โดย : หนุ่มลูกทุ่ง (travel_astvmgr@hotmail.com)
ระยะหลังมานี้ฉันไม่ค่อยได้ย่างกรายไปแถวรังสิตเท่าไรนัก แต่เมื่อวันก่อนไปนั่งรถติดอยู่ใกล้ๆร้านวัวตัวใหญ่โชคชัยสเต็กเฮาส์ และก็สังเกตเห็นว่ารั้วข้างๆกันมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ ฉันจึงไม่รอช้ารีบรี่เข้าไปดู ที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์โชคชัย” พิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมชีวิตของคาวบอยไทยแห่งฟาร์มโชคชัย “โชคชัย บูลกุล”
จากความคิดที่ว่า "ผมฝันอยากเป็นคาวบอยมาตั้งแต่เด็กๆ" ทำให้ โชคชัย บูลกุล ฉีกตัวจากครอบครัวค้าข้าวมาบุกเบิกทำฟาร์มจนเป็นตำนานคาวบอยไทย และตอนนี้ฉันกำลังจะพาทุกคนไปล้วงชีวิตของ โชคชัย บูลกุล ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
ก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความทรงจำของชายคนหนึ่งผู้ซึ่งสร้างตำนานคาวบอยไทยแห่งฟาร์มโชคชัย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่นำชม คอยเล่าเรื่องราวให้ผู้เข้าชมฟังอย่างละเอียดลออ โดยเริ่มแรกที่ “สวนสัตว์เผือก” เนื่องจากคุณโชคชัย มีความชื่นชอบในการเลี้ยงสัตว์ จึงมีการจัดแสดงสัตว์เผือก ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันมากนัก เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่เกิดการกลายพันธุ์ อาทิ ลิงเผือก, จิ้งโจ้เผือก, จระเข้เผือก, สกั๊งค์, แรคคูณ, เสือขาว และสิงโตขาว
ถัดไปเป็นโซน “เรือนไทยประยุกต์และห้องเบญจรงค์” บ้านทรงไทย อันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติมาจัดแสดง พร้อม เครื่องเบญจรงค์ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากจีน เมื่อเข้าสู่ประเทศไทยจึงมีการพัฒนาลวดลายโดยช่างไทยเพื่อให้ได้รูปลักษณ์และลวดลายงดงามเป็นเอกลักษณ์ของไทย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราขึ้นดิ่งไปยังชั้นที่ 5 ของตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ เมื่อเปิดประตูบานใหญ่เข้าไปฉันถึงกับตะลึง เมื่อภาพเบื้องหน้าที่เห็นกลายเป็นป่าเขียวขจีที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย เจ้าหน้าที่บอกว่าที่ชั้นนี้เป็นโซน “ป่าดงพญาไฟ” ซึ่งเป็นการจำลองป่าดงดิบดงพญาไฟในช่วงปีพ.ศ.2499 อันเป็นช่วงที่ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ที่คุณโชคชัยได้เคยพบเจอในช่วงที่ขับรถมาหาที่ที่มีภูมิประเทศและภูมิอากาศเหมาะสมกับการทำการเกษตรและฟาร์มปศุสัตว์จนมาพบกับพื้นที่บริเวณอำเภอปากช่องดังปัจจุบัน
จากป่าดงดิบเราย้ายลงมายังชั้นที่ 4 ภายในจัดแสดง “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ที่คุณโชคชัยนับถือ ตั้งอยู่ตรงกลางห้องทั้ง 4 ทิศ เริ่มจากพระพุทธรูปในสมัยต่างๆ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระสังกัจจายน์ องค์จตุคามรามเทพ รูปหล่อโลหะรัชกาลที่ 5 และกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และนักษัตร 12 ราศี
