โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)

หาดริ้นนอก เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี คืนวันเดือนเพ็ญ ปลายเดือนเมษายน 55
ค่ำคืนนี้ ถนนทุกสายบนเกาะพะงันล้วนต่างมุ่งหน้าสู่หาดริ้นนอกเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน “ฟูลมูนปาร์ตี้” งานปาร์ตี้ริมชายหาดที่มีชื่อเสียงก้องโลก
1...
ฟูลมูนปาร์ตี้เป็นวัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามาโด่งดังในเมืองไทยเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เดิมผู้เข้าร่วมงานกว่า 95 % เป็นชาวต่างชาติ(ฝรั่งเป็นหลัก) แต่ปัจจุบันเริ่มเป็นที่สนใจของคนไทยมากขึ้น โดยวันนี้มีคนไทยเข้าร่วมงานฟูลมูนเกาะพะงันเฉลี่ยประมาณ 10%
“เซกัล”หนุ่มจากอิสราเอล เล่าว่า ฟูลมูนปาร์ตี้ เกาะพะงัน เป็นงานดังของไทยที่เขารู้จัก ในปฏิทินท่องเที่ยวของบ้านเขามีทำเป็นโปรแกรมไว้เลย
“ถ้ามาเมืองไทยต้องมาถนนข้าวสารและเที่ยวงานฟูลมูน”เซกัล บอกกับผม
ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่าง “ส้ม” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มจากกรุงเทพฯที่มางานฟูลมูนกับกลุ่มเพื่อนฝูง บอกกับผมว่า ได้ยินชื่อเสียงงานฟูลมูนเกาะพงันมานานแล้ว คิดว่าต้องลองมาสัมผัสสักครั้ง
“งานมันเหมือนกับปาร์ตี้ของฝรั่งในหนัง(ฮอลลีวู้ด) แต่ที่นี่คนมันเยอะมาก เหมือนฝรั่งมาปลดปล่อยกัน ส่วนเราคนไทยมาเพื่ออยากรู้”
ส้มว่าอย่างนั้น พร้อมยังบอกกับผมอีกว่า การแต่งตัวและพฤติกรรมของผู้หญิงฝรั่งหลายคนที่นี่เธอเห็นแล้วถึงกับอายแทน จึงอยากฝากบอกสาวไทยว่าถ้าหากมางานฟูลมูน อย่าดื่มเยอะ ไม่ควรแต่งตัวโป๊ตามฝรั่ง อย่ากลับดึก และควรมากับเพื่อนฝูงหรือพาแฟนมาด้วย
“วัฒนธรรมฝรั่งนี่เขาทำอะไรเปิดเผย แบบไม่อาย ไม่แคร์สื่อกันเลย คนตั้งเยอะแยะ เดินผ่านไปผ่านมา แต่กล้ามายืนกอดจูบกันหน้าเฉย ยิ่งผู้หญิงฝรั่งบางคนนี่เห็นแล้วรับไม่ได้ เพราะเธอเมาแล้วเล่นยืนฉี่กันริมชายหาดนั่นแหละ” ส้มบอกกับผม

ด้าน 2 หนุ่ม ต้นกับอาร์ตที่เดินหิ้วเหล้าถังมาบอกกับผมว่า บรรยากาศที่นี่มันเหมือนเธคกลางแจ้ง เธคริมทะเล ที่คนมาก็เมามันกันเป็นหลัก แต่ก็ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศและสนุกไปอีกแบบ
แต่กระนั้นทั้งต้นและอาร์ตก็ยังไม่วายถูกฝรั่งบางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกไม้ป่าเดียวกันที่มีจุดมุ่งหมายมาขุดทอง ซึ่งทั้งคู่ได้เล่าให้ผมฟังแบบขำๆเพราะเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันเป็นเรื่องปกติของยุคสมัยไปเสียแล้ว
นอกจากพวกนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากมาสนุก อยากมาสัมผัสบรรยากาศแล้ว ก็มีพวกคนไทยทั้งชายหญิงแอบแฝงปะปนเข้ามาขายบริการ คนพวกนี้สังเกตไม่ยากและส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมายุ่งกับนักท่องเที่ยวชาวไทย
สำหรับบรรยากาศงานฟูลมูนปาร์ตี้ หลักๆแล้วคือการดื่มและแด๊นซ์ โดยส่วนใหญ่มาอาศัยที่นี่ปลดปล่อยกันอย่างสุดเหวี่ยง ทำให้ภาพชินตาของฟูลมูนที่นี่มีทั้ง ความมัน เมา และมั่ว ภาพการกอดจูบ ลูก คลำ การกอดรัดฟัดเหวี่ยง และการเม้าท์ทูเม้าท์ที่ไม่ต้องรอให้ตกน้ำก็สามารถทำได้แบบไม่อายคนรอบข้างที่เดินกันขวักไขว่นั้นถือเป็นเรื่องปกติสำหรับที่นี่ ซึ่งแม้บรรยากาศและวิถีมันจะดูไม่เหมือนเมืองไทย
แต่อันที่จริงมันคือเมืองไทย

2...
