xs
xsm
sm
md
lg

10 มหัศจรรย์เมืองประจวบฯ...ประทับใจ-ไม่ควรพลาด!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ (ถ้ำพระยานคร)
“ประจวบคีรีขันธ์” คือจังหวัดที่เป็นดังประตูบานใหญ่ที่เชื่อมระหว่างภาคกลางและภาคใต้ ตัวจังหวัดทอดตัวยาวเลียบชายฝั่งอ่าวไทย ประจวบคีรีขันธ์ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางหลักในการเดินทางสู่ภาคใต้เท่านั้น แต่ยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยในปีนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ ได้ชู “10 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามหัศจรรย์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์” ขึ้น ซึ่งทั้ง 10 สถานที่นั้นล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดหากได้มาเยือนเมืองประจวบฯ

เริ่มต้นด้วยอันดับ 1. “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ (ถ้ำพระยานคร)” : พระที่นั่งบนพื้นดิน งามดั่งเทวดาเนรมิต” พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ตั้งอยู่ภายในถ้ำพระยานคร หาดแหลมศาลา ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อ.กุยบุรี สร้างขึ้นในปี 2433 เพื่อเป็นที่ประทับในคราวเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ 5 มีลักษณะเป็นพลับพลาจัตุรมุขเปิดโล่งทำด้วยไม้สักประดับด้วยช่อฟ้าใบระกา เมื่อพระอาทิตย์สาดแสงผ่านปล่องถ้ำ แสงนั้นจะส่องกระทบองค์พระที่นั่งดูงดงามเรืองรองเป็นที่น่าประทับใจยิ่งนัก
“ช้างป่า” อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
อันดับ 2. “อุทยานแห่งชาติกุยบุรี : กุยบุรี ซาฟารีเมืองไทย” ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ใน อ.กุยบุรี เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมพื้นที่โดยรอบของทางอุทยานและสามารถพบเห็นสัตว์ป่าได้ตามเส้นทาง อาทิ วัวแดง เก้งหม้อ กระทิง โดยเฉพาะช้าง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ อช.กุยบุรีจึงได้รับฉายาว่าเป็น “ซาฟารีเมืองไทย” และเนื่องจากมีปัญหาสัตว์ป่าเข้ามาทำลายพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระราชดำริจัดตั้งโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี สร้างความสมบูรณ์ให้แก่ผืนป่าเพื่อที่จะได้เป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ของสัตว์ป่า จึงทำให้ปัญหาการรบกวนของสัตว์ป่าลดน้อยลง
ทัศนียภาพด้านบน ”เขาช่องกระจก”
อันดับ 3. “เขาช่องกระจก : จุดรับ-ส่งตะวันเมืองสามอ่าว” หากได้มาเยือน อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์แล้วก็ไม่ควรที่จะพลาดขึ้นไปเที่ยวชมทิวทัศน์บนเขาช่องกระจก ซึ่งที่มาของชื่ออยู่ที่จุดเด่นของยอดเขาที่จะมีช่องโปร่งคล้ายกรอบกระจก บนยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัดเขาช่องกระจก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และด้านบนยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นอ่าวและเกาะต่างๆ ของทะเลประจวบฯ ได้อย่างสวยงาม
“น้ำตกห้วยยาง” อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง
อันดับ 4. “อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง : ธรรมชาติแห่งสายธาร ริมเขาตะนาวศรี” อุทยานแห่งนี้อยู่ใน อ.ทับสะแก ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีโดยมียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาสูงสุด ในอุทยานยังคงความอุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์พืชต่างๆ ในส่วนของน้ำตกห้วยยางนั้นมีทั้งหมด 9 ชั้น น้ำตกชั้นล่างๆ จะมีขนาดเล็กธารน้ำไหลลงมาตามโขดหินสูงประมาณ 2-5 ม. สามารถลงเล่นน้ำได้ ส่วนน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดชมวิวที่งดงาม โดยสายน้ำจะตกจากผาสูงประมาณ 15 ม. นอกจากนั้น บริเวณทางแยกที่ชั้น 4 จะเป็นทางเดินไปยังจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ไกลถึงชายทะเล
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
อันดับ 5. “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ : ค้นหาความหมายของเลข 5 และ 9 บนยอดเขาธงชัย” พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ตั้งอยู่ที่ อ.บางสะพาน สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์ครบ 50 ปี สร้างตามสถาปัตยกรรมไทย และเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี ศิลปินแห่งชาติ ชื่อของพระมหาธาตุเจดีย์นั้นมีความหมายว่า เป็นเจดีย์ที่ผู้จงรักภักดีสร้างถวาย เป็นอาคารสูง 5 ชั้นประกอบด้วยหมู่พระเจดีย์ 9 องค์ องค์กลางซึ่งสูงที่สุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปทองคำแท้ บริเวณระเบียงแต่ละชั้นยังสามารถชมวิวทะเลที่งดงามได้ด้วย
ช่องทะลุไฮไลท์แห่ง”เกาะทะลุ”