จากนั้นบริเวณรอบๆห้องจัดแสดง “สิ่งของสะสม” ได้แก่ ตู้โมเดลรถเล็ก ที่มีอยู่กว่า 800 ชิ้น สาเหตุเนื่องมาจากคุณโชคชัยเกิดมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากไม่มีของเล่น ประกอบกับชื่นชอบนวัตกรรมยานยนต์และเป็นนักแข่งรถเมื่อครั้งเรียนอยู่ที่อเมริกา โมเดลรถเล็กเหล่านี้จึงเป็นเหมือนงานอดิเรกแรกๆเพื่อชดเชยถึงความฝันในวัยเด็กที่อยากจะมีของเล่นเยอะๆ อาทิ รถก่อสร้าง, รถเบนซ์ สปอร์ต ซีรีย์SL, รถฟอร์ด รุ่น CROWN VICTORIA เป็นรถคันแรกในชีวิตของคุณโชคชัย เป็นต้น
ตู้โมเดลยานยนต์ที่ใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ประกอบด้วย รถถัง เรือรบ เครื่องบินรบ ถัดไปเป็น ตู้ถ้วยรางวัลของไอค์ สุนัขพันธุ์เกรดเดนที่มีความเก่งกาจ ชนะการประกวดสุนัขร่วมพันธุ์ทุกชนิดทั่วโลกถึง 3 ปีซ้อน ตู้รางวัลต่างๆของวันใหม่ สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วที่สร้างชื่อเสียงให้กับฟาร์มโชคชัยเป็นอย่างมากจนปัจจุบันมีอายุ 8 ปีแล้ว
นอกจากนี้ยังมีตู้ของที่ระลึกสมเด็จย่า, ตู้ของที่ระลึกรัชกาลที่ 9, ตู้โมเดลม้าสายพันธุ์ต่างๆ, ตู้โมเดลสัตว์ป่า, ตู้โมเดลปลาทะเลสวยงาม, ตู้ข่าวสารฟาร์มโชคชัย, ตู้ข่าวสารของตึกโชคชัย ซึ่งในอดีตตึกโชคชัยถือเป็นตึกแรกที่สูงที่สุดในไทยเมื่อ พ.ศ.2512, ตู้ของที่ระลึกจากต่างประเทศ, ตู้ของเล่นของลูกๆ ทั้ง3 คนของคุณโชคชัย, ตู้ของที่ระลึกตั้งแต่เริ่มกิจการนมสดตราฟาร์มโชคชัย และเรือหยกแกะสลักที่สั่งทำจากจีนใช้เวลาในการทำถึง 3 ปี
จากนั้นเจ้าหน้าที่พาฉันลงไปต่ออารมณ์ที่ชั้น 3 ซึ่งเราจะได้พบกับการจำลองที่อยู่อาศัยของคุณโชคชัยในสมัยบุกเบิกฟาร์มในปีพ.ศ.2500 ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และม้าคู่ใจที่ชื่อว่าเจ้ากลางดง ที่ได้เสียชีวิตไปแล้วด้วยอายุ 26 ปี และสตัฟเก็บไว้ เมื่อได้เห็นภาพเบื้องหน้าแล้วทุกคนคงจะสงสัยว่าทำไมทายาทเจ้าสัวข้าวอย่างคุณโชคชัยจึงได้มาบุกเบิกหาที่ดินทำฟาร์มด้วยตัวเองคนเดียว ก็สามารถหาคำตอบได้จากแกลเลอรี่รูปภาพที่ตั้งเรียงราย ผ่านการร้อยเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบันโดยเจ้าหน้าที่นำชมอย่างเพลิดเพลิน
จนมาถึงยังชั้นที่ 2 ซึ่งแบ่งเป็นโซน “ห้องเขาสัตว์” แต่อย่างเพิ่งตกใจ เพราะเขาสัตว์ที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์นี้เป็นเขาสัตว์ที่ทำจากเรซิ่น โดยมีรายละเอียดและรูปทรงต่างๆเหมือนเขาจริงทุกประการ และเขาสัตว์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ เขาสมัน สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยเขาสมันที่โชว์เป็นเขาที่แตกกิ่งมากที่สุดในโลกถึง 32 กิ่ง จากปกติที่มักจะแตกกิ่งข้างละ 8-9 กิ่งเท่านั้น อีกทั้งยังมีงาช้างประเภทต่างๆที่หาพบได้ยากในประเทศไทย
