ชวนนิสิต-นักศึกษาประกวดโครงการ “ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์”

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เชิญชวนนิสิต-นักศึกษา ส่งผลงานเข้าประกวดในโครงการประกวดหัวข้อ “ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สัมผัสภูมิปัญญาท้องถิ่น” เพื่อค้นหาผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ใน 4 ภูมิภาค 4 ทีม ชิงเงินรางวัลทีมละ 100,000 บาท พร้อมรับใบประกาศนียบัตรจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ตั้งแต่วันนี้ - 7 ก.ค. 56 ผู้สนใจดูรายละเอียดการประกวด แนวคิด หัวข้อของแต่ละภาค และดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.thaicreativetourism.com

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศผลักดันแผนพัฒนาการท่องเที่ยวปี 2555 - 2559 ชูนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Tourism รองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เน้นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและวิถีชีวิตดั้งเดิมของท้องถิ่น พร้อมเชิญชวนนิสิต-นักศึกษา ทั่วประเทศที่มีไอเดียบรรเจิด ส่งผลงานเข้าประกวดในหัวข้อ “ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สัมผัสภูมิปัญญาท้องถิ่น” ชิงเงินรางวัล รวมกว่า 590,000.00 บาท หวังนำผลงานไปต่อยอดสร้างภูมิปัญญาท้องถิ่นเพิ่มรายได้แก่ชุมชน

นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้จัดโครงการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใต้ชื่อโครงการ “ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สัมผัสภูมิปัญญาท้องถิ่น” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างกระแสการรับรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของประเทศ รวมถึงเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว และการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และวิถีชีวิตท้องถิ่นของตนเอง

“ที่มาของโครงการฯ เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ได้กำหนดแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2555- 2559 เพื่อใช้เป็นกรอบในการส่งเสริมการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศ โดยมีแนวทางในการสร้างความยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยวของประเทศ มุ่งสร้างและกระจายรายได้สู่สังคมและท้องถิ่น หนึ่งในนโยบายด้านการท่องเที่ยว คือการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ซึ่งถือเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่คำนึงถึงความยั่งยืน เน้นประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวจากการเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ สร้างความผูกพันระหว่างนักท่องเที่ยวกับเจ้าบ้าน อันเป็นผลให้เกิดความประทับใจและจดจำพื้นที่ท่องเที่ยวนั้นตลอดไป ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและวิถีชีวิตดั้งเดิมของท้องถิ่น รวมไปถึงเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน ด้วยนโยบายการท่องเที่ยวดังกล่าว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงมีแนวคิดในการจัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อสร้างเสริมศักยภาพของประเทศในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวให้มีความพร้อมและมีประสิทธิภาพในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอนาคต”

นายสุวัตร กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสได้แสดงออกถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของประเทศ จึงได้จัดโครงการประกวดในหัวข้อ “ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สัมผัสภูมิปัญญาท้องถิ่น” โดยเปิดโอกาสในนิสิต นักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่จำกัดคณะสาขาวิชา และชั้นปี เข้าร่วมกิจกรรมส่งผลงานการออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เพื่อค้นหาผู้ทีมที่มีความคิดสร้างสรรค์ใน 4 ภูมิภาค 4 ทีม รับเงินรางวัลทีมละ 100,000.00 (หนึ่งแสนบาทถ้วน) พร้อมรับใบประกาศนียบัตรจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และได้ลงพื้นที่ร่วมกับศิลปินดารา ได้แก่ ภาคเหนือ- พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร (ท็อป), ภาคกลาง - จรินทร์พร จุนเกียรติ (เต้ย), ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - ศิลปินวง แทตทู คัลเลอร์, ภาคใต้ -
รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ (ยิปโซ)

สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ 4 ทีม (จาก 4 ภูมิภาค) และรางวัลชมเชย 3 ทีม (ไม่จำกัดภูมิภาค) จะได้รับเงินรางวัลทีมละ 40,000 และ 10,000 บาท ตามลำดับ พร้อมรับใบประกาศนียบัตรจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมมูลค่าเงินรางวัล ในโครงการกว่า 590,000.00 (ห้าแสนเก้าหมื่นบาทถ้วน)