อันดับ 6. “เกาะทะลุ : เกาะในฝัน ที่มีมากกว่าการเที่ยวทะเล” เกาะทะลุเป็นเกาะส่วนตัวใน อ.บางสะพานน้อย เป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวสามารถมาทำกิจกรรมได้หลากหลาย อาทิ เล่นน้ำชายหาดหรือดำน้ำดูปะการังในทะเลสวยใส พายเรือคายัค หมกทรายเพื่อสุขภาพ เล่นเรือใบ และอีกหนึ่งไฮไลท์ประจำเกาะนั้นก็คือ การนั่งเรือไปชมโตรกผาสีแดงที่มีช่องทะลุขนาดใหญ่จนเป็นที่มาของชื่อเกาะทะลุ หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวควบคู่กับการทำกิจกรรมไปด้วยแล้ว เกาะทะลุก็เป็นอีกหนึ่งเกาะที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย (อ่านเรื่อง "แปลกใหม่!!! หมกทรายเพื่อสุขภาพ-ตามหาช่องว่างกลางอ่าวไทย ที่ “เกาะทะลุ” ได้ที่นี่)
หาดผาแดงหรือหาดฝั่งแดง
อันดับที่ 7. “หาดฝั่งแดงหรือหาดผาแดง : ชายหาดสีแดงอายุกว่า 100,000 ปี” หาดฝั่งแดงตั้งอยู่ใน อ.บางสะพานน้อย มีลักษณะพิเศษตรงที่ชายหาดและบริเวณหน้าผาที่โดนน้ำและลมกัดเซาะเป็นสีแดงอิฐ มองดูสวยแปลกตา จากการสำรวจทางธรณีวิทยาพบว่า บริเวณจุดนี้ทางธรณีวิทยาถือเป็นการเกิดตะกอนในยุคไครสโตซีน มีอายุอยู่ในราวกว่า 1 แสนปีขึ้นไป ในยุคนั้นบริเวณนี้จะเป็นยุดที่มีทางน้ำกวัดแกว่งอยู่แถวนี้ และพัดพาตะกอนกรวดเข้ามาค่อนข้างไกล และมาสะสมตัวอยู่บริเวณจุดนี้ ซึ่งก้อนกรวดจะมีลักษณะกลมมน นานเข้าจากการสะสมก็จะทำให้มีความหนาของตะกอนประมาณ 10 กว่าเมตรขึ้นไป โดยชายหาดผาแดง มี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกจะเป็นลักษณะของศิลาแลง อายุประมาณกว่า 1 แสนปีขึ้นไป และอีกส่วนลงไปแนวเดียวกัน มีอายุกว่า 240 ล้านทอดตัวยาวไกลสุดตา หากวันไหนคลื่นลมสงบฟ้าใสก็จะสามารถมองเห็นหน้าผาสีแดงได้ชัดเจนจากเกาะทะลุได้อีกด้วย
สถานีรถไฟหัวหิน
อันดับ 8. “พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ สถานีรถไฟหัวหิน : สถาปัตยกรรมสมัย ร.6 ณ สถานีรถไฟหัวหิน” สถานีรถไฟหัวหิน ใน อ.หัวหิน นับเป็นสถานีที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศ เป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่จะเดินทางมายังหาดหัวหิน แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมอันดับต้นๆ ของไทย สถานีแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพลับพลาพระมงกุฎฯ ซึ่งแต่เดิมตั้งอยู่ที่พระราชวังสนามจันทน์ จ.นครปฐม สถานีรถไฟหัวหินเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ผลิตภัณฑ์จากโรงทอผ้าเขาเต่า
อันดับที่ 9 “โรงทอผ้าเขาเต่า : ต้นแบบการทอผ้าตามพระราชดำริแห่งแรก” ศูนย์ฝึกอบรมทอผ้าเขาเต่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ใน อ.หัวหิน เป็นศูนย์ทอผ้าฝ้ายแห่งแรกซึ่งเป็นต้นแบบของโรงทอผ้าแห่งแรกของไทย ความพิเศษของผ้าฝ้ายที่นี่มีความเงางามเหมือนผ้าไหมดูสวยงามสะดุดตา ซึ่งที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ จะมีผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้เลือกซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝากของที่ระลึกอีกอย่างหนึ่งของจังหวัดประจวบฯ
ทางเดินศึกษาธรรมชาติ”ศูนย์ศึกษาฯป่าชายเลนสิรินาถราชินี”
อันดับ 10. “ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี : มหัศจรรย์ป่าคนสร้าง พลิกนากุ้งให้เป็นป่าชายเลน” ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ตั้งอยู่ที่ อ.ปราณบุรี เมื่อครั้งอดีตบริเวณนี้เคยเป็นนากุ้งที่มีแต่ความเสื่อมโทรม แต่ด้วยพระราชดำริของสมเด็จพระราชินี ทางกรมป่าไม้จึงได้สนองพระราชดำริด้วยการยกเลิกสัมปทานนากุ้ง และพลิกฟื้นผืนป่าชายเลนขึ้นมา หากใครได้มาที่ศูนย์ศึกษาฯ แห่งนี้ก็จะได้ทราบว่าป่าชายเลนนั้นมีความสำคัญอย่างไร โดยมีเส้นทางเดินชมและศึกษาธรรมชาติ อาคารพิพิธภัณฑ์ และไฮไลท์ก็คือหอชมวิวซึ่งสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์และชมวิวป่าชายเลนอันกว้างไกล เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและเรียนรู้ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

สถานที่ท่องเที่ยวมหัศจรรย์เมืองประจวบฯ ทั้ง 10 แห่ง ต่างมีความพิเศษและน่าสนใจในตัว หากใครมีโอกาสได้ใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบทะเลอ่าวไทยของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็อย่าลืมแวะชมความมหัศจรรย์เมืองประจวบฯ ที่ยังรอให้ค้นหาเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ในการท่องเที่ยว และเก็บเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ

************************************************************************************ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร. 0-3251 3885, 0-3251-3871, 0-3251-3854

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น