xs
xsm
sm
md
lg

“Ramen Suteiji” โรงละครสุดยอดราเม็ง รสชาติโดดเด่นโดนใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศภายในร้าน “Ramen Suteiji”
“ตระเวนกิน” สบโอกาสเหมาะในวันว่างๆ มาเดินชอปปิ้งลั้นลาที่ย่านสยามสแควร์ และหลังจากที่เดินชอปปิ้งจนเมื่อย เหนื่อย และหิวมากมาย ก็เกิดอยากกินอาหารญี่ปุ่นอย่างราเม็ง(หรือราเมน)ขึ้นมา เลยนึกขึ้นมาได้ว่ามีเพื่อนเคยแนะนำเอาไว้ว่าที่สยามสแควร์ มีร้านราเม็งน้องใหม่ เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน แต่ว่ามีความน่าสนใจทั้งบรรยากาศร้านและรสชาติราเม็งที่เด็ดโดนใจสไตล์ราเม็งญี่ปุ่นแท้ๆ

เราจึงรีบตรงดิ่งหอบหิ้วความหิวไปยังร้านราเม็ง(หรือราเมน)ที่ว่า คือ “Ramen Suteiji” ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 6 ซึ่งที่ร้านนี้มีคอนเซ็ปต์ร้านที่น่ารักและโดดเด่นแปลกกว่าร้านราเม็งร้านอื่น คือ “โรงละครหรือเวทีแห่งสุดยอดราเม็ง” เพราะเพียงแค่เดินเข้ามาในร้านก็จะได้เห็นครัวเปิดที่ตั้งอยู่กลางร้านเป็นเสมือนเวที มีเชฟปรุงราเม็งให้ดูแบบเพลิดเพลิน และยังมีโต๊ะให้นั่งชมแบบใกล้ชิด หรือจะเลือกนั่งโต๊ะในมุมอื่นๆ ก็มีให้เลือกนั่งได้แบบสบายๆ
บรรยากาศครัวเปิดของร้านราเม็ง ซุเทจิ
หากใครเป็นคอราเม็งที่ชื่นชอบน้ำซุปแบบกระดูกหมูเป็นต้องถูกใจ เพราะว่าที่นี่นำเสนอแต่ราเม็งน้ำซุปกระดูกหมู หรือทงคตซึ ราเม็ง อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าของร้านได้ไปร่ำเรียนการทำราเม็งมาจากญี่ปุ่นโดยตรงกับ มร. โอโบะ ทากาฮีสะ (Mr. Obo Takahisa)เป็นราเม็ง มาสเตอร์ชื่อดัง แห่งโมฮีกังราเม็ง ซึ่งเป็นร้านราเม็งยอดนิยมและโดดเด่นในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะด้วยเอกลักษณ์ของรสชาติและสไตล์ ทำให้ได้สุดยอดฮากาตะ ราเม็ง หรือทงคตซึ ราเม็ง ที่ถือว่าเป็นวัฒนธรรมอาหารประจำท้องถิ่นของเกาะคิวชู และเป็นราเม็งที่ทำได้ยากที่สุด ต้องอาศัยศิลปะ ความชำนาญ และความอดทนในการปรุง การเตรียมน้ำซุปกระดูกหมู จนได้น้ำซุปที่มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมแบบโฮมเมด และเต็มไปด้วยภูมิปัญญาโบราณแบบญี่ปุ่น

สำหรับเส้นราเม็งของที่นี่ก็มีความพิเศษไม่แพ้กัน คือ เป็นเส้นราเม็งสูตรจากญี่ปุ่นแท้ๆ วัตถุดิบสำคัญๆ ในการปรุงต้องนำเข้ามาจากญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เส้นราเม็งของที่นี่จะมีความพิเศษอยู่ที่เป็นเส้นเล็กเรียวตรง ลวกสดแล้วยังสามารถเลือกสั่งความนุ่มของเส้นรามเม็งได้ว่าจะให้ลวกเส้นแบบใดมี 3 แบบให้เลือก คือ เส้นหนึบ เส้นปานกลาง และเส้นนุ่ม

