โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
จังหวัดรอบกรุงของเราอย่างนครปฐม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายให้ได้ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ หรรษาเพลิดเพลินไปกับครอบครัว หรือแม้จะนิยมฉายเดี่ยวก็ไม่ไกลจนเกินไป ใครที่ชื่นชอบรถเก่า รถหาดูยาก ก็ตามฉันมาได้เลย เพราะในครั้งนี้สถานที่ที่ฉันจะพาไปเป็นแหล่งที่มีรถหลายแบบหลากรุ่น จอดเรียงโชว์โฉมกันใน “พิพิธภัณฑ์รถ” หรือ “เจษฎา เทคนิค มิวเซียม”
“เจษฎา เทคนิค มิวเซียม” ก่อตั้งโดย คุณเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ นักธุรกิจชาวไทย ในปีพ.ศ. 2549 ซึ่งเกิดแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปท่องเที่ยวดูงานด้านเครื่องยนต์กลไกในทวีปยุโรปและอเมริกา ได้พบเห็นพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่รวบรวมรถยนต์หายากไว้มากมาย และจัดแสดงได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
คุณเจษฎา จึงเริ่มสะสมรถยนต์หายากขึ้นบ้าง โดยเริ่มจากรถ Messerschmitt KR-200 ปี 1958 รถการ์ตูน (Bubble car) รถคันแรกที่นำเข้ามาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ยิ่งสะสม ยิ่งค้นคว้า ยิ่งตระหนักว่าวิวัฒนาการยานยนต์มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดความสุข ความสะดวกสบายแก่มวลมนุษย์ ยนตกรรมทุกชิ้นจะแฝงไว้ซึ่งปรัชญาแนวความคิด ที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณของผู้ออกแบบและผู้ผลิตสามารถใช้เป็นบทเรียนแก่คนรุ่นหลังได้อย่างล้ำค่า
จากการเริ่มเก็บหอมรอมริบสะสมรถทีละคันสองคัน จนกระทั่งมียานยนต์ที่สะสมไว้กว่า 500 คัน ตั้งแต่ยานยนต์ขนาดใหญ่ เช่น เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ รถถัง รถโดยสาร รถเก๋ง รถการ์ตูน จักรยานยนต์ รถสามล้อและรถจักรยานจากเกือบทุกชาติในโลก ยนตกรรมแต่ละชิ้นได้ให้บทเรียนและความรู้แก่ผู้สะสมเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ทำให้ฉันรู้เมื่อมาถึงยังพิพิธภัณฑ์ก็คือรถ 2 ชั้น คันใหญ่ หรือ Double-decker bus ที่จอดแสดงอยู่ด้านหน้าทางเข้า และเครื่องบินที่อยู่ในบริเวณลานด้านหน้า เมื่อเข้าไปถึงภายในพิพิธภัณฑ์ ฉันถึงกับเบิ่งตากว้างเพื่อกวาดตาดูบรรดารถต่างๆมากมายนับร้อยคัน
เมื่อมาถึงแล้วรถคันแรกที่ฉันจะไปชมก็ต้องเป็น “รถ Messerschmitt KR-200” ปี 1958 ขนาด 10.2 แรงม้า รถคันแรกของพิพิธภัณฑ์ ที่มีสีน้ำตาล นั่งขับได้ 1 คนและนั่งข้างหลังได้อีก 1 คน นำเข้ามาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ด้วยรูปทรงที่แปลก บางคนอาจจะไม่คิดว่ามันเป็นรถยนต์
