xs
xsm
sm
md
lg

“เกาะตาชัย” ใครๆ ก็อยากไป สวยใสสุดฮิตจนนักท่องเที่ยวล้น!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทัศนียภาพอันงดงามของเกาะตาชัย
กลายเป็นประเด็นฮอตขึ้นมาอีกครั้งสำหรับ เกาะตาชัย แห่งหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ที่อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เมื่อมีภาพแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมากถึงปัญหาของเกาะตาชัย ที่ถูกซ่อนเร้นไว้ภายใต้ความสวยงามของเกาะแห่งนี้

ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวทาง“หน้าท่องเที่ยวผู้จัดการออนไลน์”ได้เคยเปิดประเด็นและนำเสนอไปเมื่อปีพ.ศ.2556) ซึ่งมาวันนี้เกาะตาชัยก็ยังคงประสบปัญหาเฉกเช่นดังเดิม และดูเหมือนจะยิ่งหนักข้อขึ้น เนื่องจากเกาะตาชัยได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ

ดังนั้นทางทีมงานจึงขอนำบทความที่ฉายภาพปัญหาของเกาะตาชัยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่วันนี้ยังคงเป็นปัญหาไม่ต่างจากเดิมมาให้ผู้อ่านได้พิจารณากันอีกครั้ง เพื่อให้ทางผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำปัญหาเหล่านั้นไปพิจารณาแก้ไข และนักท่องเที่ยวได้ช่วยกันอนุรักษ์เที่ยวเกาะตาชัยอย่างมีสำนึก เพื่อเกาะแห่งนี้คงความสวยงามอย่างยั่งยืนสืบต่อไปตราบนานเท่านาน

“เกาะตาชัย” เป็นเกาะเล็กๆ ในท้องทะเลอันดามัน อยู่ในเขตน่านน้ำของจังหวัดพังงา และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ใช้เวลาในการเดินทางจากชายฝั่งประมาณ 1-2 ชั่วโมง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ที่แม้จะเป็นที่รู้จักไม่นาน แต่ก็มาแรงแซงโค้งสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลแห่งอื่นๆ ด้วยความสวยใสของน้ำทะเลสีฟ้าสดและหาดทรายอันงามละเอียด ทำให้ผู้ที่มาเยือนต่างประทับใจ ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยมาก็หลงใหลใฝ่ฝันว่าจะต้องมาเยือนสักครั้งหนึ่งให้ได้

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ในฤดูท่องเที่ยวเกาะตาชัย หรือช่วงเวลาที่เปิดเกาะ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน-15 พฤษภาคม (ตามปกติจะปิดเกาะ 1 พ.ค. ในปีนี้เลื่อนปิดเป็น 15 พ.ค.) จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศจำนวนมากเดินทางมาชมความสวยงามที่เกาะตาชัยแห่งนี้

แต่ด้วยพื้นที่ของเกาะตาชัยซึ่งมีราว 12 ตร.กม. มีชายหาดเพียงแห่งเดียวอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ มีความยาวเหนือจดใต้ประมาณ 700 ม. แม้ทางอุทยานฯ จะไม่เปิดให้พักค้างคืนบนเกาะ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่ต่างมุ่งหน้ามายังเกาะพร้อมๆ กันจึงทำให้เกิดปัญหาไม่น้อย

นายณัฐ โก่งเกษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน กล่าวว่า เกาะตาชัยถือเป็นเกาะน้องใหม่ ด้วยพื้นที่ที่มีไม่มากนักทำให้รับนักท่องเที่ยวได้ไม่เยอะ แต่เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือเรื่องขยะ แต่เราก็จัดการโดยการนำใส่ถุงดำแล้วขนใส่เรือมาทิ้งบนฝั่ง บางส่วนก็ขอความร่วมมือจากเรือของบริษัททัวร์ให้ความร่วมมือช่วยกันนำขยะขึ้นฝั่งไปทิ้ง
น้ำทะเลสีฟ้าใสและทรายขาวละเอียดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน
“สิ่งที่ห่วงที่สุดคือเรื่องสิ่งแวดล้อมและเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว สำหรับเรื่องขยะเราก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจดูอยู่ตลอด เนื่องจากเป็นเกาะที่ให้เที่ยวแบบวันเดย์ทริป พอนักท่องเที่ยวกลับไปเราก็จะทำความสะอาดเก็บขยะบนเกาะกันอีกครั้งหนึ่งในช่วงเย็น และในส่วนของทางอุทยานฯ เองก็มีเรือที่ขนขยะจากเกาะกลับเข้าฝั่งอยู่แล้ว” นายณัฐ กล่าว

