โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
วิถีชีวิตคนไทยในสมัยก่อนผูกพันกับสายน้ำ สายน้ำเปรียบประดุจเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวไทย แต่เมื่อกาลเวลาล่วงผ่าน เทคโนโลยีความทันสมัยเข้ามาแทนที่ มีถนนหนทางตัดผ่านมากมาย ความผูกพันของคนไทยกับสายน้ำค่อยๆลดน้อยลง แต่ถึงกระนั้นสายน้ำก็ยังไม่ได้หมดความสำคัญลง เหมือนกับที่ครั้งนี้ที่ฉันออกเดินทางไปสัมผัสกับวิถีไทยที่ผูกพันกับสายน้ำ ที่“วัดตะเคียน” จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมี “ตลาดน้ำวัดตะเคียน” เป็นแหล่งกิน แหล่งช้อป ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองนนท์
คุณอั๋น ผู้ดูแลตลาดน้ำวัดตะเคียน เล่าว่า ในสมัยก่อนชาวสวนละแวกนี้จะพายเรือนำของไปขายที่ตลาดน้ำปากคลองบางคูเวียง ที่จะเชื่อมกับคลองบางกอกน้อย หรือไม่ก็นำไปขายกันที่ตลาดนัดกรุงเทพฯ หรือตรงบริเวณสนามหลวงในปัจจุบัน แต่เมื่อมีการตัดถนนเข้ามา ทั้งถนนกาญจนาภิเษกและถนนนครอินทร์ ทำให้การสัญจรทางน้ำค่อยๆลดความนิยมลง การไปมาไม่สะดวกเหมือนทางบก ตลาดน้ำที่ปากคลองบางคูเวียงจึงได้เลิกไปโดยปริยาย ประจวบกับทางสนามหลวงก็ยกเลิกตลาดนัดในช่วงประมาณปี พ.ศ.2521 แล้วย้ายไปตั้งที่ตลาดนัดสวนจตุจักรแทน ชาวสวนที่เคยนำสินค้าทางการเกษตรไปขายก็หมดแหล่งขาย ต้องนำใส่รถไปตระเวนขายตามที่อื่นๆแทน
จนเมื่อปีพ.ศ.2552 หลวงปู่แย้ม เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง ได้ทำการรื้อฟื้นตลาดน้ำขึ้นมา เพื่อให้ชาวสวนชาวบ้านได้นำสินค้ามาขายเหมือนเมื่อก่อน แต่เนื่องจากสถานที่เดิมคือบริเวณปากคลองบางคูเวียงเป็นพื้นที่เอกชน ไม่มีที่จอดรถ และการเดินทางไม่สะดวก เลยมาจัดพื้นที่ขายบริเวณข้างๆวัดตะเคียนแห่งนี้แทน
โดยตลาดน้ำแห่งนี้ มีทั้งตลาดบกและตลาดน้ำ ตลาดบกก็จะขายสินค้าอาหารอยู่บนบกริมน้ำ ส่วนตลาดน้ำจะเป็นเรือที่พายมาขายในบริเวณริมตลิ่ง ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวบ้านในละแวกที่นำสินค้าทั้งพืชผัก ผลไม้ ของในสวน และอาหารการกินต่างๆ พายเรือมาค้าขาย ตามที่ฉันเห็นก็มีอาทิ กล้วย มะม่วง ขนุน ส้มโอ มะปรางค์ ผลไม้แปรรูป พวกผักสดต่างๆ
หรือจะเป็นจำพวกขนมไทยๆ เช่น ฝอยทอง ทองหยอด ลูกชุบ ขนมถ้วยมะพร้าวอ่อน ถั่วแปบสด ขนมตาล กล้วยทอดมันทอด ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน นางเล็ด ข้าวเกรียบว่าว ข้าวโพดคั่ว ส่วนพวกอาหารการกินก็เช่น ไส้กรอกอีสาน ลูกชิ้นหมูลูกชิ้นเนื้อ เป็ดพะโล้ ราดหน้า กวยจั๊บ ส้มตำ กระเพาะปลา ขนมเบื้องญวน กาแฟโบราณ เนื้อย่าง และก๋วยเตี๋ยวเรือ ชามละ 15 บาท ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของที่ตลาดน้ำแห่งนี้ ใครมาแล้วไม่ได้ลิ้มชิมรสก็ถือได้ว่ามาไม่ถึงตลาดน้ำวัดตะเคียนแห่งนี้เลยก็ว่าได้
