โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
“เรียมเหลือทนแล้วนั่น... ขวัญ ของเรียม...” คำร้องบางตอนจากเพลง “ขวัญของเรียม” ซึ่งประกอบภาพยนตร์เรื่อง “แผลเก่า” อันเป็นเรื่องราวของอ้ายขวัญ-อีเรียม เจ้าของตำนานรักแห่งทุ่งบางกะปิ ตามบทประพันธ์ของไม้ เมืองเดิม ฉันเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะคุ้นหูอยู่บ้าง
หากให้ย้อนนึกถึงภาพทุ่งบางกะปิในยุคขวัญเรียม คนยุคนี้ก็คงจะนึกหน้าตาไม่ออกแล้ว เพราะทุ่งบางกะปิในยุคปัจจุบัน เต็มไปด้วยบ้านเรือน รถราวิ่งกันขวักไขว่ ผู้คนมากมาย แต่ก็ยังพอมีอยู่บางพื้นที่ที่ยังคงความสงบไว้อยู่บ้าง คือละแวกริมคลองแสนแสบ อันเป็นส่วนหนึ่งในตำนานของขวัญเรียม
ชีวิตริมคลองแสนแสบ แม้ว่าจะผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเช่นกัน แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของวิถีริมน้ำ ให้กับคนรุ่นหลังๆ ได้เห็นอยู่ โดยเฉพาะที่ “ตลาดน้ำขวัญเรียม” ที่พยายามจำลองภาพชีวิตของชาวบ้าน และความสงบร่มรื่นของสายน้ำเอาไว้
ฉันได้มาเดินเล่นที่ “ตลาดน้ำขวัญเรียม” แห่งนี้ จากการได้ยินได้ฟังมาจากเพื่อนฝูงว่ามีตลาดน้ำแห่งใหม่เปิดขึ้นในกรุงเทพฯ แต่ก็ยังหาเวลาว่างไม่ได้เสียที พอมีโอกาสก็เลยต้องมาเดินดูให้เห็นกับตาตัวเองว่าเป็นเช่นไร
สำหรับการมาที่ตลาดน้ำแห่งนี้มากันได้สองเส้นทาง ทั้งจากถนนเสรีไทย ซอยเสรีไทย 60 เข้ามาที่วัดบำเพ็ญเหนือ และจากถนนรามคำแหง ซอยรามคำแหง 187 เข้ามาที่วัดบางเพ็งใต้ ซึ่งตลาดน้ำขวัญเรียมจะตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ เชื่อมวัดทั้งสองนี้ไว้ด้วยกัน
มาถึงตลาด จุดแรกที่ต้องแวะถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนก็คือ ป้ายตลาดน้ำขวัญเรียม ที่ตั้งอยู่ติดกับสะพานข้ามคลองเชื่อมวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ จะว่าไปก็ต้องถือว่าเป็นป้ายยอดฮิต เพราะฉันเห็นว่านักท่องเที่ยวแทบจะทุกคนต้องมารอต่อคิวถ่ายรูปคู่กับป้ายเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ฉันเดินขึ้นสะพานข้ามคลองจากวัดบางเพ็งใต้ มายังฝั่งวัดบำเพ็ญเหนือ จากนั้นก็เดินเล่นต่อมายังส่วนที่เป็นร้านขายของ ซึ่งก็มีทั้งของกินของใช้ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่ที่เห็นว่ามีคนมุงอยู่เยอะจริงๆ ก็ต้องเป็นร้านอาหาร โดยเฉพาะในช่วงเที่ยงๆ ก็ยิ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เนื่องจากที่ตลาดนี้ก็รวบรวมเอาของกินอร่อยๆ จากหลายๆ แหล่งมาไว้ด้วยกัน
แม้ว่าตลาดน้ำแห่งนี้จะไม่ได้มีแม่ค้าพายเรือมาขายของเหมือนกับหลายๆ ที่ แต่ก็ยังคงมีความโดดเด่นตรงที่แม่ค้าจะนำเรือเอี้ยมจุ๊นมาจอดเรียงรายกัน แล้วก็ขายอาหารหลากหลายเมนูกันในนั้น และบางลำก็ยังมีที่นั่งภายในเรือ ให้ลงไปนั่งเปิปข้าวกันแบบสำราญใจด้วย