หาดริ้นนอก ยามอาทิตย์ทอดเงาตั้งฉากกับศีรษะ หลังค่ำคืนแห่งฟูลมูนปาร์ตี้ผ่านพ้น
บรรยากาศของหาดแห่งนี้ซึ่งเมื่อคนที่แล้วคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนนับหมื่นราวกับฝูงปลวก ณ เวลานี้ ดูผิดแผกแผกต่างไปจากเดิมมาก ผู้คนหายไปกว่า 90% บรรยากาศริมชายหาดเปลี่ยนจากความ เมา มัน มั่ว ของปาร์ตี้สุดเหวี่ยงใต้แสงจันทร์ กลายเป็นชายหาดท่องเที่ยวที่น่ายล น้ำทะเลสวยใส หาดทรายละเอียดขาวเนียน มีนักท่องเที่ยวมานอนอาบแดด เล่นน้ำ รวมถึงพวกที่ยัง(เมา)ตกค้างจากเมื่อคืนมานอนพักผ่อนแบบคนหมดพลังเรี่ยวแรง บางคนดูคล้ายซากศพที่สงสัยเมื่อคืนจะหนักเหลือหลาย
บนหาดริ้นนอกนอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นทีมรักษาความสะอาดบ้านหาดริ้นกำลังเดินขะมักเขม้นไล่เก็บขยะบนชายหาดที่เมื่อคืนเหล่านักเที่ยวฟูลมูนทิ้งซากไว้ ขยะหลักๆที่พนักงานเก็บขยะบอกกับผมก็มี ขวดเหล้าเบียร์ กระป๋องเบียร์ กระป๋องเครื่องดื่ม ซองบุหรี่ ก้นบุหรี่ รวมถึงรองเท้า เสื้อผ้า ที่บางคนเมามากลืมทิ้งไว้ ซึ่งจะว่าไปพวกนี้คือผู้ปิดทองหลังพระที่พลิกฟื้นให้หาดริ้นนอกกลับมาดูสวยงามน่าเที่ยวเพียงชั่วข้ามคืน

เสร็จจากการเที่ยวหาดริ้นนอกที่บรรยากาศช่างแตกต่างกับเมื่อคืนนี้ลิบลับ ผมมาแวะชมวิวที่จุดชมวิว ระหว่างนี้มีโอกาสได้คุยกับแม่บ้านคนหนึ่งที่มาคอยให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ที่นี่ เธอบ่นให้ผมฟังว่า
“ฟูลมูนมันเป็นวัฒนธรรมบ้าๆบอๆของฝรั่ง ลูกหลานของเราเดี๋ยวนี้เริ่มเอาแบบอย่าง แต่งตัว ประพฤติตัวตามฝรั่ง เหมือนเห็นเป็นของโก้เก๋ ส่วนพวกฝรั่งเอง เมากลับจากฟูลมูนขี่มอเตอร์ไซค์อันตรายมาก คนที่นี่ขับรถราต้องคอยระวัง และเคยมีฝรั่งขับรถตกเขาไปหลายครั้งแล้ว” แม่บ้านคนนั้นระบายให้ผมฟัง
3...