เกาะตาชัยนอกจากจะมีความสวยงามของเกาะเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ก็ยังมี “ปูไก่” เป็นพระเอกของเกาะอีกด้วย ปูไก่นี้เป็นปูน้ำจืดขนาดใหญ่ที่ชอบอาศัยอยู่ตามธารน้ำ ได้ชื่อว่าปูไก่เพราะส่งเสียงร้องคล้ายไก่ ในช่วงที่เปิดเกาะใหม่ๆ ปูไก่เหล่านี้ก็จะออกมาเดินอาบแดดกันถึงชายหาด แต่เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาเยือนที่เกาะมากขึ้นปูไก่ก็จะถอยร่นเข้าสู่ชายป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย

นายณัฐกล่าวถึงการชมปูไก่บนเกาะตาชัยว่า “เราจะมีการอบรมไกด์ของแต่ละบริษัทให้ทราบลักษณะนิสัยของปูไก่ ส่วนข้อปฏิบัติเวลาชมปูไก่ก็คือเวลาไปชมต้องห้ามใช้เสียง ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนมากก็ให้ความร่วมมือดี และจะมีมาตรการของเกาะที่ตกลงกับผู้ประกอบการไว้คือ ถ้าไกด์ทำไม่เหมาะสม เราก็จะเรียกผู้ประกอบการเจ้านั้นๆ มาทำความเข้าใจกันใหม่ เพราะถ้าธรรมชาติอยู่ไม่ได้ อีกหน่อยก็จะไม่มีใครมาเกาะตาชัย”
การควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวอาจส่งผลดีต่อธรรมชาติบนเกาะมากกว่า
“ในตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนที่ยังสามารถมาเที่ยวที่เกาะตาชัยได้ ก็อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติให้มาเที่ยวที่นี่ไม่มีผิดหวัง เพราะมีความหลากหลายของธรรมชาติสูง แต่เมื่อมาแล้วก็ทำตามคำแนะนำของไกด์และเจ้าหน้าที่ และร่วมกันดูแลธรรมชาติ เพราะถ้าเราดูแลธรรมชาติได้ ธรรมชาติก็จะอยู่กับเราได้เช่นกัน” หัวหน้าอุทยานฯ กล่าว

อีกด้านหนึ่ง เป็นความคิดเห็นจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวไปยังเกาะตาชัยท่านหนึ่ง ที่เป็นห่วงว่าการที่นักท่องเที่ยวมาที่เกาะตาชัยอย่างมากมายโดยไม่มีการจำกัดจำนวนนี้จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้
บริเวณรับประทานอาหารบนเกาะ
“2 ปีแล้วที่ตาชัยเริ่มเป็น signature destination ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ พอพูดถึงเกาะตาชัยต่างก็บอกว่า “ต้องไปให้ได้” แต่โดยส่วนตัวเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าควรมีการจำกัดนักท่องเที่ยว เพราะในช่วงพีคหรือช่วงวันหยุดยาว 3 วัน มีนักท่องเที่ยวเข้าไปที่เกาะเฉลี่ย 400-600 คน ทั้งที่ขีดความรับได้อยู่ที่ประมาณ 300 คนเท่านั้น อย่างช่วงวันมาฆบูชาที่ผ่านมานับเรือได้ 19 ลำ แต่ละลำขนผู้โดยสารอย่างต่ำ 30 คน นั่นคือปริมาณคนที่ทะลักเข้าไป”

“เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ การจราจรก็เริ่มจะหนาแน่น แต่ในภาพรวมมองเรื่องความปลอดภัยมากกว่า โดยเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งมีผู้สูงอายุจมน้ำอยู่หน้าหาดห่างออกไปประมาณ 200 ม. พอดีมีคนเห็นก็เลยเอาเรือดิงกี้ออกไปช่วยทัน ทางอุทยานฯ ก็มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ คน 600 คน หน้าหาดความยาว 600 กว่าเมตร ดูแลไม่พอหรอก ต่างคนต่างแสวงหาผลประโยชน์กัน แต่ไม่ได้มองเรื่องความปลอดภัยเลย แม้กระทั่งป้ายเตือนภัยก็ไม่มี เคยเสนอให้ตั้งเป็นทาวเวอร์ พวกเรายินดีที่จะหมุนเวียนกันเป็นยาม พร้อมวิทยุสื่อสารแจ้งเหตุไปที่เจ้าหน้าที่ แต่ก็ยังไม่มีใครทำกัน” แหล่งข่าวกล่าว
ปู่ไก่ พระเอกของเกาะที่มีความอ่อนไหวต่อเสียงและการสั่นสะเทือน
ผู้ประกอบการรายนี้กล่าวต่อว่า ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องอาหาร โดยกฎของอุทยานฯ แล้วไม่สามารถประกอบอาหารเองบนเกาะได้ บริษัททัวร์ก็จะใช้บริการครัวของทางอุทยานฯ ให้ทำอาหารบนเกาะเลี้ยงนักท่องเที่ยว มีบางส่วนที่นำไปเองเพราะของทางอุทยานฯ ไม่พอ อาจเป็นเพราะบางบริษัทไม่ได้แจ้งจำนวนนักท่องเที่ยวล่วงหน้า ก็ต้องเฉลี่ยวัตถุดิบ อาหารมันก็ไม่พอ ปัญหานี้มีรายวันเพราะทุกบริษัทต้องใช้บริการ

การทำอาหารบนเกาะนี้ก็เพิ่มปัญหาขยะบนเกาะได้ด้วยเช่นกัน และเมื่อถามถึงเรื่องปูไก่ แหล่งข่าวท่านนี้กล่าวว่า “เรื่องปูไก่มีผลกระทบรุนแรง เพราะปูไก่อ่อนไหวกับเสียงและแรงสั่นสะเทือน ในแต่ละวันนักท่องเที่ยวเป็นร้อยเดินเข้าไปในแหล่งที่เค้าอยู่ เค้าก็หนีออกมา นักท่องเที่ยวบางคนขาดข้อมูล คึกคะนอง หรือกระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เอาไม้ไปแหย่บ้าง จับใส่ถุงถ่ายรูปบ้าง เป็นการรบกวนธรรมชาติโดยตรง เจ้าหน้าที่อุทยานไม่ได้เข้าไปด้วยเพราะคนไม่พออย่างที่บอก เขายุ่งอยู่กับเรื่องอาหารกับเรื่องการจัดเก็บรายได้ แต่เราในฐานะผู้ประกอบการต้องโทษตัวเราก่อนว่าเราให้ข้อมูลเขาเพียงพอหรือยัง ถ้าเราพาเขาเข้าไปโดยให้ข้อมูลไม่พอแล้วเขาไปทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็ต้องตำหนิตัวเอง แต่ปัญหาที่เกิดคือตอนนี้มีนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติมาก ทั้งจีน รัสเซีย สแกนดิเนเวีย เยอรมัน มีปัญหามากเรื่องการสื่อสาร พอสื่อสารไม่ชัดเจนก็นึกว่าที่เขาทำไปมันไม่ผิด แม้ทุกครั้งจะมีล่ามแต่บางครั้งเขาก็ไม่ฟัง”
ขยะบนเกาะเป็นปัญหาหนึ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแล
เมื่อถามถึงการแก้ปัญหา แหล่งข่าวกล่าวว่า การใช้ทรัพยากร ถ้ามันมีขีดจำกัดแล้วก็ควรควบคุมนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในแต่ละวัน แต่การจะควบคุมนั้นยากเพราะต้องมาจากส่วนราชการก่อน ความชัดเจนเรื่องระเบียบข้อบังคับต่างๆ ต้องชัดเจนก่อน แล้วข้อบังคับตัวนั้นค่อยมาถึงผู้ประกอบการทุกคนที่จะต้องปฏิบัติตาม ไม่มีข้อละเว้น

“การทำการตลาดควรประสานกับส่วนราชการว่านโยบายจะเอาอย่างไร ถ้าเปิดเสรีแบบนี้ก็จะเกิดปัญหา แต่การจะมาร่วมกันวางแผนเพื่อการท่องเที่ยวเกาะตาชัยอย่างยั่งยืนต้องร่วมมือหลายภาคส่วนมาก เราใช้พื้นที่เขตอุทยานฯ ข้อปฏิบัติก็ต้องมาจากอุทยานฯ ก่อน ต้องมีความชัดเจนว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวจำนวนเท่าไรต่อวัน และต้องมีการคุยกันระหว่างภาครัฐกับเอกชนและชุมชนมากกว่านี้ ช่วงนี้ก็ปลายซีซันคงจะดำเนินการยาก เราก็เฝ้าระวังเพื่อใช้สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้เป็นบทเรียนไปใช้ในฤดูกาลท่องเที่ยวหน้า” ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายนี้กล่าวทิ้งท้าย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น