ผลจากความสำเร็จอย่างสูงล้นของโครงการ “อันซีนไทยแลนด์(1)” ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ทำคลอดออกมาในปี พ.ศ. 2546 ทำให้เกิดมีอันซีนในภาคอื่นๆตามมา ไม่ว่าจะเป็น อันซีนไทยแลนด์ 2, อันซีนพาราไดซ์ของททท. และอันซีนบางกอกของกทม.
รวมไปถึงล่าสุดกับโครงการ“อันซีน 3” ที่จัดโดย ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ซึ่งเจาะจงลงไปเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจใน 19 จังหวัดภาคกลาง(นอกเหนือไปจากอันซีน 1 และ 2) โดยเป็นการต่อยอดจากโครงการ“เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง”ที่จัดขึ้นมาก่อนหน้านั้น เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภาคกลางให้มากขึ้น
สมชาย ชมพูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคกลาง กล่าวถึงหลักการพิจารณาคัดเลือกสถานที่ท่องเที่ยวในอันซีน 3 ว่า คัดเลือกจากแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่มีศักยภาพทางการตลาด มีความแปลกใหม่ มีจุดเด่นและมีเอกลักษณ์ ทั้งนี้เพื่อใช้มาเป็นจุดดึงดูดใหม่ควบคู่ไปกับแหล่งท่องเที่ยวหลักในภาคกลางที่มีอยู่แล้ว
สำหรับแหล่งท่องเที่ยว อันซีน 3 ใน 19 จังหวัดภาคกลาง ทางททท.ได้ทำการคัดมาจังหวัดละ 3 แห่ง(รวมทั้งหมด 57 แห่ง) ประกอบด้วย
กรุงเทพมหานคร : สักการะพระพุทธรูปทองคำแท้องค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่ วัดไตรมิตรวิทยาราม,เที่ยววัด ไหว้พระกลางคืน พร้อมชม 9 สิ่งมหัศจรรย์ที่วัดพระเชตุพนฯหรือวัดโพธิ์,ชมกรุงเทพฯมุมสูงบนจุดชมวิวอาคารนิทรรศรัตนโกสินทร์ ถ.ราชดำเนินกลาง
กาญจนบุรี : ยลโบสถ์สแตนเลสหนึ่งเดียวในไทยที่ วัดปากลำขาแข้ง อ.ศรีสวัสดิ์,เดินชิลล์ทอดน่องบนสะพานไม้แห่งศรัทธายาวที่สุดในเมืองไทยและร่วมงานสรงน้ำสงกรานต์ของชาวมอญที่ไม่เหมือนใครที่ อ.สังขละบุรี,ชมศิลปะขอมแบบบายน ที่ปราสาทเมืองสิงห์ อ.ไทรโยค
ฉะเชิงเทรา : สักการะองค์พระพิฆเนศปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ วัดสมานรัตนาราม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อ.เมือง,ตระการตาไปกับประติมากรรมทรายในร่มใหญ่ที่สุดในโลก ณ สถานที่แสดงปราสาททราย ห่างจากวัดหลวงพ่อโสธรฯประมาณ 800 เมตร,ลอดโบสถ์สีทองหนึ่งเดียวในเมืองไทยที่ทาสีทองทั้งหลังเพื่อความเป็นสิริมงคลที่ วัดปากน้ำโจ้โล้ อ.บางคล้า
ชัยนาท : ชมความงามของเจดีย์วัดพระแก้ว อ.สรรคบุรี ราชินีแห่งเจดีย์ที่ได้ชื่อว่าสมบูรณ์และสวยงามที่สุดในเมืองไทย,ตื่นตามไปกับหุ่นฟางนกฝีมือประณีตสวยงาม หนึ่งในสัญลักษณ์ของชัยนาท,ยลเขื่อนเข้าพระยา เขื่อนที่สร้างทดน้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของเมืองไทย
นครปฐม : สักการะองค์พระปฐมเจดีย์ เจดีย์ทรงลังกาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย,ท่องพุทธมณฑล แดนธรรมะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย,ท่องโลกรถเก่าแก่คลาสสิคที่เจษฎาเทคนิค มิวเซียม อ.นครชัยศรี
นนทบุรี : ยลวัดเฉลิมพระเกียรติฯ อ.เมือง วัดที่ถูกใช้เป็นฉากในละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง,ตื่นตาไปกับความอลังการของวัดบรมราชากาญจนาภิเษกฯ หรือวัดเล่งเน่ยยี่ 2,ชมรถเฟี๊ยต มินิ ตำนานแท๊กซี่คลาสสิคของเมืองนนท์ ที่หลังเลิกวิ่งเป็นแท็กซี่เจ้าของได้นำมาตกแต่งใหม่วิ่งอวดโฉมอยู่ในเมืองนนท์
ปทุมธานี : แปลกตาไปกับเจดีย์ที่สร้างขึ้นจากซากหอยนางรมที่วัดเจดีย์หอย อ.สามโคก,ร่วมน้อมรำลึกในพระอัจฉริยะภาพด้านศิลปะแขนงต่างๆของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่ หออัครศิลปิน อ.คลองหลวง,รับรู้เหตุการณ์สำคัญๆของบ้านเมืองที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ อ.คลองหลวง
ประจวบคีรีขันธ์ : สัมผัสความสวยงามคลาสิคที่สถานีรถไฟหัวหินและเพลิดเพลินไปกับตลาดนัดศิลปะไอเดียบรรเจิดที่ Cicada Market,ยลพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ที่น่าทึ่งไปด้วยการใช้เลข 5 และ 9 มาเป็นแนวคิดในการออกแบบ พร้อมกับดูเหยี่ยวหนีหนาวที่เขาเรดาห์ อ.บางสะพาน,เฝ้าชมช้างป่าออกหากินยามเย็น ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อ.สามร้อยยอด
พระนครศรีอยุธยา :เยี่ยมชมวิถีการเลี้ยงช้าง การฝึกช้าง ที่โรงเรียนจับเชิง โรงเรียนฝึกช้าง อ.พระนครศรีอยุธยา,เที่ยวชมงานศิลปหัตถกรรมชั้นเลิศที่ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบางไทร อ.บางไทร,เพลิดเพลินไปกับบรยากาศย้อนยุคของตลาดบก-ตลาดน้ำ ที่ตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำคลองสระบัว ตลาดน้ำกรุงเก่าวัดท่าการ้อง ตลาดโก้งโค้ง ตลาดชะโด และตลาดหัวรอ
เพชรบุรี : ชมวิถีการทำปูชัก บริเวณสะพานหิน อ.ชะอำ,ไปดูดอกเกลือที่มีแร่ธาตุมากมายและต่างไปจากเกลือทั่วไปที่ ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม,ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการชั่งหัวมัน โครงการอันเนื่องมาจากในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ราชบุรี : ชมการแสดงศิลปะชั้นสูง หนังใหญ่ และตัวหนังแกะสลักที่พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ วัดขนอน อ.โพธาราม,รื่นรมย์ชมทะเลหมอกบนยอดเขากระโจม อ.สวนผึ้ง,ตื่นตาไปกับโบสถ์ทองคำร้อยล้าน ที่ วัดพระศรีอารย์ อ.โพธาราม
ลพบุรี : ร่วมสัมผัสตำนานสามก๊กของลิงเมืองลพบุรี ได้แก่ ก๊กลิงศาลพระกาฬ ก๊กลิงพระปรางค์สามยอด และก๊กลิงตลาด-สถานีรถไฟ,ชมแหล่งผลิตดินสอพองหนึ่งเดียวในไทย ที่หมู่บ้านหินสองก้อน อ.เมือง,เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ แหล่งโบราณคดีบ้านโป่งตะนาว อ.พัฒนานิคม
