ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แพทย์เผยหารือร่วมลูกศิษย์ได้ข้อยุติอนุญาตให้ “หลวงพ่อคูณ” ออกจาก รพ.กลับไปพักฟื้นต่อที่วัดบ้านไร่วันพุธที่ 10 ก.ค.นี้ ย้ำอยู่ที่วัดสั่งห้ามเข้าเยี่ยมหรือกราบในห้องกุฏิเด็ดขาด ด้านหลวงพ่อคูณอารมณ์ดีหลังทราบได้กลับวัดบ้านไร่
วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หลอดลมอักเสบ และเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อซ้ำซ้อนขึ้นหลายครั้ง กระทั่งล่าสุดอาการดีขึ้นตามลำดับเกือบหายเป็นปกติแล้วนั้น
ล่าสุด นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการล่าสุดของหลวงพ่อคูณถือว่าดีคงเดิมคล้ายกับทุกวัน ไม่มีไข้ รู้ตัว รู้เรื่อง จำวัดได้ดี รับอาหารได้เต็มที่ เสลดเสมหะยังต้องดูดออกวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น แต่มีปริมาณไม่มาก พร้อมพ่นยาขยายหลอดลม ฉันยาละลายเสมหะ ล้างกระเพาะปัสสาวะ และทำกายภาพด้วยการบำบัดปั่นจักรยานไฟฟ้า จนถึงขณะนี้สภาพร่างกายท่านแข็งแรงกว่า 90% แล้ว คาดว่าจะฟื้นสภาพปกติสมบูรณ์ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
ทั้งนี้ คณะแพทย์กับคณะลูกศิษย์หารือกันได้ข้อสรุปกำหนดวันนิมนต์หลวงพ่อคูณกลับวัดบ้านไร่แล้ว คือในวันพุธที่ 10 ก.ค.นี้ เพื่อให้ท่านกลับไปฟักฟื้นต่อที่วัดบ้านไร่ จึงฝากแจ้งไปยังญาติโยมศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณด้วย ส่วนการดูแลหลวงพ่อคูณขณะอยู่ที่วัดบ้านไร่นั้น สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษคือ 1. เรื่องการติดเชื้อของผู้คนญาติโยมศิษยานุศิษย์ที่ไปกราบ ฉะนั้นท่านต้องงดเยี่ยม งดรับกิจนิมนต์เด็ดขาดทุกกรณี 2. มีการวางระบบให้อยู่ภายในห้องกระจกแล้วให้ญาติโยมศิษยานุศิษย์กราบผ่านกระจกได้เท่านั้น
3. ระบบภายในกุฏิเป็นระบบแรงดันอัดอากาศเข้าไปในห้องผ่านเครื่องกรองได้อากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งแรงดันจะสูงกว่าปกติทั่วไปทำให้โอกาสที่จะนำเชื้อโรคเข้าไปในห้องมีน้อยลง โดยมีการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำคงที่ 26 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิภายนอกสูงข้างในจะพอดี หากอุณหภูมิภายนอกต่ำหรือเย็นลง เครื่องฮีตเตอร์จะทำงานทันทีทำให้อุณหภูมินิ่งและคงที่สม่ำเสมอ
นพ.พินิศจัยกล่าวต่อว่า ช่วงแรกเมื่อกลับไปวัดบ้านไร่แล้วจะมีแพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทดเข้าไปตรวจทุกวัน และมีพยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และ พยาบาลโรงพยาบาลด่านขุนทดประจำอยู่ที่นั่น ส่วนคณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และตนหากไม่มีปัญหาจะไปตรวจสัปดาห์ละครั้ง สำหรับการทำกิจกรรมพบญาติโยมศิษยานุศิษย์จะเป็นช่วงบ่ายของทุกวัน และเป็นช่วงที่หลวงพ่อทำกายภาพบำบัดด้วย และต้องย้ำว่าหากเวลาหลวงพ่อจำวัดไม่ควรไปรบกวนเพื่อให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่เช่นนั้นอาการอ่อนเพลียจะเกิดขึ้นจนเกิดภาวะอ่อนแรงหมดเรี่ยวแรง ฉะนั้นจึงขอให้เอาหลวงพ่อคูณเป็นศูนย์กลาง สิ่งใดหากหลวงพ่อไม่พร้อมก็ต้องไม่ทำ ต้องไม่ให้ทำกิจกรรมหรือเลื่อนกิจกรรมออกไป
“ส่วนระหว่างอยู่ที่วัดบ้านไร่จะมีอะไรแทรกซ้อนตามมาอีกหรือไม่คงคาดเดาไม่ได้ แต่ช่วงนี้หลวงพ่ออารมณ์ดี สดชื่น พูดคุยนาน ดูเหมือนท่านจะดีใจที่ได้ทราบข่าวจากลูกศิษย์ว่าจะได้กลับวัดบ้านไร่วันพุธนี้ แต่ยังต้องงดเยี่ยม งดรับกิจนิมนต์ทุกกรณี” นพ.พินิศจัยกล่าว