“โครงการนี้ได้รับเกียรติอย่างสูงจากผู้ทรงคุณวุฒิและกูรูชื่อดังด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาร่วมเป็นกรรมคัดเลือก อาทิเช่น คุณเสกสรร นาควงศ์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ศิริกุล กสิวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ สทน. และอาจารย์สุดแทน วิสุทธิลักษณ์ อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าคณะทำงานโครงการต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์”

สำหรับหัวข้อหรือขอบเขต Theme ที่คณะกรรมการใช้ในการตัดสิน คือ ภาคเหนือ - อารยธรรมล้านนา ท่องเที่ยวมรดกโลก ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและมรดกทางวัฒนธรรมภาคเหนือ , ภาคกลาง - วิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำภาคกลาง ท่องเที่ยว Active Beach และมรดกทางวัฒนธรรมภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ -อารยธรรมอีสาน วิถีชีวิตลุ่มน้ำโขงและมรดกทางวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ - มหัศจรรย์สองสมุทร และมรดกทางวัฒนธรรมภาคใต้

ทั้งนี้ข้อกำหนดสำคัญในการส่งผลงานเข้าประกวด คือ ผู้เข้าประกวดต้องรวมกลุ่ม 3-5 คน โดยเลือก 1 พื้นที่ในการจัดทำโครงการ 1พื้นที่ เพื่อออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิดที่กำหนด ซึ่งจะต้องนำอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของพื้นที่เป้าหมายมาใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้มีความโดดเด่น โดยนำเสนอ Conceptual Design ในรูปแบบเอกสาร ขนาด A2 จำนวน 1 แผ่น ระบุชื่อผลงานและแนวคิดในการออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ พร้อมเขียนรายละเอียดของกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ในรูปแบบเอกสารขนาด A4 ความยาวไม่เกิน 15 หน้ากระดาษ

โดยระบุถึงหลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ แนวคิด ชื่อผลงาน พื้นที่ของโครงการ รายละเอียดของกิจกรรมที่ต้องมีความสอดคล้องกับคุณลักษณะ 5 ประการคือ 1.เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการอนรุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น 2. นักท่องเที่ยวต้องได้รับประสบการณ์และมีส่วนร่วมในกิจกรรม 3.เป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างความผูกพันอันดีระหว่างนักท่องเที่ยวกับเจ้าบ้าน 4.สามารถสร้างให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจและเข้าใจในวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง 5.เป็นกิจกรรมที่แสดงถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่น่าสนใจ โดยทำการบันทึกไฟล์ Conceptual Design ไฟล์เอกสารนำเสนอรายละเอียดกิจกรรม และไฟล์อื่นๆ (ถ้ามี)ลงในแผ่น DVD ในรูปแบบไฟล์ pdf. หรือ .jpg แนบมาพร้อมกับผลงาน จำนวน 1 ชุด

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ทาง www.thaicreativetourism.com และส่งผลงานการประกวดมาที่ตู้ ปณ. 121 ปณศ. อ่อนนุช กรุงเทพฯ 10250 วงเล็บมุมซองว่า โครงการประกวดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ กำหนดการเปิดรับ ส่งใบสมัครและผลงานเข้าประกวด ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน - 7 กรกฎาคม 2556 และจะประกาศผลการประกวดและพิธีมอบรางวัลในวันที่ 1 สิงหาคม 2556 โดยผู้ชนะการประกวดจะได้ลงพื้นที่ทำเวิร์คช็อป ร่วมกับ ศิลปินดารา ภาคเหนือและภาคกลางในวันที่ 10-11 สิงหาคม 2556 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ วันที่ 17-18 สิงหาคม 2556 จากนั้นจะนำผลงานดังกล่าวเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ อาทิ Website , Facebook , Youtube เป็นต้น