“วัดพระมหาธาตุฯ” นครศรี ได้รับการขึ้นบัญชีมรดกโลก เตรียมเดินหน้าสู่มรดกโลกต่อไป

วัดพระมหาธาตุ เตรียมเป็นมรดกโลกต่อไป หลัง คณะกรรมการมรดกโลก มีมติเอกฉันท์รับรองให้วัดพระมหาธาตุฯ ขึ้นเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น ซึ่งเมืองไทยต้องเดินหน้าสู่ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกต่อไป โดยใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี

จากเมื่อปีที่ผ่านมาไทยได้เสนอชื่อ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในอนาคต ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกได้ลงมติรับรองให้วัดพระมหาธาตุฯ ขึ้นเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นแล้ว ด้วยมีมติเอกฉันท์ 21 เสียง

โดยขั้นตอนต่อไปไทยจะต้องจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ หรือที่เรียกว่าแฟ้มข้อมูล (Nomination File) ส่งไปยังศูนย์มรดกโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 เพื่อผลักดันให้เข้าสู่วาระการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกซึ่งจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี

สำหรับการเสนอชื่อวัดพระมหาธาตุฯ ขึ้นเป็นมรดกโลกนั้น หากเทียบจากข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้เป็นมรดกโลก จะเห็นว่าเข้าหลักเกณฑ์ 3 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ คือ ข้อ 1 เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์ นั่นคือมีการออกแบบอาคารและแผนผังของสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนา ในส่วนขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงลังกาหรือระฆังคว่ำ ปลียอดหรือยอดเจดีย์หุ้มด้วยทองคำแท้

ต่อมาคือข้อที่ 2 เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม โดยพระบรมธาตุเจดีย์ฯ แสดงถึงการสืบทอดคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนา พัฒนาการสถาปัตยกรรม การก่อสร้าง และแผนผัง ที่มีลักษณะผสมผสานระหว่างศิลปะของคาบสมุทรไทยตอนบนกับศิลปะลังกา นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่รับพุทธศาสนาลัทธิเถรวาทจากศรีลังกา และเผยแผ่ไปยังอาณาจักรสุโขทัยและอยุธยา

สุดท้ายคือข้อที่ 6 มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์ ที่เห็นได้จากประเพณีประจำปีที่เกี่ยวเนื่องกับองค์พระบรมธาตุเจดีย์ นั่นคือ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ที่มีความสัมพันธ์กับพุทธศาสนิกชนทั้งในท้องถิ่น ในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ

นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร มีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ตามกำหนดทั้งหมด 3 ข้อ

ด้าน นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กล่าวว่า เมื่อได้การพิจารณาเข้าสู่บัญชีเบื้องต้นแล้วจากนี้ไปกรมศิลปากรและทาง จ.นครศรีธรรมราช ต้องเร่งจัดทำเอกสารการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกหรือ Nomination dossier เพื่อให้ทันต่อการเสนอวัดพระมหาธาตุฯ ขึ้นทะเบียนมรดกโลกในปี 2558 ซึ่งถือว่าเป็นงานหนักพอสมควร เนื่องจากต้องมีความครบถ้วนของข้อมูล รวมทั้งสร้างแผนบริหารจัดการวัดพระมหาธาตุฯ ให้สมบูรณ์ที่สุด

ทั้งนี้ “บัญชีรายชื่อเบื้องต้น” (Tentative List) มีความสำคัญในมากเนื่องจากมีเพียงสถานที่ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อนี้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อขึ้นเป็นมรดกโลก โดยในประเทศไทยมีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและมรดกโลกทางธรรมชาติที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น ที่รอการนำเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกเพื่อพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลกอีก 4 แห่ง ได้แก่
1. ปราสาทหินพิมาย และเส้นทางวัฒนธรรม และปราสาทพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ อยู่ในบัญชีตั้งแต่ปี พ.ศ.2547
2. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท อยู่ในบัญชีตั้งแต่ปี พ.ศ.2547
3. กลุ่มป่าแก่งกระจาน อยู่ในบัญชีตั้งแต่ปี พ.ศ.2554
และ 4. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช อยู่ในบัญชีตั้งแต่ปี พ.ศ.2555

สำหรับวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เดิมเรียกว่า วัดพระบรมธาตุ การสร้างวัดนั้นไม่มีหลักฐานปรากฏอย่างแน่ชัดนอกจากตำนานที่กล่าวถึงการก่อสร้างองค์พระมหาธาตุ ซึ่งเล่าว่าพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชเป็นผู้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และสร้างเมืองขึ้นในบริเวณที่เป็น จ.นครศรีธรรมราช ในปัจจุบัน โดยพระบรมธาตุเจดีย์องค์เดิมนั้นเชื่อว่าเป็นเจดีย์แบบศรีวิชัย คือพระเจดีย์ทรงมณฑป มีหลังคาเป็น สถูปห้ายอดคล้ายพระบรมธาตุเจดีย์ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-15

ต่อมา พระสถูปแบบศรีวิชัยทรุดโทรมลง จึงได้มีการสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ทรงลังกาซึ่งเป็นเจดีย์องค์ปัจจุบันครอบไว้ ส่วนสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ ล้วนเป็นของที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเป็นส่วนใหญ่จะ มีสิ่งก่อสร้างในสมัย ธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้นอยู่บ้าง เช่น วิหารทับเกษตร วิหารพระแอด เป็นต้น

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com