สระบุรี : อิ่มอร่อยไปกับ 3 ของกินขึ้นชื่อของจังหวัดได้แก่ เนื้อโคขุน นมโคไทยเดนมาร์ค และกะหรี่พั๊ฟ ตามสโลแกน”เนื้อนุ่ม นมดี กระหรี่ดัง”,ทดลองขับรถถังในราคา 300 บาท ที่ค่ายอดิศร อ.เมือง และ สักการะรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย ที่วัดพระพุทธบาท และรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ที่ วัดพระพุทธฉาย
สมุทรปราการ : น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่ ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ และชม ชิม ช้อป ที่ตลาดบางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง,ชมฝูงนกนางนวลหนีหนาวในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ. ที่ชายทะเลบางปู,ปลดทุกข์สุขสบายในห้องน้ำติดแอร์สุดหรูที่วัดบางพลีใหญ่ อ.บางพลี
สมุทรสงคราม :ช้อปแบบลุ้นระทึกที่ตลาดบนรางรถไฟ ณ ตลาดร่มหุบ,ยลโบสถ์ไม้แกะสลักอันสวยงามที่พื้นโบสถ์สร้างด้วยไม้ตะเคียนเพียง 7 แผ่นที่วัดบางแคน้อย อ.อัมพวา,ยลความแปลกของพระพุทธรูปที่มีนิ้วเท้า 9 นิ้วที่วัดเขายี่สาร อ.อัมพวา
สมุทรสาคร : สัมผัสตลาดสดมหาชัยแหล่งอาหารทะเลขึ้นชื่อของไทย,ชวนทึ่งไปกับพระรูปนักบุญอันนาใหญ่ที่สุดในเอเชียและสามารถหมุนได้ 360 องศา ที่วัดนักบุญอันนา อ.เมือง,แปลกตาไปกับพระพุทธรูปสวมแว่นตาดำ ที่ วัดโกรกกราก อ.เมือง
สิงห์บุรี : สัมผัสความเชื่อและศรัทธาในการหาบน้ำแก้บน ที่วัดโพธิ์เก้าต้น อ.ค่ายบางระจัน,ไหว้พระอินทร์ที่เมืองอินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี,ไหว้พระพรหมที่เมืองพรหม อ.พรหมบุรี
สุพรรณบุรี : สักการะรอยพระพุทธบาทนูนสูงแห่งเดียวในไทย ที่วัดเขาดีสลัก อ.อู่ทอง,สูดโอโซนกลางธรรมชาติอันพิสุทธิ์ที่ป่าสนสองใบ อุทยานแห่งชาติพุเตย อ.ด่านช้าง,ย้อนอดีตเที่ยว 7 ตลาดเก่าเมืองสุพรรณ ได้แก่ ตลาดเก้าห้อง ตลาดบ้านสุด ตลาดศรีประจันต์ บ้านเจ้าคุณฯ ตลาดท่าช้าง ตลาดสามชุก ตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และตลาดโพธิ์พระยา
อ่างทอง : ท่องสวนเฟินแห่งแรกของไทยที่ ตะนาวะสี เฟิน การ์เด้นท์ อ.วิเศษชัยชาญ,สัมผัสอารมณ์ไทยที่หมู่บ้านทรงไทย อ.วิเศษชัยชาญ กับบ้านทรงไทยจำนวน 399 หลัง,ไหว้พระนอนยาวที่สุดในเมืองไทย ที่วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง
และนั่นก็เป็น 57 แหล่งท่องเที่ยวอันซีน 3 จาก 19 จังหวัดภาคกลาง ซึ่งใครเห็นว่าที่ใดน่าสนใจก็สามารถเดินทางไปร่วมพิสูจน์ความอันซีนกันได้ตามสะดวก ส่วนใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.เที่ยวภาคกลาง.com