จากเขาสัตว์หลากรูปแบบแล้ว ฉันเดินต่อมายัง “ห้องปืน” ที่มีปืนจัดแสดงอยู่มากมายรอบห้อง ด้วยความที่คุณโชคชัยชื่นชอบวิถีชีวิตแบบคาวบอย จึงสะสมปืนเพื่อชื่นชม ส่วนปืนที่มีความสำคัญได้แก่ ปืนยาวคานเหวี่ยง อันเป็นปืนกระบอกแรกในชีวิต, ส่วนปืนสั้นกระบอกแรกเป็นปืนสั้นที่รักมากที่สุด เพราะเป็นปืนที่คุณโชคชัยพกติดตัวตลอดเมื่อครั้งบุกเบิกฟาร์มโชคชัย, ปืนยาวไรเฟิลที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ปืนไรเฟิลลำกล้องแฝด, ปืนสั้นลูกโม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ปืนไรเฟิล 4 กระบอกรุ่น Crown custom ที่คุณโชคชัยสั่งทำ มีเอกลักษณ์ตรงที่สร้างขึ้นและประกอบด้วยมือ ที่พานท้ายปืนมีการแกะสลัก และใต้ตัวปืนมีแผ่นทองแกะสลักชื่อคุณโชคชัย เป็นต้น
นอกจากปืนแล้วภายในห้องนี้ยังจัดแสดงกล้อง ซึ่งการถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกอีกอย่างหนึ่งที่คุณโชคชัยชื่นชอบ กล้องที่เก็บรักษาอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ทุกตัวล้วนแต่เป็นกล้องระบบManual โดยแต่ละตัวก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป เช่น กล้องLinhof เป็นกล้องที่ช่างภาพทุกคนใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง เพราะเป็นกล้องที่มีคุณภาพสูง, กล้องHasselblad ผลิตขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกการนำกล้องไปใช้บนอวกาศขององค์การนาซ่า, เลนส์ Laica ที่มีราคาแพงที่สุดในสายการผลิตของโรงงาน Laica. เลนส์เทเลโฟโต้ที่ยาวที่สุดในโลก ของNikon เป็นเลนส์ที่มีมุมมองกว้างมากที่สุดถึง 220 องศา และกล้องตัวแรกของคุณโชคชัย เป็นกล้องยี่ห้อ Canon V3 เป็นต้น
สำหรับสิ่งสะสมคอลเลคชั่นสุดท้ายในชั้นที่ 2 นี้คือ “ห้องคริสตัล” ที่เมื่อก้าวย่างเข้าไปแทบจะต้องสวมแว่นกันแดดกันเลยทีเดียว เนื่องจากแสงประกายของคริสตัลมากมายพร้อมใจกันส่องประกายระยิบระยับ โดยคริสตัลในห้องนี้มาจากบริษัทสวารอฟสกี้ ที่ถือว่ามีชื่อเสียงและโด่งดังเป็นอย่างมาก และผลิตออกมาจำนวนจำกัด คริสตัลที่จัดแสดง อาทิ คริสตัลรูปงูใหญ่ คริสตัลรูปม้าคู่ ชุดเชิงเทียน ที่บดกาแฟและกังหันลม และคริสตัลเพชรเม็ดใหญ่ยักษ์ที่มีน้ำหนักถึง 24 กิโลกรัม ซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับคุณโชคชัย เป็นต้น
และก็มาถึงยังส่วนสุดท้ายที่ชั้น1 เป็นส่วนของ “ยานยนต์” ที่คุณโชคชัยมีความชื่นชอบ อาทิ Mercedes Benz 300 SL Gull Wing สะท้อนความหรูหราของสุดยอดยนตรกรรม, Jaguar สุดยอดสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ 12 สูบ, Cadillac สุดยอดยนตรกรรมคลาสสิค สไตล์อเมริกัน และยังมียานยนต์ที่ใช้ในการทหาร ได้แก้ รถฮัมวี่ รถสะเทินน้ำสะเทินบก เป็นต้น
สิ่งของทั้งหมดภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆที่เป็นความทรงจำอันแสนสุข และสะท้อนถึงความมานะพยายามที่จะทำความฝันให้เป็นจริงจนมีวันนี้ แล้วคุณล่ะทำฝันให้เป็นจริงแล้วหรือยัง?