นั้นเพราะบริษัทที่ผลิตรถคันนี้ในอดีตผลิตเครื่องบินรบ แต่เนื่องด้วยสงครามได้สิ้นสุดลงแล้ว บริษัทจึงหันมาผลิตรถยนต์ แต่ด้วยความถนัดในการผลิตเครื่องบินรูปทรงหรือภายในรถ เช่น เบาะนั่ง หรือแฮนด์บังคับ ยังมีส่วนคล้ายกับเครื่องบินอยู่บ้าง และภาพของรถคันนี้ยังปรากฏอยู่ในโลโก้พิพิธภัณฑ์อีกด้วย
จากนั้น รถที่สีชมพู-ขาวหวานแหววดึงดูดใจก็คือ “รถ Nash metropolitan” ปี 1954 จากประเทศอเมริกา เจ้าหน้าที่บอกฉันว่า คนที่นี่มักจะติดปากเรียกรถคันนี้ว่า “รถแต่งงาน” เนื่องจากสีสันสดใส โดยชื่อรถแต่งงานนั้น เริ่มจากหลังจากที่ได้นำรถคันนี้มาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ได้มีคู่บ่าวสาวขอยืมรถ Nash คันนี้ไปใช้ร่วมพิธีแต่งงานด้วย หลังจากนั้นจึงพูดกันปากต่อปาก และมีคู่บาวสาว อีกหลายคู่มาติดต่อถ่ายภาพแต่งงานคู่กับรถคันนี้จนถึงปัจจุบัน
อีกหนึ่งไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์รถแห่งนี้คือ “รถการ์ตูน BMW Isetta 250” (Bubble Car) ผลิตที่ประเทศเยอรมนี ออกแบบโดยบริษัทผลิตตู้เย็น ยี่ห้อ ISO ในประเทศอิตาลี ให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมีความคล่องตัวสูง โดยมีแนวความคิดมาจากรูปทรงของไข่
ด้วยแนวคิดแบบแหวกแนวแบบนี้ ประตูรถที่เปิดแบบปกติจึงย้ายมาเปิดด้านหน้าคล้ายกับประตูของตู้เย็น เพื่อความสะดวกรวมทั้งยังประหยัดการทำประตูไปถึงสองบาน โดย Bubble Car นี้ได้จัดแสดงไว้จำนวนมากมายอย่างที่ไม่อาจหาดูได้จากที่อื่น เด็กๆเยาวชนที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สามารถที่จะสัมผัสรถในจินตนาการได้ด้วยมือของตนเอง
ส่วนรถอีกคันที่น่าสนใจก็คือ “DMC Delorean” ปี 1982 หลายคนเห็นแล้วอาจจะคุ้นตาเจ้ารถคันนี้ เพราะเคยโด่งดังในภาพยนตร์เรื่อง back to the future ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงในอดีต เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของรถคันนี้คือ ตัวรถทั้งคันทำจากแสตนแลส และเปิดประตูคล้ายปีกนก อีกทั้งยังรวบรวมของดีและวิศวกรที่มีชื่อเสียงจาก 15 ประเทศ ในการออกแบบ
นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์รถแห่งนี้ยังมีรถอีกหลากหลายแบบ เช่น Austin 7 Chummy ค.ศ.1929 จากประเทศอังกฤษ และเป็นรถที่มีใช้ในไทยสมัยยุครัชกาลที่ 6, BMW 501 ผลิตที่ประเทศเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1955 เป็นรถซาลูนระดับหรูต้นกำเนิดของ BMW series 5 ที่มีรถหรูรุ่นดังๆมากมาย, Vespa400 ตัวแทนรถ microcar จากบริษัท Piaggioในบ้านเราจะรู้จักรถ vespa ในแบบที่เป็นรถ scooter เท่านั้น โดยผลิตขึ้นมาในช่วงที่ตลาดรถยนต์ขนาดเล็กกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในอิตาลี
พวกมอเตอร์ไซด์ก็มีมากมาย เช่น VESPA Scooter ที่เป็นตำนานของโลก จากประเทศอิตาลีที่มีการผลิตมายาวนานถึง 60 ปี นอกจากนี้ยังมี รถคลาสสิกอีกหลายรุ่น รถการ์ตูนมากมาย รถสามล้อ รถจักรยานติดเครื่องยนต์ รถทหาร และรถแท็กซี่
แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆก็คือ “เครื่องบิน NAMC YS-11” เครื่องบินโดยสารขนาด 60 ที่นั่ง เครื่องยนต์เทอร์โบใบพัดแบบแรกของญี่ปุ่น ผลิตในช่วงปี ค.ศ.1962-1974 เครื่องบินลำนี้ได้นำเข้ามาใช้ในประเทศไทยและปลดประจำการในปี ค.ศ.2009 ที่ผ่านมา
เครื่องบินลำนี้จัดแสดงถัดจากพิพิธภัณฑ์ไปประมาณ 200 ม. ใช้ชื่อว่า “อากาศยานเพื่อการเรียนรู้กับ JDA Airline” ซึ่งจะจำลองเหตุการณ์ใกล้เคียงกับการเดินทางไปต่างประเทศที่เสมือนจริง โดยเริ่มจากการถ่ายรูปทำหนังสือเดินทางมอบเป็นที่ระลึก และการออกใบอนุญาตเข้าประเทศพร้อมประทับตราสถานทูตเทียบเคียงเสมือนจริง จากนั้นจำลองผ่านการออกตั๋วเครื่องบิน เช็คอินเพื่อรับบัตรโดยสารขึ้นเครื่องอีกด้วย
ใครที่สนใจอยากเดินทางเสมือนจริงนี้ ก็สามารถเข้าร่วมกันได้ในทุกวันอาทิตย์ หรือในวันว่างก็สามารถเดินทางมาเพลิดเพลินกับยานยนต์ต่างๆกันได้ ใกล้กรุงนิดเดียว
**********************************************************************************
“เจษฎา เทคนิค มิวเซียม” ตั้งอยู่ที่ ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์(เว้นวันจันทร์) เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลและการเดินทางโทร. 0-3433-9468, 08-6979-5777, 08-6979-6222
จังหวัดรอบกรุงของเราอย่างนครปฐม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายให้ได้ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ หรรษาเพลิดเพลินไปกับครอบครัว หรือแม้จะนิยมฉายเดี่ยวก็ไม่ไกลจนเกินไป ใครที่ชื่นชอบรถเก่า รถหาดูยาก ก็ตามฉันมาได้เลย เพราะในครั้งนี้สถานที่ที่ฉันจะพาไปเป็นแหล่งที่มีรถหลายแบบหลากรุ่น จอดเรียงโชว์โฉมกันใน “พิพิธภัณฑ์รถ” หรือ “เจษฎา เทคนิค มิวเซียม”
“เจษฎา เทคนิค มิวเซียม” ก่อตั้งโดย คุณเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ นักธุรกิจชาวไทย ในปีพ.ศ. 2549 ซึ่งเกิดแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปท่องเที่ยวดูงานด้านเครื่องยนต์กลไกในทวีปยุโรปและอเมริกา ได้พบเห็นพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่รวบรวมรถยนต์หายากไว้มากมาย และจัดแสดงได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
คุณเจษฎา จึงเริ่มสะสมรถยนต์หายากขึ้นบ้าง โดยเริ่มจากรถ Messerschmitt KR-200 ปี 1958 รถการ์ตูน (Bubble car) รถคันแรกที่นำเข้ามาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ยิ่งสะสม ยิ่งค้นคว้า ยิ่งตระหนักว่าวิวัฒนาการยานยนต์มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดความสุข ความสะดวกสบายแก่มวลมนุษย์ ยนตกรรมทุกชิ้นจะแฝงไว้ซึ่งปรัชญาแนวความคิด ที่บ่งบอกถึงจิตวิญญาณของผู้ออกแบบและผู้ผลิตสามารถใช้เป็นบทเรียนแก่คนรุ่นหลังได้อย่างล้ำค่า
