บุรีรัมย์ - หยุดยาวสงกรานต์ ปชช.นักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติหลั่งไหลเที่ยวชมความงดงามปราสาทพนมรุ้ง อารยธรรมขอมโบราณที่บุรีรัมย์วันละกว่า 1 หมื่นคน เพิ่มขึ้นจากปกติ 5 เท่า เงินสะพัดวันละหลายล้าน พร้อมพากันไปเที่ยวชมสะพานแขวนข้ามปากปล่องภูเขาไฟที่มอดสนิทนับพันปีบนยอดเขากระโดงคึกคัก และกราบขอพรพระสุภัทรบพิตร
วันนี้ (15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ที่ จ.บุรีรัมย์ ได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เดินทางขึ้นไปเที่ยวชมความงดงาม และความมหัศจรรย์ของปราสาทพนมรุ้ง บนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางอารยธรรมขอมโบราณที่สำคัญของไทยกันอย่างคึกคัก วันละมากกว่า 10,000 คน เพิ่มขึ้นจากวันหยุดปกติ 5 เท่า โดยช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีผู้คนเดินทางมาเที่ยวชมเพียงวันละ 2,000-3,000 คนเท่านั้น ทำให้บนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งคึกคักไปด้วยผู้คน
ขณะที่ทางอุทยานฯ ได้ปิดประกาศห้ามไม่ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว นำสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้าไปดื่มภายในบริเวณอุทยานฯ เพราะเป็นเขตโบราณสถาน รวมทั้งเกรงจะเกิดการทะเลาะวิวาท ซึ่งได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ ทางอุทยานฯ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่คอยบรรยายให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว ถึงประวัติความเป็นมาในการก่อสร้างปราสาทพนมรุ้งดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ทางอุทยานฯ ยังได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชมให้แก่เด็ก และผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปด้วย อย่างไรก็ตาม ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้ง ไม่ได้มีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์แต่อย่างใด เนื่องจากบนปราสาทพนมรุ้งไม่มีแหล่งน้ำให้ประชาชนเล่นสาดน้ำกันอย่างเช่นในตัวเมือง และตัวอำเภอต่างๆ
ด้าน นางชุติมา จันทน์เทศ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง กล่าวว่า ในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้งคึกคักไปจนถึงสิ้นสุดวันหยุดยาว และคาดว่าจะมีเงินสะพัดในการจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชม ซื้อของฝากของที่ระลึก และร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มบนอุทยานฯ วันละหลายล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังได้ขอความร่วมมือประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ไม่ให้ไปทุบทำลาย หรือขีดข่วนปราสาทจนก่อให้เกิดความเสียหาย พร้อมขอให้ผู้ที่เข้าไปเที่ยวชมได้ร่วมกันรักษาความสะอาด และอนุรักษ์โบราณสถานดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างจังหวัดที่เดินทางกลับมาเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ยังภูมิลำเนายังได้พาครอบครัว พ่อแม่ ญาติพี่น้องขึ้นไปเที่ยวชมสะพานแขวนข้ามปากปล่องภูเขาไฟที่มอดดับสนิทมานับพันปี บนยอดภูเขาไฟกระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่มีการบูรณะให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของภูเขาไฟ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.บุรีรัมย์
พร้อมได้กราบไหว้ขอพรพระสุภัทรบพิตรจำลององค์ใหญ่ พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ และชมวิวทิวทัศน์สัมผัสอากาศธรรมชาติบนยอดเขากระโดง ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 265 เมตร เพื่อเป็นการสร้างความรัก ความอบอุ่นให้แก่สมาชิกในครอบครัว
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ระบุว่า ในช่วงหยุดยาวติดต่อกัน 5 วันเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ได้มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมภูเขาไฟกระโดงวันละไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 คน
ด้าน นายสมพร พรภู่ อายุ 58 ปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา รายหนึ่งบอกว่า ที่เลือกพาครอบครัวมาเที่ยวที่วนอุทยานภูเขาไฟกระโดงในช่วงวันหยุดสงกรานต์ปีนี้ เพราะต้องการมากราบไหว้ขอพรพระสุภัทรบพิตรจำลององค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟกระโดง เพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว ทั้งอยากพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อน และชมวิวทิวทัศน์บนยอดภูเขาไฟกระโดงที่มอดดับสนิทแล้ว ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน และจากที่ได้มาเที่ยวชมรู้สึกประทับใจ หากมีโอกาสจะพาครอบครัวกลับมาเที่ยวอีก