วัฒนธรรมเลียนแบบมีปรากฏไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะกับคนไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นนักเลียนแบบตัวพ่อ นั่นจึงทำให้ปัจจุบันเกาะพะงันไม่ได้มีงานปาร์ตี้เฉพาะฟูลมูนเท่านั้น แต่ยังมีงานปาร์ตี้เลียนแบบอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฮาล์ฟมูน(Half Moon),ปาร์ตี้คืนเดือนมืด(Black Moon),ศิวะมูน(Shiva Moon),Bottom Moon รวมถึงงานปาร์ตี้ที่หาเรื่องกันกันอีกมากมาย กระจัดกระจายไปตามรีสอร์ท

ด้วยปาร์ตี้ที่มากมายและคุมไม่อยู่ ทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งในเกาะพะงันเริ่มระอาและรับไม่ได้ จนถึงขนาดรวมกลุ่มตั้งเป็นกลุ่มรณรงค์ไล่ปาร์ตี้ขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2550 ซึ่งผมไม่รู้ว่าตอนนี้ความคืบหน้าเป็นยังไงบ้าง แต่เท่าที่พูดคุยกับชาวบ้านหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเยอะไป นับวันพงันยิ่งจะนำวัฒนธรรมความเสื่อมของตะวันตกเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
พูดถึงฟูลมูนปาร์ตี้แล้ว ต้องถือว่ามันเป็นเหรียญ 2 ด้านทางการท่องเที่ยว ด้านหนึ่งสร้างเม็ดเงินกระจายรายได้ให้กับชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนอีกด้านหนึ่งมันทำให้เกิดวัฒนธรรมอันไม่พึงประสงค์ของชาวชุมชนขึ้นรวมถึงการก่อให้เกิดสิ่งเสื่อมๆตามมา ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด เซ็ก อาชญากรรม ซึ่งนี่ถือเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอยู่จนทุกวันนี้

สำหรับเรื่องนี้คนกลางๆที่เห็นงานฟูลมูนปาร์ตี้มาตั้งแต่ยุคแรกๆและเป็นผู้ที่อยู่ในยุทธจักรวงการธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะพะงันอย่างพี่“คำรณ สุพันทวี”ผู้บริหารแห่ง“แม่หาดเบย์รีสอร์ท” เล่าให้ผมฟังว่า ภาพของฟูลมูนวันนี้คือสีเทา เพราะมีภาพของยาเสพติดความมึนเมาที่ยังล้างไม่ได้ ภาพวัฒนธรรมตะวันตกที่ไม่ใช่วิถีไทยและดูเสื่อมในสายตาคนไทย ภาพของการขายบริการ(ทางเพศ)ที่เข้ามาแอบแฝงทั้งชายและหญิง
“งานฟูลมูนเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ด้านหนึ่งสร้างเม็ดเงิน สร้างรายได้จำนวนมากให้ชาวเกาะพงันซึ่งเรื่องของท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างครบวงจร อีกทั้งยังร่วมสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ใกล้เคียงที่มีการเชื่อมโยงกับพะงัน ไม่ว่าจะเป็น เกาะสมุย เกาะเต่า กระบี่ พีพี