เรียกได้ว่าราเม็งของที่นี่จะมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นอยู่ 3 อย่างด้วยกันคือ 1. น้ำซุปกระดูกหมูจะเป็นสีน้ำนม 2. เส้นราเม็งเป็นเส้นเล็กเรียวตรง และ 3. มีซอสแดงเป็นท็อปปิ้งซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของราเม็งทางใต้ และราเม็งของที่ร้านนี้ก็จะสดแบบชามต่อชาม สามารถเลือกท็อปปิ้งได้ตามใจชอบว่าจะใส่อะไรหรือไม่เอาอะไรบ้าง
Suteiji Special
ว่าแล้วก็มาชิมราเม็งชามเด็ดของที่นี่กันดีกว่า ชามแรกที่เลือกสั่งมาเป็นเมนูชูโรงของที่นี่ คือ Suteiji Special (230 บาท+) เป็นราเม็งทงคตซึที่ทางร้านต้มเคี่ยวน้ำซุปกระดูกหมูนานถึง 8 ชม. และปรุงรสชาติตามสูตรเฉพาะ ราดมาบนเส้นราเม็งที่ลวกสด และใส่เครื่องหลายอย่างมีทั้งหมูชาชูที่ทางร้านทำเองคัดเลือกเนื้อหมูส่วนพิเศษมาหมักกับโชยุและมัดให้เป็นก้อนกลมๆ มัดนานกว่า 2 วัน กว่าจะได้มาเป็นหมูชาชูแผ่นกลมใหญ่ แล้วยังใส่ ไข่มะตูม สาหร่าย เห็ดหูหนู และมีซอสพริกแดงสูตรพิเศษเป็นพริกสไตล์ญี่ปุ่นใส่มาให้ด้วย มีผักดองเป็นเครื่องเคียง ชิมแล้วขอยกนิ้วให้ในความอร่อยของน้ำซุปกระดูกหมูสีขาวเหมือนน้ำนม รสชาติหอมนุ่มหวานละมุนกลมกล่อม เส้นราเม็งเคี้ยวนุ่มเหนียว ส่วนหมูชาชูเนื้อนุ่มรสชาติดี และหากคลุกเคล้าซอสพริกให้เข้ากับน้ำซุปจะได้รสชาติความเผ็ดนิดๆ เพิ่มรสชาติความอร่อยไปอีกแบบ
Chashumen
ชามต่อมาสั่ง Chashumen (245 บาท+) เป็นราเม็งพิเศษหน้าชาชู ชามนี้ใครชอบกินหมูชาชูจะได้เต็มอิ่มกับชาชูที่จัดวางเรียงมารอบชามเหมือนกับดอกไม้บาน เรียกว่าอิ่มอร่อยกับหมูชาชูที่เคี้ยวนิ่มนุ่มปากได้รสชาติเครื่องหมักถูกปากดี
Yaki Kara-Kaedama
จากนั้นมาชิม Yaki Kara-Kaedama (145 บาท+) เป็นราเม็งกระทะร้อนที่เก๋ไก๋แปลกใหม่ดี มีให้กินเฉพาะที่นี่เท่านั้น ทางร้านนำเส้นราเม็งที่ลวกแล้วมาทอดบนกระทะร้อน และมีหมูชาชูที่เอาไปสับและเคี่ยวกับซอสแดงใส่มาด้วย โรยหน้าด้วยต้นหอมและงา เสิร์ฟในกระทะร้อน เพิ่มรสชาติจัดจ้านด้วยหมูสับผัดซอสแดง และเวลาเสิร์ฟจะมีพนักงานนำน้ำซุปกระดูกหมูมาราดบนราเม็งกระทะร้อนให้ 6 ช้อน และพอครบ 6 ช้อนจะพูดว่าโระกุโร กินแล้วก็ถูกปากไปอีกแบบกับเส้นราเม็งที่กรอบนิดๆ และยังคงความนุ่ม หอมกลิ่นงาและรสชาติเข้ากันดีกับหมูชาชูที่ปรุงรสมาออกเผ็ดนิดๆ
Tonkotsu Mashi
ต่อด้วยลิ้มรสเมนูนี้ Tonkotsu Mashi (160 บาท+) เป็นข้าวผัดกรุบกรอบสูตรลับพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่ ช้ข้าวญี่ปุ่นหุงด้วยซุปกระดูกหมู ใส่หมูชาชู และใส่ไก่ไข่ดิบ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและงา เสิร์ฟมาแบบกระทะร้อน เวลากินต้องคลุกไข่ให้เข้ากับข้าว ลิ้มรสข้าวผัดรสชาติดีข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มและกรุบกรอบปาก
Gyoza Mayo
และนอกจากราเม็งยังมีเมนูกินเล่นที่ชวนกินอีก Gyoza Mayo (110 บาท+) เป็นเกี๊ยวซ่าแป้งบางไส้หมูที่นึ่งด้วยน้ำซุปกระดูกหมู และนำมาทอดให้ด้านหนึ่งกรอบ อีกด้านนุ่ม แล้วราดด้วยซอสยากิโซบะ มายองเนส ปลาแห้งและต้มหอม กินแล้วโดนใจกับเกี๊ยวซ่าที่กรอบนุ่มในชิ้นเดียวไส้หมูรสดี เข้ากับซอสยากิโซบะและมานองเนสเป็นเกี๊ยวซ่าทรงเครื่องที่ถูกใจปากมากๆ
Annin Doufu
ปิดท้ายล้างปากด้วยของหวาน Annin Doufu (60 บาท+) เป็นพุดดิ้งอัลมอนด์เนื้อเนียนนุ่ม และราดด้วยน้ำเลมอนไซรัปหอมละมุน กินแล้วพุดดิ้งหอมเนื้อเนียนนุ่มเย็นสดชื่นปากดีจริงเชียว

