นครราชสีมา -หลวงพ่อคูณ ร่างกายฟื้นแล้วกว่า 80% แพทย์เผยอ่อนเพลียต้องการจำวัดห้ามรบกวน ห่วงเสลดเสมะยังมีอยู่มาก ไม่ลด และก็ไม่เพิ่ม คาดต้น มิ.ย.ได้กลับวัดบ้านไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้ารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ด้วยอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และหลอดลมอักเสบ หลังหลวงพ่อคูณมีอาการซึม มีไข้สูง และมีเสมหะ ติดเชื้อแบคทีเรีย พร้อมกับฉีดยาปฎิชีวนะทางหลอดเลือดดำจนครบ 14 วัน และได้หยุดยาแล้ว ซึ่งคณะแพทย์ได้ให้หลวงพ่อคูณเข้าพักรักษาอาการอาพาธที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โดยจัดคณะแพทย์ และพยาบาลคอยเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.) ที่ห้อง 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมด้วยคณะแพทย์เข้าตรวจอาการ ซึ่งหลวงพ่อคูณกำลังให้แพทย์ดูดเสลดเสมหะ และฉันยาละลายเสมหะ รับการพ่นยาขยายหลอดลม พร้อมกับรับอาหารเหลว ทำกายภาพบำบัดบนเตียง นวดแผนไทย โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้อง เนื่องจากเป็นห้องปิดควบคุมสิ่งแวดล้อมภายนอก เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
นพ.พินิศจัย กล่าวภายหลังว่า หลังเราหยุดยาปฎิชีวนะมา 2-3 วัน ตรวจซ้ำหลายรอบก็ไม่มีไข้ รู้ตัว รู้เรื่อง แต่เสลดเสมหะยังเยอะมากเหมือนเดิม ยังไม่ลด ไม่มีเพิ่ม ต้องดูดออกวันละ 2 ครั้ง และล้างกระเพาะปัสสาวะลดการอักเสบต่อไป ส่วนการตรวจเช็กระบบด้วยการอัลตราซาวนด์ และเอกซเรย์อย่างละเอียดช่วงนี้ยังไม่จำเป็น เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราก็ทำการตรวจเช็กระบบอย่างละเอียดไปแล้ว ไม่ว่าเรื่องถุงลมโป่งพอง ปอด หัวใจ เป็นปกติดี แต่ท่านมีเพลียอยู่บ้าง
ส่วนการออกนอกห้องลงไปข้างล่างวันนี้คงงดไปก่อน เพราะสภาพอากาศฝนทำท่าจะตก คงไม่เหมาะที่จะให้ออกนอกห้อง จะเป็นปัญหาเรื่องเสลดเสมหะเพิ่มอีก จึงให้ท่านจำวัดนานๆ เพราะช่วงนี้ท่านมีอาการอ่อนเพลียด้วย แนวโน้มอาการตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารักษาถึงตอนนี้ดีขึ้นกว่า 80% แต่แนวโน้มดีขึ้น 90% คงไม่แน่ใจตรงนั้น เพราะเสลดเสมหะยังมาก ส่วนการจะเปลี่ยนตัวยาละลายเสมหะ ยาลดเสลดเสมหะ ซึ่งเราก็ได้ให้ยาละลายเสมหะอยู่แล้ว พ่นยาขยายหลอดลมเป็นการรักษาแบบประคับประคอง เรื่องเสลดกว่าจะดีขึ้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน
ส่วนการพิจารณากลับวัดบ้านไร่อย่างที่ว่าไว้ประมาณต้นเดือนมิถุนายน ถ้าไม่มีไข้ ไม่มีภาวะแทรกซ้อนตามมา ก็อาจได้กลับ ตอนนี้นำท่านทำกายภาพบำบัดปั่นจักรยานไฟฟ้ามาได้ 3-4 วันแล้ว แต่วันนี้ดูท่านเพลียต้องการจำวัดคงจะงดปั่นไปก่อนสักวันสองวัน และคงขอว่าช่วงนี้งดเยี่ยมเด็ดขาด