ฉันเดินดูตลาดจนเกือบทั่ว มองไปทางไหนก็เห็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย จูงลูกหลานมาเที่ยวตลาดน้ำกันมากมาย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่จะตื่นตาตื่นใจกับเรือเอี้ยมจุ๊นเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าในชีวิตประจำวันของพวกเขาคงจะเห็นเรือแบบนี้ยากเสียหน่อย หรือบางคนอาจจะไม่เคยเห็นเลย พอมาถึงตลาดแล้วยังมีอาหารขายอยู่ในเรือ ก็ต้องรบเร้าอยากเข้าไปนั่งเป็นธรรมดา
อีกจุดหนึ่งที่เห็นผู้คนคลาคล่ำเช่นกันก็คือ สะพานที่อยู่ตรงกลางตลาด ลักษณะคล้ายๆ กับกระดูกงูของเรือที่กำลังต่ออยู่แต่ยังไม่เสร็จสิ้นเรียบร้อยดี เห็นว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปไปแชร์ด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นว่า สะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำตลาดน้ำขวัญเรียมไปแล้ว
ใครที่อยากมาถ่ายรูปบนสะพาน คงจะต้องหามุมเหมาะๆ กันหน่อย ถึงจะได้วิวสวยๆ ของตลาดด้วย แต่สำหรับผู้พิการ หรือคุณย่าคุณยายที่นั่งรถเข็นมา ก็ยังสามารถขึ้นมาอยู่บนสะพานได้ด้วย เพราะทางตลาดได้ทำลิฟท์ไว้ให้บริการฟรี แบบนี้ไม่ว่าใครก็สามารถข้ามไปข้ามมาได้อย่างสะดวกแล้ว
ส่วนคนที่เดินรอบตลาดจนเหนื่อยเมื่อย แล้วอยากหาที่นั่งพักผ่อน ก็สามารถมานั่งชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ที่ทางตลาดเปิดเวทีบริเวณริมน้ำให้เด็กๆ และเยาวชนได้มาแสดงความสามารถอันหลากหลาย และนอกเหนือจากการแสดงศิลปวัฒนธรรมแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดขึ้นบนเวที มีการหมุนเวียนกิจกรรมไปเรื่อยๆ ให้คนที่มาเที่ยวตลาดได้เข้ามานั่งชมกัน อาทิ การแสดงดนตรี การเทศนาธรรมจากพระนักเทศน์ชื่อดัง เป็นต้น
มากิน มาเที่ยว มาซื้อของกันแล้ว ใครที่อยากทำบุญด้วย ที่ตลาดแห่งนี้ก็มีให้พร้อม เนื่องจากตลาดน้ำขวัญเรียมตั้งอยู่ระหว่างวัด 2 วัด จึงสะดวกอย่างมากทำหรับการไปไหว้พระทำบุญ แต่ใครที่อยากมาใส่บาตรด้วย ก็ต้องมากันแต่เช้าตรู่หน่อย เพราะตอนเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ ทางตลาดจะจัดให้มีการตักบาตรพระทางน้ำ โดยเมื่อผู้คนมาพร้อมกันแล้วก็จะมีการกล่าวนำคำถวายภัตตาหาร จากนั้นพระท่านจะให้ศีลให้พร และพระสงฆ์จะลงเรือแล้วลอยลำเพื่อรับบาตรทั้งทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ สำหรับของใส่บาตรนั้น ใครสะดวกนำมาจากบ้านก็ได้ หรือจะมาเลือกซื้อที่ตลาด ก็มีจำหน่ายทั้งอาหารสดและอาหารแห้งจัดไว้เป็นชุดๆ
และอีกกิจกรรมที่เป็นที่นิยมในหมูนักท่องเที่ยวก็คือ การล่องเรือชมคลองแสนแสบ โดยในเรือแต่ละลำก็จะมีมัคคุเทศก์ตัวน้อยคอยบรรยายประวัติความเป็นมาของตลาด คลองแสนแสบ วิถีชีวิตของชาวบ้านริมสองฝั่งคลอง ซึ่งก็สามารถสอบถามราคาและรอบเรือกันได้ที่ตลาดทางฝั่งวัดบำเพ็ญเหนือ
