พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ มีความตั้งใจพัฒนาวัดบ้านไร่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้พระพุทธศาสนาที่สำคัญ สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ โครงการอุทยานธรรมวัดบ้านไร่จึงได้ถือกำเนิดขึ้นตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้วัดบ้านไร่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งของ จ.นครราชสีมา
ปัจจุบันโครงการนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างมาถึงส่วนที่ 3 คือ “วิหารเทพวิทยาคม” วิหารพระไตรปิฎก เป็นวิหารเซรามิกกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย นำเสนอเรื่องราวแห่งพระไตรปิฎก ทั้ง 3 ตะกร้า อาทิ พุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ทั้งหมด มาถ่ายทอดผ่านศิลปะ
โดยได้จัดให้มีพิธีบวงสรวงเทวดา เพื่อความเป็นสิริมงคล และจัดแถลงข่าว “โครงการอุทยานธรรมวัดบ้านไร่ ส่วนที่ 3 วิหารเทพวิทยาคม” ขึ้น เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา โดยมี เกรียงไกร จารุทวี รองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ และ สัมพันธ์ สารารักษ์ ที่ปรึกษาด้านศิลปกรรมวัดบ้านไร่ ร่วมแถลงข่าว
วิหารเทพวิทยาคม เริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 บนพื้นที่กลางบึงน้ำขนาด 30 ไร่ ภายในวัดบ้านไร่ ส่วนบริเวณวิหารมีขนาดกว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร องค์วิหารเป็นอาคารลักษณะทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตร สูงประมาณ 42 เมตร มีทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2556
สำหรับเอกลักษณ์ของวิหารเทพวิทยาคมนี้เริ่มต้นด้วย “สะพานพญานาค” ที่ทอดกายเป็นสะพานแห่งศรัทธาเดินข้ามผ่านโลกมนุษย์สู่โลกแห่งธรรม จากนั้นจะเป็น “ซุ้มประตูบารมีทั้ง 4 ทิศ” ได้แก่ ซุ้มพระอินทร์ ซุ้มพระยม ซุ้มพระพิรุณ และซุ้มพระกุเวร (ท้าวเวสสุวรรณ) ส่วน “เสารอบอาคาร” เป็นเสาที่บรรจุภพชาติที่พระพุทธเจ้าถือกำเนิดทั้ง 523 ชาติไว้รอบๆ ด้านผนังรอบนอกนำเสนอจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง “ทศชาติชาดก” เป็นจิตรกรรมเขียนสีแผ่นเซรามิก
นอกจากนี้ภายในวิหารยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกมากมาย อาทิ เรื่องราวพุทธประวัติ ตั้งแต่สมัยกำเนิดพระพุทธเจ้า เรื่องราวของพระวินัยปิฎกและวิวัฒนาการของพระพุทธศาสนาหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เรื่องราวของพระธรรมปิฎก เป็นต้น
ทั้งนี้วิหารเทพวิทยาคม คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้ชาวไทยได้เข้าชมในเดือนตุลาคมนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.08-1828-7616 หรือ www.watbaanrai.com