จากการเริ่มเก็บหอมรอมริบสะสมรถทีละคันสองคัน จนกระทั่งมียานยนต์ที่สะสมไว้กว่า 500 คัน ตั้งแต่ยานยนต์ขนาดใหญ่ เช่น เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ รถถัง รถโดยสาร รถเก๋ง รถการ์ตูน จักรยานยนต์ รถสามล้อและรถจักรยานจากเกือบทุกชาติในโลก ยนตกรรมแต่ละชิ้นได้ให้บทเรียนและความรู้แก่ผู้สะสมเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ทำให้ฉันรู้เมื่อมาถึงยังพิพิธภัณฑ์ก็คือรถ 2 ชั้น คันใหญ่ หรือ Double-decker bus ที่จอดแสดงอยู่ด้านหน้าทางเข้า และเครื่องบินที่อยู่ในบริเวณลานด้านหน้า เมื่อเข้าไปถึงภายในพิพิธภัณฑ์ ฉันถึงกับเบิ่งตากว้างเพื่อกวาดตาดูบรรดารถต่างๆมากมายนับร้อยคัน
เมื่อมาถึงแล้วรถคันแรกที่ฉันจะไปชมก็ต้องเป็น “รถ Messerschmitt KR-200” ปี 1958 ขนาด 10.2 แรงม้า รถคันแรกของพิพิธภัณฑ์ ที่มีสีน้ำตาล นั่งขับได้ 1 คนและนั่งข้างหลังได้อีก 1 คน นำเข้ามาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ด้วยรูปทรงที่แปลก บางคนอาจจะไม่คิดว่ามันเป็นรถยนต์
นั้นเพราะบริษัทที่ผลิตรถคันนี้ในอดีตผลิตเครื่องบินรบ แต่เนื่องด้วยสงครามได้สิ้นสุดลงแล้ว บริษัทจึงหันมาผลิตรถยนต์ แต่ด้วยความถนัดในการผลิตเครื่องบินรูปทรงหรือภายในรถ เช่น เบาะนั่ง หรือแฮนด์บังคับ ยังมีส่วนคล้ายกับเครื่องบินอยู่บ้าง และภาพของรถคันนี้ยังปรากฏอยู่ในโลโก้พิพิธภัณฑ์อีกด้วย
จากนั้น รถที่สีชมพู-ขาวหวานแหววดึงดูดใจก็คือ “รถ Nash metropolitan” ปี 1954 จากประเทศอเมริกา เจ้าหน้าที่บอกฉันว่า คนที่นี่มักจะติดปากเรียกรถคันนี้ว่า “รถแต่งงาน” เนื่องจากสีสันสดใส โดยชื่อรถแต่งงานนั้น เริ่มจากหลังจากที่ได้นำรถคันนี้มาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ได้มีคู่บ่าวสาวขอยืมรถ Nash คันนี้ไปใช้ร่วมพิธีแต่งงานด้วย หลังจากนั้นจึงพูดกันปากต่อปาก และมีคู่บาวสาว อีกหลายคู่มาติดต่อถ่ายภาพแต่งงานคู่กับรถคันนี้จนถึงปัจจุบัน
อีกหนึ่งไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์รถแห่งนี้คือ “รถการ์ตูน BMW Isetta 250” (Bubble Car) ผลิตที่ประเทศเยอรมนี ออกแบบโดยบริษัทผลิตตู้เย็น ยี่ห้อ ISO ในประเทศอิตาลี ให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมีความคล่องตัวสูง โดยมีแนวความคิดมาจากรูปทรงของไข่
ด้วยแนวคิดแบบแหวกแนวแบบนี้ ประตูรถที่เปิดแบบปกติจึงย้ายมาเปิดด้านหน้าคล้ายกับประตูของตู้เย็น เพื่อความสะดวกรวมทั้งยังประหยัดการทำประตูไปถึงสองบาน โดย Bubble Car นี้ได้จัดแสดงไว้จำนวนมากมายอย่างที่ไม่อาจหาดูได้จากที่อื่น เด็กๆเยาวชนที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สามารถที่จะสัมผัสรถในจินตนาการได้ด้วยมือของตนเอง