ใครที่มีวันหยุด หรือวันเสาร์อาทิตย์ว่างๆ ก็ชวนกันมาเดินเล่นที่ตลาดน้ำขวัญเรียมกันดีกว่า มารับอากาศสบายๆ แบบธรรมชาติริมคลอง ที่แม้จะไม่ได้บรรยากาศในยุคขวัญเรียมเมื่อหลายสิบปีก่อนอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังพอมีกลิ่นอายให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงเมื่อครั้งวันวาน ได้รับความสงบแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ กลางเมืองใหญ่ที่วุ่นวาย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ตลาดน้ำขวัญเรียม ตั้งอยู่ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และซอยรามคำแหง 187 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. สามารถเดินทางมาตลาดได้สองเส้นทาง คือ จากถนนสุขาภิบาล 2 (เสรีไทย) ให้เลี้ยวเข้าซอยเสรีไทย 60 เข้ามาที่วัดบำเพ็ญเหนือ หรือมาจากถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) ให้เลี้ยวเข้าซอยรามคำแหง 187 เข้ามายังวัดบางเพ็งใต้ ตลาดน้ำขวัญเรียมเปิดบริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00-20.00 น. (กิจกรรมตักบาตรพระทางน้ำ จัดขึ้นในเวลา 07.30 น.) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-7701-2878 www.kwan-riamfloatingmarket.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
“เรียมเหลือทนแล้วนั่น... ขวัญ ของเรียม...” คำร้องบางตอนจากเพลง “ขวัญของเรียม” ซึ่งประกอบภาพยนตร์เรื่อง “แผลเก่า” อันเป็นเรื่องราวของอ้ายขวัญ-อีเรียม เจ้าของตำนานรักแห่งทุ่งบางกะปิ ตามบทประพันธ์ของไม้ เมืองเดิม ฉันเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะคุ้นหูอยู่บ้าง
หากให้ย้อนนึกถึงภาพทุ่งบางกะปิในยุคขวัญเรียม คนยุคนี้ก็คงจะนึกหน้าตาไม่ออกแล้ว เพราะทุ่งบางกะปิในยุคปัจจุบัน เต็มไปด้วยบ้านเรือน รถราวิ่งกันขวักไขว่ ผู้คนมากมาย แต่ก็ยังพอมีอยู่บางพื้นที่ที่ยังคงความสงบไว้อยู่บ้าง คือละแวกริมคลองแสนแสบ อันเป็นส่วนหนึ่งในตำนานของขวัญเรียม
ชีวิตริมคลองแสนแสบ แม้ว่าจะผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเช่นกัน แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของวิถีริมน้ำ ให้กับคนรุ่นหลังๆ ได้เห็นอยู่ โดยเฉพาะที่ “ตลาดน้ำขวัญเรียม” ที่พยายามจำลองภาพชีวิตของชาวบ้าน และความสงบร่มรื่นของสายน้ำเอาไว้
ฉันได้มาเดินเล่นที่ “ตลาดน้ำขวัญเรียม” แห่งนี้ จากการได้ยินได้ฟังมาจากเพื่อนฝูงว่ามีตลาดน้ำแห่งใหม่เปิดขึ้นในกรุงเทพฯ แต่ก็ยังหาเวลาว่างไม่ได้เสียที พอมีโอกาสก็เลยต้องมาเดินดูให้เห็นกับตาตัวเองว่าเป็นเช่นไร