แต่นอกจากเมนูเด่นๆ ที่นำเสนอมานี้แล้ว ยังมีเมนูที่ชวนลิ้มรสอีกมากมาย อาทิ Zaru Ramen (140 บาท++) Suteiji-Kara (95 บาท+) Chashu Don (120 บาท+) Yaki Kaedama (120 บาท+) ฯลฯ เรียกว่าหากใครที่ชื่นชอบกินราเม็งน้ำซุปกระดูกหมูมาที่ร้าน “Ramen Suteiji” แล้วไม่ผิดหวัง เพราะที่นี่เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักทงคตซึ ราเม็ง แบบญี่ปุ่นขนานแท้ก็ว่าได้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“Ramen Suteiji” (ราเม็ง ซุเทจิ) ตั้งอยู่ที่ สยามสแควร์ซอย 6 ชั้น 2 ถ.พระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ การเดินทางนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยามสแควร์ แล้วเดินมาที่สยามสแควร์ซ. 6 เห็นตึกโรงเรียนดนตรีสยามสแควร์ ก็จะเห็นร้านราเม็ง ซุเทจิ อยู่ฝั่งตรงข้าม ร้านอยู่ชั้น 2 จุดสังเกตจะมีโคมญี่ปุ่นสีแดงและป้ายร้านให้เห็น เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. โทร. 0-2658-0588 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/RamenSuteiji และหากมากินอาหารที่ร้านแล้วบอกว่าอ่านมาจากเว็บไซด์ผู้จัดการ ทางร้านมอบส่วนลดค่าอาหารให้ 10% ตั้งแต่วันนี้ - 31 ม.ค.นี้
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง ร้าน “Ramen Suteiji”(ราเม็ง ซุเทจิ)
 
 
คลิก!! ชมคลิปร้าน “Ramen Suteiji” ได้ที่นี่

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น