“ส่วนเหรียญอีกด้านนอกจากภาพสีเทาแล้ว มันยังกระทบกับวิถีวัฒนธรรมที่ดูไม่เหมาะสมกับวิถีคนไทย และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของเยาวชน อาจเป็นตัวอย่างให้เด็กๆในพื้นที่เลียนแบบ แต่เรื่องนี้มันก็มีข้อดีอยู่ตรงที่เด็กๆได้ฝึกพูดฝึกใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งจำเป็นที่ผู้ปกครองต้องคอยสอนคอยบอกลูกหลานให้ดี”

พี่คำรณยังให้ทัศนะว่า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ คืนวันฟูลมูนเป็นวันพระที่คนไทยจะทำบุญตักบาตรกัน ดังนั้นในวันพระใหญ่(มาฆบูชา,วิสาขบูชา,อาสาฬหบูชา) ควรจะมีการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการจัดกิจกรรมพาต่างชาติไปตักบาตร ทำบุญ เวียนเทียน เพื่อให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสกับวิถีวัฒนธรรมอันดีงามของไทย(ในคืนวันพระใหญ่งานฟูลมูนจะเลื่อนไป 1 คืน เพราะห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันนั้น)
“คนที่มาเที่ยวเกาะพะงันส่วนใหญ่มุ่งไปแต่งานฟูลมูน โดยไม่สนว่าที่เกาะแห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆงามๆอยู่อีกมากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หาดท้องนายปาน หาดยาว น้ำตกธารเสด็จ(น้ำตกพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์เคยเสด็จ)หรืออ่าวแม่หาดที่มีทะเลแหวกเชื่อมกับเกาะม้าซึ่งหน้าเกาะเป็นจุดดำน้ำดูปะการังอันสวยงาม”
พี่คำรณกล่าวพร้อมกับบอกว่า ถึงวันนี้คนพะงันและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวพะงันคงต้องเปลี่ยนมุมมองของเกาะพะงันเสียใหม่ อย่ามุ่งไปที่งานฟูลมูนอย่างเดียวแต่ให้มุ่งเน้นไปที่ของดีอย่างอื่นด้วย
และนั่นก็คือมุมมองเหรียญ 2 ด้านของงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่มีทั้งบวกและลบ เป็นดังแนวทางให้ชาวพะงันกลับมาคิดทบทวนว่าจะมุ่งไปทางไหน
หรือว่าจะหาจุดสมดุลเพื่อที่จะอยู่ร่วมกับมันได้ทั้ง 2 ทาง
เพราะดวงจันทร์บนท้องฟ้ายังมีทั้งคืนเดือนสว่างและคืนเดือนมืด
หาดริ้นนอก เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี คืนวันเดือนเพ็ญ ปลายเดือนเมษายน 55
ค่ำคืนนี้ ถนนทุกสายบนเกาะพะงันล้วนต่างมุ่งหน้าสู่หาดริ้นนอกเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน “ฟูลมูนปาร์ตี้” งานปาร์ตี้ริมชายหาดที่มีชื่อเสียงก้องโลก
1...
ฟูลมูนปาร์ตี้เป็นวัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามาโด่งดังในเมืองไทยเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เดิมผู้เข้าร่วมงานกว่า 95 % เป็นชาวต่างชาติ(ฝรั่งเป็นหลัก) แต่ปัจจุบันเริ่มเป็นที่สนใจของคนไทยมากขึ้น โดยวันนี้มีคนไทยเข้าร่วมงานฟูลมูนเกาะพะงันเฉลี่ยประมาณ 10%