ใครว่างวันไหนก็มามารถมากันได้ เพราะตลาดน้ำแห่งนี้เขาเปิดทุกวัน ทั้งวัน แต่จะคึกคักมากในวันเสาร์และอาทิตย์ หรือวันหยุดต่างๆ นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติและวิถีชีวิตสองฝั่งคลองบางคูเวียง เชื่อมกับคลองบางกอกน้อยวนเข้าคลองบางราวนกแล้วกลับมายังวัดตะเคียน โดยจะใช้เวลาล่องประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางจะมีบ้านเรือนเก่าๆ สองฝั่งคลอง ชมสวน ชมธรรมชาติ
สำหรับวัดตะเคียนนั้นก็เป็นวัดที่เก่าแก่ มีอายุนับร้อยปี คาดว่าสร้างมาก่อนสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 แต่วัดแห่งนี้ก็มีภิกษุมาจำพรรษาบ้างร้างบ้างสลับกันไป จนมาถึงสมัยหลวงปู่แย้ม มาเป็นเจ้าอาวาส จึงได้พัฒนาวัดให้เจริญเรื่อยมาจนปัจจุบัน
เมื่อมาถึงวัดตะเคียนแล้วก็ไม่ควรพลาดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 สิ่งภายในวัด สิ่งแรกได้แก่ “พระอุโบสถหลังเก่า” คาดว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่ภายใน สิ่งศักดิ์สิ่งที่ 2 คือ “พระอุโบสถ” ซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่ ภายในประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโคดม
ต่อไปคือ “การลอดใต้โบสถ์” ซึ่งเชื่อกันว่าโบสถ์เป็นสิ่งที่สะอาด บริสุทธิ์ การลอดสถานที่ หรือสิ่งศักดิ์สิทธ์ เพื่อล้างอาถรรพณ์และความเป็นสิริมงคลนี้ เป็นคติความเชื่ออย่างหนึ่งของคนไทยมาตั้งแต่อดีต พิธีลอดใต้โบสถ์นั้นก็โดยการตั้งจิตอธิษฐานแล้วสวดมนต์เวียนใต้โบสถ์ 3 รอบ เพื่อความเป็นมงคลในชีวิต โดยทางเข้าด้านซ้ายมือซึ่งจะสร้างทางเข้าเป็นรูปหัวเสือขนาดใหญ่ ส่วนทางออกสร้างเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่ โดยมีความเชื่อมาจากหลักฮวงจุ้ยว่าเข้าทางหัวเสือคือความชั่วร้ายทั้งปวงให้ขจัดปัดเป่าทิ้งไป ส่วนทางออกมังกรเป็นสัตว์ชั้นสูงตามความเชื่อจีน ทำให้จิตใจบริสุทธิ์มีแต่สิ่งดีงาม
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่ 4 คือ “มณฑปหลวงปู่แย้ม” โดยสร้างเป็นรูปเคารพหลวงปู่แย้มเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันไว้ให้ผู้คนกราบไหว้ ข้างๆกัน คือ “ศาลเจ้าแม่ประกายทองประกายมาศ” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดตะเคียนแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านนิยมมาขอหวยแล้วบนด้วยเครื่องแต่งกายชุดไทย ถัดไปได้แก่ “หลวงพ่อธรรมจักร” เป็นพระยืนประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อธรรมจักร โดยชาวบ้านเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากจึงนิยมมาขอพรต่างๆ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่ 7 ได้แก่ การทำพิธีถวายสังฆทาน นอนโลง ต่อชะตา ต่อไปย้ายไปทางด้านหน้าวัดจะมี “ต้นตะเคียน” ซึ่งมีความเก่าแก่อายุนับร้อยปีที่เหลืออยู่เพียงต้นเดียว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่ 9 คือ “หลวงพ่อโต” เป็นพระเก่าแก่ ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านนอกวัดวัดเช่นกัน ในสมัยก่อนนิยมมาบนบานสานกล่าวกันด้วยการแก้ผ้ากระโดดน้ำลงคลองด้านหน้าวัด
นอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 แล้ว ฉันก็สังเกตเห็นว่า ในบริเวณวัดมีรูปปั้นต่างๆมากมายทั้งรูปพระอภัยมณี สินสมุทร ผีเสื้อสมุทร ไซอิ๋ว ตือป๊วยไก่ รูปนางยักษ์คีบลูกชินจากชามก๋วยเตี๋ยว นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นที่สอนในเรื่องอบายมุขต่างๆ ด้วย คุณอั๋นบอกว่ามีพระรูปหนึ่งท่านมีฝีมือด้านนี้จึงได้ปั้นไว้ในวัดมากมาย ซึ่งก็ถือเป็นเอกลักษณ์ที่แปลกกว่าวัดอื่นๆเลยทีเดียว
ใครที่มาเที่ยวตลาดน้ำแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 ของวัดตะเคียนกันได้ เพราะนอกจากจะอิ่มอร่อยกายแล้วยังอิ่มเอมใจกลับบ้านไปอีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ตลาดน้ำวัดตะเคียน ตั้งอยู่ในวัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เปิดทุกวัน เวลา 9.00-16.00 น. การเดินทาง จากแยกแคราย จ.นนทบุรี วิ่งตรงข้ามสะพานพระราม 5 จากนั้นวิ่งตรงไปตาม ถ.นครอินทร์ จนถึง ถ.กาญจนาภิเษก ให้ชิดซ้ายกลับรถใต้สะพานข้ามแยก(ที่จะไปเข้าเส้นตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี) แล้วมุ่งหน้าย้อนกลับมาทางเดิมประมาณ 1.30 ก.ม. ก่อนถึงสะพานลอยคนข้าม จะเห็นซอยที่มีป้ายวัดตะเคียน ด้านหน้าซอยเป็นร้าน7/11 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปตามป้ายวัดตะเคียนอีกประมาณ 1.30 กม. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-2595-1851
วิถีชีวิตคนไทยในสมัยก่อนผูกพันกับสายน้ำ สายน้ำเปรียบประดุจเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวไทย แต่เมื่อกาลเวลาล่วงผ่าน เทคโนโลยีความทันสมัยเข้ามาแทนที่ มีถนนหนทางตัดผ่านมากมาย ความผูกพันของคนไทยกับสายน้ำค่อยๆลดน้อยลง แต่ถึงกระนั้นสายน้ำก็ยังไม่ได้หมดความสำคัญลง เหมือนกับที่ครั้งนี้ที่ฉันออกเดินทางไปสัมผัสกับวิถีไทยที่ผูกพันกับสายน้ำ ที่“วัดตะเคียน” จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมี “ตลาดน้ำวัดตะเคียน” เป็นแหล่งกิน แหล่งช้อป ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในเมืองนนท์
คุณอั๋น ผู้ดูแลตลาดน้ำวัดตะเคียน เล่าว่า ในสมัยก่อนชาวสวนละแวกนี้จะพายเรือนำของไปขายที่ตลาดน้ำปากคลองบางคูเวียง ที่จะเชื่อมกับคลองบางกอกน้อย หรือไม่ก็นำไปขายกันที่ตลาดนัดกรุงเทพฯ หรือตรงบริเวณสนามหลวงในปัจจุบัน แต่เมื่อมีการตัดถนนเข้ามา ทั้งถนนกาญจนาภิเษกและถนนนครอินทร์ ทำให้การสัญจรทางน้ำค่อยๆลดความนิยมลง การไปมาไม่สะดวกเหมือนทางบก ตลาดน้ำที่ปากคลองบางคูเวียงจึงได้เลิกไปโดยปริยาย ประจวบกับทางสนามหลวงก็ยกเลิกตลาดนัดในช่วงประมาณปี พ.ศ.2521 แล้วย้ายไปตั้งที่ตลาดนัดสวนจตุจักรแทน ชาวสวนที่เคยนำสินค้าทางการเกษตรไปขายก็หมดแหล่งขาย ต้องนำใส่รถไปตระเวนขายตามที่อื่นๆแทน
