ช่วงที่กระแสซีรีส์เกาหลีกำลังโหมกระหน่ำเข้ามาในเมืองไทย นักท่องเที่ยวชาวไทยก็แห่กันบินลัดฟ้าไปสู่เกาหลีเพื่อตามกลิ่นพระ-นาง ในซีรีส์ที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นผลพลอยได้ หรือจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก แต่ก็ทำให้การท่องเที่ยวเกาหลีในหมู่ชาวไทย (และประเทศอื่นๆ) พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะใครๆ ก็อยากไปเห็นสถานที่จริงที่ใช้ในการถ่ายทำกันทั้งนั้น
มาถึงหนังร่วมทุนไทย-ลาว อย่าง สบายดีหลวงพระบาง และสบายดี 2 ไม่มีคำตอบจาก...ปากเซ ที่ไปถ่ายทำในประเทศลาว ทั้งในเวียงจันทน์ หลวงพระบาง และจำปาสัก ก็ทำให้หลายคนอยากไปสัมผัสความเป็นธรรมชาติของบ้านพี่เมืองน้องมากขึ้นเช่นกัน
ส่วนละครไทยหลายๆ เรื่อง ก็ใช้สถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ แห่งในเมืองไทย เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ บ้างก็เป็นโลเคชั่นเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ในเรื่องเพียงไม่กี่นาที บ้างก็ใช้เป็นโลเคชั่นหลักในการถ่ายทำ ซึ่งความสวยงามของสถานที่ต่างๆ ในเมืองไทยก็ไม่ได้น้อยหน้าเมืองอื่นๆ เลย
อย่างเช่นในภาคเหนือของไทย ที่ขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งฤดูหนาวที่หนาวเย็นชื่นใจ ฤดูฝนชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ส่วนฤดูร้อนก็ยังสวยงามน่าหลงใหล จนกองถ่ายหนัง-ละครหลายๆ เรื่องนิยมมาใช้โลเคชั่นในภาคนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำ
นายสุภกิตติ์ พลจันทร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า จากการถ่ายทำของละครและภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ที่ได้ออกอากาศไป ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นจากเดิม อย่างเช่นบ้านวงศ์บุรี เป็นบ้านที่เด่นดังในเรื่องของสถาปัตยกรรม ในส่วนของบ้านก็สามารถใช้การได้ทุกอย่าง ของในบ้านล้วนแต่เป็นของที่ใช้จริง แม้กระทั่งเตียงนอน ซึ่งในปีนี้เป็นสำคัญของภาคเหนือ คือเป็นปีในหลวงของเรา และโครงการหลวงในภาคเหนือก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร ผลไม้ หรือผักต่างๆ หากมาภาคเหนือก็สามารถ กิน เที่ยว พร้อมทั้งหาของฝากได้ครบในที่ๆเดียว
ล่าสุด ละครเรื่อง “ธรณีนี่นี้ใครครอง” ที่เพิ่งจะจบลงไป นอกจากจะใช้จุดขายที่คู่พระ-นาง ณเดชน์-ญาญ่า ก็ยังใช้จุดขายในเรื่องโลเคชั่นที่งดงาม ทั้งโลเคชั่นหลักที่สวนส้มธนาธร จ.เชียงใหม่ ไร่กะหล่ำปลี ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ แปลงปลูกสตรอเบอร์รี่ ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ก็ยังมีที่เชียงราย นครนายก เขาใหญ่ ศาลายา เป็นต้น เรียกว่าเป็นละครอีกเรื่องที่ท่องเที่ยวเกือบทั่วประเทศไทยเลยทีเดียว
แม้แต่ละครเรื่อง “รอยไหม” ที่ลาจอไปได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ก็ยังส่งผลให้โลเคชั่นต่างๆ ที่ใช้ในการถ่ายทำกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งใหม่ที่ใครๆ ก็อยากไปเยือน อาทิ บ้านวงศ์บุรี คุ้มเจ้าหลวง จ.แพร่ วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง บ้านม่อนฝ้าย และ ร้านบ้านสวน สันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่
นายสหยศ วงศ์บุรี ทายาทรุ่นที่ 5 ผู้ดูแลบ้านวงศ์บุรีกล่าวว่า บ้านวงศ์บุรีสร้างมาเป็นระยะเวลากว่า 115 ปีแล้ว ออกแบบโดยช่างชาวจีน เป็นสไตล์ผสมผสานระหว่างยุโรปและล้านนา ปัจจุบันตัวบ้านเป็นโครงสร้างเดิมทั้งหมด แต่มีการปรับปรุงบ้างเนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยมาโดยตลอด และเริ่มเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อปี พ.ศ.2541 แต่หลังจากนั้น 3 ปีก็ปิดตัวลงเพราะไม่มีข้อมูลและประสบการณ์ในการเปิดพิพิธภัณฑ์ และกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งในช่วงต้นปี พ.ศ.2549 โดยมีชมรมคนรักเมืองแพร่เข้ามาช่วยดูแลพิพิธภัณฑ์ในช่วงที่เปิดใหม่ และหลังจากละครเรื่องรอยไหมออกอากาศไป ก็กลายเป็นกระแสให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวและให้ความสนใจจำนวนมาก