“เซกัล”หนุ่มจากอิสราเอล เล่าว่า ฟูลมูนปาร์ตี้ เกาะพะงัน เป็นงานดังของไทยที่เขารู้จัก ในปฏิทินท่องเที่ยวของบ้านเขามีทำเป็นโปรแกรมไว้เลย
“ถ้ามาเมืองไทยต้องมาถนนข้าวสารและเที่ยวงานฟูลมูน”เซกัล บอกกับผม
ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่าง “ส้ม” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มจากกรุงเทพฯที่มางานฟูลมูนกับกลุ่มเพื่อนฝูง บอกกับผมว่า ได้ยินชื่อเสียงงานฟูลมูนเกาะพงันมานานแล้ว คิดว่าต้องลองมาสัมผัสสักครั้ง
“งานมันเหมือนกับปาร์ตี้ของฝรั่งในหนัง(ฮอลลีวู้ด) แต่ที่นี่คนมันเยอะมาก เหมือนฝรั่งมาปลดปล่อยกัน ส่วนเราคนไทยมาเพื่ออยากรู้”
ส้มว่าอย่างนั้น พร้อมยังบอกกับผมอีกว่า การแต่งตัวและพฤติกรรมของผู้หญิงฝรั่งหลายคนที่นี่เธอเห็นแล้วถึงกับอายแทน จึงอยากฝากบอกสาวไทยว่าถ้าหากมางานฟูลมูน อย่าดื่มเยอะ ไม่ควรแต่งตัวโป๊ตามฝรั่ง อย่ากลับดึก และควรมากับเพื่อนฝูงหรือพาแฟนมาด้วย
“วัฒนธรรมฝรั่งนี่เขาทำอะไรเปิดเผย แบบไม่อาย ไม่แคร์สื่อกันเลย คนตั้งเยอะแยะ เดินผ่านไปผ่านมา แต่กล้ามายืนกอดจูบกันหน้าเฉย ยิ่งผู้หญิงฝรั่งบางคนนี่เห็นแล้วรับไม่ได้ เพราะเธอเมาแล้วเล่นยืนฉี่กันริมชายหาดนั่นแหละ” ส้มบอกกับผม
ด้าน 2 หนุ่ม ต้นกับอาร์ตที่เดินหิ้วเหล้าถังมาบอกกับผมว่า บรรยากาศที่นี่มันเหมือนเธคกลางแจ้ง เธคริมทะเล ที่คนมาก็เมามันกันเป็นหลัก แต่ก็ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศและสนุกไปอีกแบบ
แต่กระนั้นทั้งต้นและอาร์ตก็ยังไม่วายถูกฝรั่งบางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกไม้ป่าเดียวกันที่มีจุดมุ่งหมายมาขุดทอง ซึ่งทั้งคู่ได้เล่าให้ผมฟังแบบขำๆเพราะเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันเป็นเรื่องปกติของยุคสมัยไปเสียแล้ว
นอกจากพวกนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยากมาสนุก อยากมาสัมผัสบรรยากาศแล้ว ก็มีพวกคนไทยทั้งชายหญิงแอบแฝงปะปนเข้ามาขายบริการ คนพวกนี้สังเกตไม่ยากและส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมายุ่งกับนักท่องเที่ยวชาวไทย
สำหรับบรรยากาศงานฟูลมูนปาร์ตี้ หลักๆแล้วคือการดื่มและแด๊นซ์ โดยส่วนใหญ่มาอาศัยที่นี่ปลดปล่อยกันอย่างสุดเหวี่ยง ทำให้ภาพชินตาของฟูลมูนที่นี่มีทั้ง ความมัน เมา และมั่ว ภาพการกอดจูบ ลูก คลำ การกอดรัดฟัดเหวี่ยง และการเม้าท์ทูเม้าท์ที่ไม่ต้องรอให้ตกน้ำก็สามารถทำได้แบบไม่อายคนรอบข้างที่เดินกันขวักไขว่นั้นถือเป็นเรื่องปกติสำหรับที่นี่ ซึ่งแม้บรรยากาศและวิถีมันจะดูไม่เหมือนเมืองไทย
แต่อันที่จริงมันคือเมืองไทย
2...