สำหรับการมาที่ตลาดน้ำแห่งนี้มากันได้สองเส้นทาง ทั้งจากถนนเสรีไทย ซอยเสรีไทย 60 เข้ามาที่วัดบำเพ็ญเหนือ และจากถนนรามคำแหง ซอยรามคำแหง 187 เข้ามาที่วัดบางเพ็งใต้ ซึ่งตลาดน้ำขวัญเรียมจะตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ เชื่อมวัดทั้งสองนี้ไว้ด้วยกัน
มาถึงตลาด จุดแรกที่ต้องแวะถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนก็คือ ป้ายตลาดน้ำขวัญเรียม ที่ตั้งอยู่ติดกับสะพานข้ามคลองเชื่อมวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ จะว่าไปก็ต้องถือว่าเป็นป้ายยอดฮิต เพราะฉันเห็นว่านักท่องเที่ยวแทบจะทุกคนต้องมารอต่อคิวถ่ายรูปคู่กับป้ายเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ฉันเดินขึ้นสะพานข้ามคลองจากวัดบางเพ็งใต้ มายังฝั่งวัดบำเพ็ญเหนือ จากนั้นก็เดินเล่นต่อมายังส่วนที่เป็นร้านขายของ ซึ่งก็มีทั้งของกินของใช้ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่ที่เห็นว่ามีคนมุงอยู่เยอะจริงๆ ก็ต้องเป็นร้านอาหาร โดยเฉพาะในช่วงเที่ยงๆ ก็ยิ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เนื่องจากที่ตลาดนี้ก็รวบรวมเอาของกินอร่อยๆ จากหลายๆ แหล่งมาไว้ด้วยกัน
แม้ว่าตลาดน้ำแห่งนี้จะไม่ได้มีแม่ค้าพายเรือมาขายของเหมือนกับหลายๆ ที่ แต่ก็ยังคงมีความโดดเด่นตรงที่แม่ค้าจะนำเรือเอี้ยมจุ๊นมาจอดเรียงรายกัน แล้วก็ขายอาหารหลากหลายเมนูกันในนั้น และบางลำก็ยังมีที่นั่งภายในเรือ ให้ลงไปนั่งเปิปข้าวกันแบบสำราญใจด้วย
ฉันเดินดูตลาดจนเกือบทั่ว มองไปทางไหนก็เห็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย จูงลูกหลานมาเที่ยวตลาดน้ำกันมากมาย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่จะตื่นตาตื่นใจกับเรือเอี้ยมจุ๊นเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าในชีวิตประจำวันของพวกเขาคงจะเห็นเรือแบบนี้ยากเสียหน่อย หรือบางคนอาจจะไม่เคยเห็นเลย พอมาถึงตลาดแล้วยังมีอาหารขายอยู่ในเรือ ก็ต้องรบเร้าอยากเข้าไปนั่งเป็นธรรมดา
อีกจุดหนึ่งที่เห็นผู้คนคลาคล่ำเช่นกันก็คือ สะพานที่อยู่ตรงกลางตลาด ลักษณะคล้ายๆ กับกระดูกงูของเรือที่กำลังต่ออยู่แต่ยังไม่เสร็จสิ้นเรียบร้อยดี เห็นว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปไปแชร์ด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นว่า สะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำตลาดน้ำขวัญเรียมไปแล้ว
ใครที่อยากมาถ่ายรูปบนสะพาน คงจะต้องหามุมเหมาะๆ กันหน่อย ถึงจะได้วิวสวยๆ ของตลาดด้วย แต่สำหรับผู้พิการ หรือคุณย่าคุณยายที่นั่งรถเข็นมา ก็ยังสามารถขึ้นมาอยู่บนสะพานได้ด้วย เพราะทางตลาดได้ทำลิฟท์ไว้ให้บริการฟรี แบบนี้ไม่ว่าใครก็สามารถข้ามไปข้ามมาได้อย่างสะดวกแล้ว