ส่วนรถอีกคันที่น่าสนใจก็คือ “DMC Delorean” ปี 1982 หลายคนเห็นแล้วอาจจะคุ้นตาเจ้ารถคันนี้ เพราะเคยโด่งดังในภาพยนตร์เรื่อง back to the future ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงในอดีต เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของรถคันนี้คือ ตัวรถทั้งคันทำจากแสตนแลส และเปิดประตูคล้ายปีกนก อีกทั้งยังรวบรวมของดีและวิศวกรที่มีชื่อเสียงจาก 15 ประเทศ ในการออกแบบ
นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์รถแห่งนี้ยังมีรถอีกหลากหลายแบบ เช่น Austin 7 Chummy ค.ศ.1929 จากประเทศอังกฤษ และเป็นรถที่มีใช้ในไทยสมัยยุครัชกาลที่ 6, BMW 501 ผลิตที่ประเทศเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1955 เป็นรถซาลูนระดับหรูต้นกำเนิดของ BMW series 5 ที่มีรถหรูรุ่นดังๆมากมาย, Vespa400 ตัวแทนรถ microcar จากบริษัท Piaggioในบ้านเราจะรู้จักรถ vespa ในแบบที่เป็นรถ scooter เท่านั้น โดยผลิตขึ้นมาในช่วงที่ตลาดรถยนต์ขนาดเล็กกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในอิตาลี
พวกมอเตอร์ไซด์ก็มีมากมาย เช่น VESPA Scooter ที่เป็นตำนานของโลก จากประเทศอิตาลีที่มีการผลิตมายาวนานถึง 60 ปี นอกจากนี้ยังมี รถคลาสสิกอีกหลายรุ่น รถการ์ตูนมากมาย รถสามล้อ รถจักรยานติดเครื่องยนต์ รถทหาร และรถแท็กซี่
แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆก็คือ “เครื่องบิน NAMC YS-11” เครื่องบินโดยสารขนาด 60 ที่นั่ง เครื่องยนต์เทอร์โบใบพัดแบบแรกของญี่ปุ่น ผลิตในช่วงปี ค.ศ.1962-1974 เครื่องบินลำนี้ได้นำเข้ามาใช้ในประเทศไทยและปลดประจำการในปี ค.ศ.2009 ที่ผ่านมา
เครื่องบินลำนี้จัดแสดงถัดจากพิพิธภัณฑ์ไปประมาณ 200 ม. ใช้ชื่อว่า “อากาศยานเพื่อการเรียนรู้กับ JDA Airline” ซึ่งจะจำลองเหตุการณ์ใกล้เคียงกับการเดินทางไปต่างประเทศที่เสมือนจริง โดยเริ่มจากการถ่ายรูปทำหนังสือเดินทางมอบเป็นที่ระลึก และการออกใบอนุญาตเข้าประเทศพร้อมประทับตราสถานทูตเทียบเคียงเสมือนจริง จากนั้นจำลองผ่านการออกตั๋วเครื่องบิน เช็คอินเพื่อรับบัตรโดยสารขึ้นเครื่องอีกด้วย
ใครที่สนใจอยากเดินทางเสมือนจริงนี้ ก็สามารถเข้าร่วมกันได้ในทุกวันอาทิตย์ หรือในวันว่างก็สามารถเดินทางมาเพลิดเพลินกับยานยนต์ต่างๆกันได้ ใกล้กรุงนิดเดียว
**********************************************************************************
“เจษฎา เทคนิค มิวเซียม” ตั้งอยู่ที่ ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์(เว้นวันจันทร์) เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลและการเดินทางโทร. 0-3433-9468, 08-6979-5777, 08-6979-6222