หาดริ้นนอก ยามอาทิตย์ทอดเงาตั้งฉากกับศีรษะ หลังค่ำคืนแห่งฟูลมูนปาร์ตี้ผ่านพ้น
บรรยากาศของหาดแห่งนี้ซึ่งเมื่อคนที่แล้วคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนนับหมื่นราวกับฝูงปลวก ณ เวลานี้ ดูผิดแผกแผกต่างไปจากเดิมมาก ผู้คนหายไปกว่า 90% บรรยากาศริมชายหาดเปลี่ยนจากความ เมา มัน มั่ว ของปาร์ตี้สุดเหวี่ยงใต้แสงจันทร์ กลายเป็นชายหาดท่องเที่ยวที่น่ายล น้ำทะเลสวยใส หาดทรายละเอียดขาวเนียน มีนักท่องเที่ยวมานอนอาบแดด เล่นน้ำ รวมถึงพวกที่ยัง(เมา)ตกค้างจากเมื่อคืนมานอนพักผ่อนแบบคนหมดพลังเรี่ยวแรง บางคนดูคล้ายซากศพที่สงสัยเมื่อคืนจะหนักเหลือหลาย
บนหาดริ้นนอกนอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นทีมรักษาความสะอาดบ้านหาดริ้นกำลังเดินขะมักเขม้นไล่เก็บขยะบนชายหาดที่เมื่อคืนเหล่านักเที่ยวฟูลมูนทิ้งซากไว้ ขยะหลักๆที่พนักงานเก็บขยะบอกกับผมก็มี ขวดเหล้าเบียร์ กระป๋องเบียร์ กระป๋องเครื่องดื่ม ซองบุหรี่ ก้นบุหรี่ รวมถึงรองเท้า เสื้อผ้า ที่บางคนเมามากลืมทิ้งไว้ ซึ่งจะว่าไปพวกนี้คือผู้ปิดทองหลังพระที่พลิกฟื้นให้หาดริ้นนอกกลับมาดูสวยงามน่าเที่ยวเพียงชั่วข้ามคืน
เสร็จจากการเที่ยวหาดริ้นนอกที่บรรยากาศช่างแตกต่างกับเมื่อคืนนี้ลิบลับ ผมมาแวะชมวิวที่จุดชมวิว ระหว่างนี้มีโอกาสได้คุยกับแม่บ้านคนหนึ่งที่มาคอยให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ที่นี่ เธอบ่นให้ผมฟังว่า
“ฟูลมูนมันเป็นวัฒนธรรมบ้าๆบอๆของฝรั่ง ลูกหลานของเราเดี๋ยวนี้เริ่มเอาแบบอย่าง แต่งตัว ประพฤติตัวตามฝรั่ง เหมือนเห็นเป็นของโก้เก๋ ส่วนพวกฝรั่งเอง เมากลับจากฟูลมูนขี่มอเตอร์ไซค์อันตรายมาก คนที่นี่ขับรถราต้องคอยระวัง และเคยมีฝรั่งขับรถตกเขาไปหลายครั้งแล้ว” แม่บ้านคนนั้นระบายให้ผมฟัง
3...
วัฒนธรรมเลียนแบบมีปรากฏไปทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะกับคนไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นนักเลียนแบบตัวพ่อ นั่นจึงทำให้ปัจจุบันเกาะพะงันไม่ได้มีงานปาร์ตี้เฉพาะฟูลมูนเท่านั้น แต่ยังมีงานปาร์ตี้เลียนแบบอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฮาล์ฟมูน(Half Moon),ปาร์ตี้คืนเดือนมืด(Black Moon),ศิวะมูน(Shiva Moon),Bottom Moon รวมถึงงานปาร์ตี้ที่หาเรื่องกันกันอีกมากมาย กระจัดกระจายไปตามรีสอร์ท
ด้วยปาร์ตี้ที่มากมายและคุมไม่อยู่ ทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งในเกาะพะงันเริ่มระอาและรับไม่ได้ จนถึงขนาดรวมกลุ่มตั้งเป็นกลุ่มรณรงค์ไล่ปาร์ตี้ขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2550 ซึ่งผมไม่รู้ว่าตอนนี้ความคืบหน้าเป็นยังไงบ้าง แต่เท่าที่พูดคุยกับชาวบ้านหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเยอะไป นับวันพงันยิ่งจะนำวัฒนธรรมความเสื่อมของตะวันตกเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
พูดถึงฟูลมูนปาร์ตี้แล้ว ต้องถือว่ามันเป็นเหรียญ 2 ด้านทางการท่องเที่ยว ด้านหนึ่งสร้างเม็ดเงินกระจายรายได้ให้กับชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนอีกด้านหนึ่งมันทำให้เกิดวัฒนธรรมอันไม่พึงประสงค์ของชาวชุมชนขึ้นรวมถึงการก่อให้เกิดสิ่งเสื่อมๆตามมา ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด เซ็ก อาชญากรรม ซึ่งนี่ถือเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอยู่จนทุกวันนี้
