ก็เป็นจุดดำน้ำที่มีโอกาสได้พบกับฉลามเสือดาว กระเบนราหู รวมทั้งสัตว์เล็กๆ อย่าง ปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ หรือปลากบหลากหลายสีสันอีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