จนเมื่อปีพ.ศ.2552 หลวงปู่แย้ม เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง ได้ทำการรื้อฟื้นตลาดน้ำขึ้นมา เพื่อให้ชาวสวนชาวบ้านได้นำสินค้ามาขายเหมือนเมื่อก่อน แต่เนื่องจากสถานที่เดิมคือบริเวณปากคลองบางคูเวียงเป็นพื้นที่เอกชน ไม่มีที่จอดรถ และการเดินทางไม่สะดวก เลยมาจัดพื้นที่ขายบริเวณข้างๆวัดตะเคียนแห่งนี้แทน
โดยตลาดน้ำแห่งนี้ มีทั้งตลาดบกและตลาดน้ำ ตลาดบกก็จะขายสินค้าอาหารอยู่บนบกริมน้ำ ส่วนตลาดน้ำจะเป็นเรือที่พายมาขายในบริเวณริมตลิ่ง ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวบ้านในละแวกที่นำสินค้าทั้งพืชผัก ผลไม้ ของในสวน และอาหารการกินต่างๆ พายเรือมาค้าขาย ตามที่ฉันเห็นก็มีอาทิ กล้วย มะม่วง ขนุน ส้มโอ มะปรางค์ ผลไม้แปรรูป พวกผักสดต่างๆ
หรือจะเป็นจำพวกขนมไทยๆ เช่น ฝอยทอง ทองหยอด ลูกชุบ ขนมถ้วยมะพร้าวอ่อน ถั่วแปบสด ขนมตาล กล้วยทอดมันทอด ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน นางเล็ด ข้าวเกรียบว่าว ข้าวโพดคั่ว ส่วนพวกอาหารการกินก็เช่น ไส้กรอกอีสาน ลูกชิ้นหมูลูกชิ้นเนื้อ เป็ดพะโล้ ราดหน้า กวยจั๊บ ส้มตำ กระเพาะปลา ขนมเบื้องญวน กาแฟโบราณ เนื้อย่าง และก๋วยเตี๋ยวเรือ ชามละ 15 บาท ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของที่ตลาดน้ำแห่งนี้ ใครมาแล้วไม่ได้ลิ้มชิมรสก็ถือได้ว่ามาไม่ถึงตลาดน้ำวัดตะเคียนแห่งนี้เลยก็ว่าได้
ใครว่างวันไหนก็มามารถมากันได้ เพราะตลาดน้ำแห่งนี้เขาเปิดทุกวัน ทั้งวัน แต่จะคึกคักมากในวันเสาร์และอาทิตย์ หรือวันหยุดต่างๆ นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติและวิถีชีวิตสองฝั่งคลองบางคูเวียง เชื่อมกับคลองบางกอกน้อยวนเข้าคลองบางราวนกแล้วกลับมายังวัดตะเคียน โดยจะใช้เวลาล่องประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางจะมีบ้านเรือนเก่าๆ สองฝั่งคลอง ชมสวน ชมธรรมชาติ
สำหรับวัดตะเคียนนั้นก็เป็นวัดที่เก่าแก่ มีอายุนับร้อยปี คาดว่าสร้างมาก่อนสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 แต่วัดแห่งนี้ก็มีภิกษุมาจำพรรษาบ้างร้างบ้างสลับกันไป จนมาถึงสมัยหลวงปู่แย้ม มาเป็นเจ้าอาวาส จึงได้พัฒนาวัดให้เจริญเรื่อยมาจนปัจจุบัน
เมื่อมาถึงวัดตะเคียนแล้วก็ไม่ควรพลาดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 สิ่งภายในวัด สิ่งแรกได้แก่ “พระอุโบสถหลังเก่า” คาดว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่ภายใน สิ่งศักดิ์สิ่งที่ 2 คือ “พระอุโบสถ” ซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่ ภายในประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโคดม
ต่อไปคือ “การลอดใต้โบสถ์” ซึ่งเชื่อกันว่าโบสถ์เป็นสิ่งที่สะอาด บริสุทธิ์ การลอดสถานที่ หรือสิ่งศักดิ์สิทธ์ เพื่อล้างอาถรรพณ์และความเป็นสิริมงคลนี้ เป็นคติความเชื่ออย่างหนึ่งของคนไทยมาตั้งแต่อดีต พิธีลอดใต้โบสถ์นั้นก็โดยการตั้งจิตอธิษฐานแล้วสวดมนต์เวียนใต้โบสถ์ 3 รอบ เพื่อความเป็นมงคลในชีวิต โดยทางเข้าด้านซ้ายมือซึ่งจะสร้างทางเข้าเป็นรูปหัวเสือขนาดใหญ่ ส่วนทางออกสร้างเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่ โดยมีความเชื่อมาจากหลักฮวงจุ้ยว่าเข้าทางหัวเสือคือความชั่วร้ายทั้งปวงให้ขจัดปัดเป่าทิ้งไป ส่วนทางออกมังกรเป็นสัตว์ชั้นสูงตามความเชื่อจีน ทำให้จิตใจบริสุทธิ์มีแต่สิ่งดีงาม