สำหรับเรื่องนี้คนกลางๆที่เห็นงานฟูลมูนปาร์ตี้มาตั้งแต่ยุคแรกๆและเป็นผู้ที่อยู่ในยุทธจักรวงการธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะพะงันอย่างพี่“คำรณ สุพันทวี”ผู้บริหารแห่ง“แม่หาดเบย์รีสอร์ท” เล่าให้ผมฟังว่า ภาพของฟูลมูนวันนี้คือสีเทา เพราะมีภาพของยาเสพติดความมึนเมาที่ยังล้างไม่ได้ ภาพวัฒนธรรมตะวันตกที่ไม่ใช่วิถีไทยและดูเสื่อมในสายตาคนไทย ภาพของการขายบริการ(ทางเพศ)ที่เข้ามาแอบแฝงทั้งชายและหญิง
“งานฟูลมูนเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ด้านหนึ่งสร้างเม็ดเงิน สร้างรายได้จำนวนมากให้ชาวเกาะพงันซึ่งเรื่องของท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างครบวงจร อีกทั้งยังร่วมสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ใกล้เคียงที่มีการเชื่อมโยงกับพะงัน ไม่ว่าจะเป็น เกาะสมุย เกาะเต่า กระบี่ พีพี
“ส่วนเหรียญอีกด้านนอกจากภาพสีเทาแล้ว มันยังกระทบกับวิถีวัฒนธรรมที่ดูไม่เหมาะสมกับวิถีคนไทย และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของเยาวชน อาจเป็นตัวอย่างให้เด็กๆในพื้นที่เลียนแบบ แต่เรื่องนี้มันก็มีข้อดีอยู่ตรงที่เด็กๆได้ฝึกพูดฝึกใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งจำเป็นที่ผู้ปกครองต้องคอยสอนคอยบอกลูกหลานให้ดี”
พี่คำรณยังให้ทัศนะว่า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ คืนวันฟูลมูนเป็นวันพระที่คนไทยจะทำบุญตักบาตรกัน ดังนั้นในวันพระใหญ่(มาฆบูชา,วิสาขบูชา,อาสาฬหบูชา) ควรจะมีการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการจัดกิจกรรมพาต่างชาติไปตักบาตร ทำบุญ เวียนเทียน เพื่อให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสกับวิถีวัฒนธรรมอันดีงามของไทย(ในคืนวันพระใหญ่งานฟูลมูนจะเลื่อนไป 1 คืน เพราะห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันนั้น)
“คนที่มาเที่ยวเกาะพะงันส่วนใหญ่มุ่งไปแต่งานฟูลมูน โดยไม่สนว่าที่เกาะแห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆงามๆอยู่อีกมากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หาดท้องนายปาน หาดยาว น้ำตกธารเสด็จ(น้ำตกพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์เคยเสด็จ)หรืออ่าวแม่หาดที่มีทะเลแหวกเชื่อมกับเกาะม้าซึ่งหน้าเกาะเป็นจุดดำน้ำดูปะการังอันสวยงาม”
พี่คำรณกล่าวพร้อมกับบอกว่า ถึงวันนี้คนพะงันและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวพะงันคงต้องเปลี่ยนมุมมองของเกาะพะงันเสียใหม่ อย่ามุ่งไปที่งานฟูลมูนอย่างเดียวแต่ให้มุ่งเน้นไปที่ของดีอย่างอื่นด้วย
และนั่นก็คือมุมมองเหรียญ 2 ด้านของงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่มีทั้งบวกและลบ เป็นดังแนวทางให้ชาวพะงันกลับมาคิดทบทวนว่าจะมุ่งไปทางไหน
หรือว่าจะหาจุดสมดุลเพื่อที่จะอยู่ร่วมกับมันได้ทั้ง 2 ทาง
เพราะดวงจันทร์บนท้องฟ้ายังมีทั้งคืนเดือนสว่างและคืนเดือนมืด