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“พิพิธภัณฑ์โชคชัย” ตั้งอยู่ที่ริมถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาเข้าก่อนถึงเซียร์รังสิต ตรงข้ามถนนเข้าม.รังสิต เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น. ในราคาผู้ใหญ่ไทย 300 บาท เด็กไทย 150 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 150 ซม.) สอบถามโทร 0-2532-2846 ต่อ 196, 0-2998-9346
ระยะหลังมานี้ฉันไม่ค่อยได้ย่างกรายไปแถวรังสิตเท่าไรนัก แต่เมื่อวันก่อนไปนั่งรถติดอยู่ใกล้ๆร้านวัวตัวใหญ่โชคชัยสเต็กเฮาส์ และก็สังเกตเห็นว่ารั้วข้างๆกันมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ ฉันจึงไม่รอช้ารีบรี่เข้าไปดู ที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์โชคชัย” พิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมชีวิตของคาวบอยไทยแห่งฟาร์มโชคชัย “โชคชัย บูลกุล”
จากความคิดที่ว่า "ผมฝันอยากเป็นคาวบอยมาตั้งแต่เด็กๆ" ทำให้ โชคชัย บูลกุล ฉีกตัวจากครอบครัวค้าข้าวมาบุกเบิกทำฟาร์มจนเป็นตำนานคาวบอยไทย และตอนนี้ฉันกำลังจะพาทุกคนไปล้วงชีวิตของ โชคชัย บูลกุล ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
ก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความทรงจำของชายคนหนึ่งผู้ซึ่งสร้างตำนานคาวบอยไทยแห่งฟาร์มโชคชัย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่นำชม คอยเล่าเรื่องราวให้ผู้เข้าชมฟังอย่างละเอียดลออ โดยเริ่มแรกที่ “สวนสัตว์เผือก” เนื่องจากคุณโชคชัย มีความชื่นชอบในการเลี้ยงสัตว์ จึงมีการจัดแสดงสัตว์เผือก ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยได้พบเห็นกันมากนัก เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่เกิดการกลายพันธุ์ อาทิ ลิงเผือก, จิ้งโจ้เผือก, จระเข้เผือก, สกั๊งค์, แรคคูณ, เสือขาว และสิงโตขาว
ถัดไปเป็นโซน “เรือนไทยประยุกต์และห้องเบญจรงค์” บ้านทรงไทย อันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติมาจัดแสดง พร้อม เครื่องเบญจรงค์ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากจีน เมื่อเข้าสู่ประเทศไทยจึงมีการพัฒนาลวดลายโดยช่างไทยเพื่อให้ได้รูปลักษณ์และลวดลายงดงามเป็นเอกลักษณ์ของไทย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราขึ้นดิ่งไปยังชั้นที่ 5 ของตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ เมื่อเปิดประตูบานใหญ่เข้าไปฉันถึงกับตะลึง เมื่อภาพเบื้องหน้าที่เห็นกลายเป็นป่าเขียวขจีที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย เจ้าหน้าที่บอกว่าที่ชั้นนี้เป็นโซน “ป่าดงพญาไฟ” ซึ่งเป็นการจำลองป่าดงดิบดงพญาไฟในช่วงปีพ.ศ.2499 อันเป็นช่วงที่ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ที่คุณโชคชัยได้เคยพบเจอในช่วงที่ขับรถมาหาที่ที่มีภูมิประเทศและภูมิอากาศเหมาะสมกับการทำการเกษตรและฟาร์มปศุสัตว์จนมาพบกับพื้นที่บริเวณอำเภอปากช่องดังปัจจุบัน
จากป่าดงดิบเราย้ายลงมายังชั้นที่ 4 ภายในจัดแสดง “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ที่คุณโชคชัยนับถือ ตั้งอยู่ตรงกลางห้องทั้ง 4 ทิศ เริ่มจากพระพุทธรูปในสมัยต่างๆ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระสังกัจจายน์ องค์จตุคามรามเทพ รูปหล่อโลหะรัชกาลที่ 5 และกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และนักษัตร 12 ราศี