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่ 4 คือ “มณฑปหลวงปู่แย้ม” โดยสร้างเป็นรูปเคารพหลวงปู่แย้มเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันไว้ให้ผู้คนกราบไหว้ ข้างๆกัน คือ “ศาลเจ้าแม่ประกายทองประกายมาศ” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดตะเคียนแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านนิยมมาขอหวยแล้วบนด้วยเครื่องแต่งกายชุดไทย ถัดไปได้แก่ “หลวงพ่อธรรมจักร” เป็นพระยืนประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อธรรมจักร โดยชาวบ้านเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากจึงนิยมมาขอพรต่างๆ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่ 7 ได้แก่ การทำพิธีถวายสังฆทาน นอนโลง ต่อชะตา ต่อไปย้ายไปทางด้านหน้าวัดจะมี “ต้นตะเคียน” ซึ่งมีความเก่าแก่อายุนับร้อยปีที่เหลืออยู่เพียงต้นเดียว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่ 9 คือ “หลวงพ่อโต” เป็นพระเก่าแก่ ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านนอกวัดวัดเช่นกัน ในสมัยก่อนนิยมมาบนบานสานกล่าวกันด้วยการแก้ผ้ากระโดดน้ำลงคลองด้านหน้าวัด
นอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 แล้ว ฉันก็สังเกตเห็นว่า ในบริเวณวัดมีรูปปั้นต่างๆมากมายทั้งรูปพระอภัยมณี สินสมุทร ผีเสื้อสมุทร ไซอิ๋ว ตือป๊วยไก่ รูปนางยักษ์คีบลูกชินจากชามก๋วยเตี๋ยว นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นที่สอนในเรื่องอบายมุขต่างๆ ด้วย คุณอั๋นบอกว่ามีพระรูปหนึ่งท่านมีฝีมือด้านนี้จึงได้ปั้นไว้ในวัดมากมาย ซึ่งก็ถือเป็นเอกลักษณ์ที่แปลกกว่าวัดอื่นๆเลยทีเดียว
ใครที่มาเที่ยวตลาดน้ำแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 ของวัดตะเคียนกันได้ เพราะนอกจากจะอิ่มอร่อยกายแล้วยังอิ่มเอมใจกลับบ้านไปอีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ตลาดน้ำวัดตะเคียน ตั้งอยู่ในวัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เปิดทุกวัน เวลา 9.00-16.00 น. การเดินทาง จากแยกแคราย จ.นนทบุรี วิ่งตรงข้ามสะพานพระราม 5 จากนั้นวิ่งตรงไปตาม ถ.นครอินทร์ จนถึง ถ.กาญจนาภิเษก ให้ชิดซ้ายกลับรถใต้สะพานข้ามแยก(ที่จะไปเข้าเส้นตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี) แล้วมุ่งหน้าย้อนกลับมาทางเดิมประมาณ 1.30 ก.ม. ก่อนถึงสะพานลอยคนข้าม จะเห็นซอยที่มีป้ายวัดตะเคียน ด้านหน้าซอยเป็นร้าน7/11 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปตามป้ายวัดตะเคียนอีกประมาณ 1.30 กม. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-2595-1851