ส่วนคนที่เดินรอบตลาดจนเหนื่อยเมื่อย แล้วอยากหาที่นั่งพักผ่อน ก็สามารถมานั่งชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ที่ทางตลาดเปิดเวทีบริเวณริมน้ำให้เด็กๆ และเยาวชนได้มาแสดงความสามารถอันหลากหลาย และนอกเหนือจากการแสดงศิลปวัฒนธรรมแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดขึ้นบนเวที มีการหมุนเวียนกิจกรรมไปเรื่อยๆ ให้คนที่มาเที่ยวตลาดได้เข้ามานั่งชมกัน อาทิ การแสดงดนตรี การเทศนาธรรมจากพระนักเทศน์ชื่อดัง เป็นต้น
มากิน มาเที่ยว มาซื้อของกันแล้ว ใครที่อยากทำบุญด้วย ที่ตลาดแห่งนี้ก็มีให้พร้อม เนื่องจากตลาดน้ำขวัญเรียมตั้งอยู่ระหว่างวัด 2 วัด จึงสะดวกอย่างมากทำหรับการไปไหว้พระทำบุญ แต่ใครที่อยากมาใส่บาตรด้วย ก็ต้องมากันแต่เช้าตรู่หน่อย เพราะตอนเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ ทางตลาดจะจัดให้มีการตักบาตรพระทางน้ำ โดยเมื่อผู้คนมาพร้อมกันแล้วก็จะมีการกล่าวนำคำถวายภัตตาหาร จากนั้นพระท่านจะให้ศีลให้พร และพระสงฆ์จะลงเรือแล้วลอยลำเพื่อรับบาตรทั้งทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ สำหรับของใส่บาตรนั้น ใครสะดวกนำมาจากบ้านก็ได้ หรือจะมาเลือกซื้อที่ตลาด ก็มีจำหน่ายทั้งอาหารสดและอาหารแห้งจัดไว้เป็นชุดๆ
และอีกกิจกรรมที่เป็นที่นิยมในหมูนักท่องเที่ยวก็คือ การล่องเรือชมคลองแสนแสบ โดยในเรือแต่ละลำก็จะมีมัคคุเทศก์ตัวน้อยคอยบรรยายประวัติความเป็นมาของตลาด คลองแสนแสบ วิถีชีวิตของชาวบ้านริมสองฝั่งคลอง ซึ่งก็สามารถสอบถามราคาและรอบเรือกันได้ที่ตลาดทางฝั่งวัดบำเพ็ญเหนือ
ใครที่มีวันหยุด หรือวันเสาร์อาทิตย์ว่างๆ ก็ชวนกันมาเดินเล่นที่ตลาดน้ำขวัญเรียมกันดีกว่า มารับอากาศสบายๆ แบบธรรมชาติริมคลอง ที่แม้จะไม่ได้บรรยากาศในยุคขวัญเรียมเมื่อหลายสิบปีก่อนอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังพอมีกลิ่นอายให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงเมื่อครั้งวันวาน ได้รับความสงบแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ กลางเมืองใหญ่ที่วุ่นวาย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ตลาดน้ำขวัญเรียม ตั้งอยู่ระหว่างซอยเสรีไทย 60 และซอยรามคำแหง 187 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. สามารถเดินทางมาตลาดได้สองเส้นทาง คือ จากถนนสุขาภิบาล 2 (เสรีไทย) ให้เลี้ยวเข้าซอยเสรีไทย 60 เข้ามาที่วัดบำเพ็ญเหนือ หรือมาจากถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) ให้เลี้ยวเข้าซอยรามคำแหง 187 เข้ามายังวัดบางเพ็งใต้ ตลาดน้ำขวัญเรียมเปิดบริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00-20.00 น. (กิจกรรมตักบาตรพระทางน้ำ จัดขึ้นในเวลา 07.30 น.) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-7701-2878 www.kwan-riamfloatingmarket.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com