จากนั้นบริเวณรอบๆห้องจัดแสดง “สิ่งของสะสม” ได้แก่ ตู้โมเดลรถเล็ก ที่มีอยู่กว่า 800 ชิ้น สาเหตุเนื่องมาจากคุณโชคชัยเกิดมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากไม่มีของเล่น ประกอบกับชื่นชอบนวัตกรรมยานยนต์และเป็นนักแข่งรถเมื่อครั้งเรียนอยู่ที่อเมริกา โมเดลรถเล็กเหล่านี้จึงเป็นเหมือนงานอดิเรกแรกๆเพื่อชดเชยถึงความฝันในวัยเด็กที่อยากจะมีของเล่นเยอะๆ อาทิ รถก่อสร้าง, รถเบนซ์ สปอร์ต ซีรีย์SL, รถฟอร์ด รุ่น CROWN VICTORIA เป็นรถคันแรกในชีวิตของคุณโชคชัย เป็นต้น
ตู้โมเดลยานยนต์ที่ใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ประกอบด้วย รถถัง เรือรบ เครื่องบินรบ ถัดไปเป็น ตู้ถ้วยรางวัลของไอค์ สุนัขพันธุ์เกรดเดนที่มีความเก่งกาจ ชนะการประกวดสุนัขร่วมพันธุ์ทุกชนิดทั่วโลกถึง 3 ปีซ้อน ตู้รางวัลต่างๆของวันใหม่ สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วที่สร้างชื่อเสียงให้กับฟาร์มโชคชัยเป็นอย่างมากจนปัจจุบันมีอายุ 8 ปีแล้ว
นอกจากนี้ยังมีตู้ของที่ระลึกสมเด็จย่า, ตู้ของที่ระลึกรัชกาลที่ 9, ตู้โมเดลม้าสายพันธุ์ต่างๆ, ตู้โมเดลสัตว์ป่า, ตู้โมเดลปลาทะเลสวยงาม, ตู้ข่าวสารฟาร์มโชคชัย, ตู้ข่าวสารของตึกโชคชัย ซึ่งในอดีตตึกโชคชัยถือเป็นตึกแรกที่สูงที่สุดในไทยเมื่อ พ.ศ.2512, ตู้ของที่ระลึกจากต่างประเทศ, ตู้ของเล่นของลูกๆ ทั้ง3 คนของคุณโชคชัย, ตู้ของที่ระลึกตั้งแต่เริ่มกิจการนมสดตราฟาร์มโชคชัย และเรือหยกแกะสลักที่สั่งทำจากจีนใช้เวลาในการทำถึง 3 ปี
จากนั้นเจ้าหน้าที่พาฉันลงไปต่ออารมณ์ที่ชั้น 3 ซึ่งเราจะได้พบกับการจำลองที่อยู่อาศัยของคุณโชคชัยในสมัยบุกเบิกฟาร์มในปีพ.ศ.2500 ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และม้าคู่ใจที่ชื่อว่าเจ้ากลางดง ที่ได้เสียชีวิตไปแล้วด้วยอายุ 26 ปี และสตัฟเก็บไว้ เมื่อได้เห็นภาพเบื้องหน้าแล้วทุกคนคงจะสงสัยว่าทำไมทายาทเจ้าสัวข้าวอย่างคุณโชคชัยจึงได้มาบุกเบิกหาที่ดินทำฟาร์มด้วยตัวเองคนเดียว ก็สามารถหาคำตอบได้จากแกลเลอรี่รูปภาพที่ตั้งเรียงราย ผ่านการร้อยเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบันโดยเจ้าหน้าที่นำชมอย่างเพลิดเพลิน
จนมาถึงยังชั้นที่ 2 ซึ่งแบ่งเป็นโซน “ห้องเขาสัตว์” แต่อย่างเพิ่งตกใจ เพราะเขาสัตว์ที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์นี้เป็นเขาสัตว์ที่ทำจากเรซิ่น โดยมีรายละเอียดและรูปทรงต่างๆเหมือนเขาจริงทุกประการ และเขาสัตว์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ เขาสมัน สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยเขาสมันที่โชว์เป็นเขาที่แตกกิ่งมากที่สุดในโลกถึง 32 กิ่ง จากปกติที่มักจะแตกกิ่งข้างละ 8-9 กิ่งเท่านั้น อีกทั้งยังมีงาช้างประเภทต่างๆที่หาพบได้ยากในประเทศไทย