สถานที่ประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถานต่างๆ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่นิยมไปถ่ายทำหนังละครเรื่องต่างๆ อย่างเช่น อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เป็นโลเคชั่นที่ใช้ในการถ่ายทำละครเรื่อง “ขุนเดช” และจากกระแสของละคร จึงทำให้มีการจัดกิจกรรมตามรอยละครขุนเดช โดยคัดเลือกแฟนละครผู้โชคดีเดินทางไปยัง จ.สุโขทัย พร้อมกับนักแสดงนำในเรื่อง ไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์พร้อมกับการตามรอยละครในสถานที่ถ่ายทำจริง ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับแฟนละครแล้ว ก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในแหล่งโบราณสถานของไทย
นอกจากตามยอดเขายอดดอยที่ไกลๆ แล้ว แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของยุคนี้ที่ไม่ไกลจากเมืองกรุงมากนักก็เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่ละครหลายเรื่องมักจะเลือกเข้าไปถ่ายทำ อย่างเช่นในละแวกเขาใหญ่ สระบุรี วังน้ำเขียว ก็เป็นโลเคชั่นหลักของละคร “สี่หัวใจแห่งขุนเขา” ทั้งสี่เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น รีสอร์ทชาโต เดอ เขาใหญ่ อสค. มวกเหล็ก (ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก) วิลเลจฟาร์ม ปาลิโอ เป็นต้น
ส่วนวิวทะเลไทยก็ไม่น้อยหน้า มันจะไปปรากฏอยู่ในฉากของละครเรื่องต่างๆ อย่างในเรื่อง “เกมร้ายเกมรัก” ที่คู่ขวัญ ณเดชน์-ญาญ่า นำแสดงนั้น โลเคชั่นหลักในช่วงเริ่มต้นก็จะเป็นท้องทะเลไทย ซึ่งแม้ว่าจะอยู่ในฉากเดียวกันแต่ก็ต้องไปถ่ายทำถึง 3 แห่งด้วยกัน คือ เกาะห้อง จ.กระบี่ หาดนมสาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ และปารีฮัท รีสอร์ท เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เมื่อผ่านการตัดต่อและออกสู่สายตาประชาชน ก็ทำให้ดูเหมือนกับว่า 3 สถานที่นี้อยู่บนเกาะเดียวกัน
นอกจากสถานที่ต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ในหนังและละครอีกหลายๆ เรื่องก็ใช้แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ ซึ่งก็สวยงามไม่น้อยหน้ากันเลย นอกจากจะได้ภาพออกมาสวยงาม ชวนให้ติดตามชมกันแล้ว ก็ยังช่วยส่งเสริมสถานที่นั้นๆ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และมีคนจำนวนมากมายที่อยากไปเดินตามรอยหนังละครที่ชื่นชอบ นับว่าหนัง-ละครไทยก็เป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในยุคนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
โลเคชั่นต่างๆ ที่ใช้ในการถ่ายทำละคร และกลายมาเป็นกระแสที่คนแห่ไปเที่ยว จนกลายเป็นยุคเฟื่องฟูของการเที่ยวตามรอยละครทั้ง 5 เรื่อง อาทิ
“ธรณีนี่นี้ใครครอง” : ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์, สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่, บ้านแม่กลางหลวง จ.เชียงใหม่, ดอยปุย จ.เชียงใหม่, อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
“รอยไหม” : บ้านวงศ์บุรี จ.แพร่, คุ้มเจ้าหลวง จ.แพร่, วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง, บ้านม่อนฝ้าย จ.เชียงใหม่, ร้านบ้านสวน สันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่, วัดเจ็ดยอด จ.เชียงใหม่, วัดต้นเกว๋น จ.เชียงใหม่, วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน, น้ำตกไทรโยคใหญ่ จ.กาญจนบุรี
“ขุนเดช” : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
“สี่หัวใจแห่งขุนเขา” : รีสอร์ทชาโต เดอ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา, อสค. มวกเหล็ก (ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก) จ.สระบุรี, วิลเลจฟาร์ม จ.นครราชสีมา, ปาลิโอ จ.นครราชสีมา, ไร่ทองสมบูรณ์ จ.นครราชสีมา, วิลล่า มาร็อค จ.ประจวบคีรีขันธ์
“เกมร้ายเกมรัก” : เกาะสีชัง จ.ชลบุรี, เกาะห้อง จ.กระบี่, หาดนมสาว จ.ประจวบคีรีขันธ์, น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี, เกาะห้อง จ.ตรัง
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com