จากเขาสัตว์หลากรูปแบบแล้ว ฉันเดินต่อมายัง “ห้องปืน” ที่มีปืนจัดแสดงอยู่มากมายรอบห้อง ด้วยความที่คุณโชคชัยชื่นชอบวิถีชีวิตแบบคาวบอย จึงสะสมปืนเพื่อชื่นชม ส่วนปืนที่มีความสำคัญได้แก่ ปืนยาวคานเหวี่ยง อันเป็นปืนกระบอกแรกในชีวิต, ส่วนปืนสั้นกระบอกแรกเป็นปืนสั้นที่รักมากที่สุด เพราะเป็นปืนที่คุณโชคชัยพกติดตัวตลอดเมื่อครั้งบุกเบิกฟาร์มโชคชัย, ปืนยาวไรเฟิลที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ปืนไรเฟิลลำกล้องแฝด, ปืนสั้นลูกโม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ปืนไรเฟิล 4 กระบอกรุ่น Crown custom ที่คุณโชคชัยสั่งทำ มีเอกลักษณ์ตรงที่สร้างขึ้นและประกอบด้วยมือ ที่พานท้ายปืนมีการแกะสลัก และใต้ตัวปืนมีแผ่นทองแกะสลักชื่อคุณโชคชัย เป็นต้น
นอกจากปืนแล้วภายในห้องนี้ยังจัดแสดงกล้อง ซึ่งการถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกอีกอย่างหนึ่งที่คุณโชคชัยชื่นชอบ กล้องที่เก็บรักษาอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ทุกตัวล้วนแต่เป็นกล้องระบบManual โดยแต่ละตัวก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป เช่น กล้องLinhof เป็นกล้องที่ช่างภาพทุกคนใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง เพราะเป็นกล้องที่มีคุณภาพสูง, กล้องHasselblad ผลิตขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกการนำกล้องไปใช้บนอวกาศขององค์การนาซ่า, เลนส์ Laica ที่มีราคาแพงที่สุดในสายการผลิตของโรงงาน Laica. เลนส์เทเลโฟโต้ที่ยาวที่สุดในโลก ของNikon เป็นเลนส์ที่มีมุมมองกว้างมากที่สุดถึง 220 องศา และกล้องตัวแรกของคุณโชคชัย เป็นกล้องยี่ห้อ Canon V3 เป็นต้น
สำหรับสิ่งสะสมคอลเลคชั่นสุดท้ายในชั้นที่ 2 นี้คือ “ห้องคริสตัล” ที่เมื่อก้าวย่างเข้าไปแทบจะต้องสวมแว่นกันแดดกันเลยทีเดียว เนื่องจากแสงประกายของคริสตัลมากมายพร้อมใจกันส่องประกายระยิบระยับ โดยคริสตัลในห้องนี้มาจากบริษัทสวารอฟสกี้ ที่ถือว่ามีชื่อเสียงและโด่งดังเป็นอย่างมาก และผลิตออกมาจำนวนจำกัด คริสตัลที่จัดแสดง อาทิ คริสตัลรูปงูใหญ่ คริสตัลรูปม้าคู่ ชุดเชิงเทียน ที่บดกาแฟและกังหันลม และคริสตัลเพชรเม็ดใหญ่ยักษ์ที่มีน้ำหนักถึง 24 กิโลกรัม ซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับคุณโชคชัย เป็นต้น
และก็มาถึงยังส่วนสุดท้ายที่ชั้น1 เป็นส่วนของ “ยานยนต์” ที่คุณโชคชัยมีความชื่นชอบ อาทิ Mercedes Benz 300 SL Gull Wing สะท้อนความหรูหราของสุดยอดยนตรกรรม, Jaguar สุดยอดสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ 12 สูบ, Cadillac สุดยอดยนตรกรรมคลาสสิค สไตล์อเมริกัน และยังมียานยนต์ที่ใช้ในการทหาร ได้แก้ รถฮัมวี่ รถสะเทินน้ำสะเทินบก เป็นต้น
สิ่งของทั้งหมดภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆที่เป็นความทรงจำอันแสนสุข และสะท้อนถึงความมานะพยายามที่จะทำความฝันให้เป็นจริงจนมีวันนี้ แล้วคุณล่ะทำฝันให้เป็นจริงแล้วหรือยัง?
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“พิพิธภัณฑ์โชคชัย” ตั้งอยู่ที่ริมถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาเข้าก่อนถึงเซียร์รังสิต ตรงข้ามถนนเข้าม.รังสิต เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น. ในราคาผู้ใหญ่ไทย 300 บาท เด็กไทย 150 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 150 ซม.) สอบถามโทร 0-2532-2846 ต่อ 196, 0-2998-9346