อพท. จัดงานมหกรรมท่องเที่ยวชุมชน ช่วงวันที่ 19-20 ม.ค.54 ณ สวนนงนุช พัทยา หวังเป็นหนึ่งในกลไกสร้างความปรองดองของชาติ พร้อมผลักดันสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. จัดงานมหกรรมท่องเที่ยวชุมชน กลไกสร้างความปรองดองแห่งชาติ เป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 19-20 ม.ค. 54 ที่ผ่านมา ณ สวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมุ่งตอกย้ำหลักสมดุลประโยชน์ทั้ง 3 ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งเน้นสร้างภาคีเครือข่ายร่วมพัฒนาในทุกภาคส่วน
พร้อมเผยการพัฒนาท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืนเป็นกลไกสำคัญที่นำไปสู่ความปรองดองของคนในชาติ ดำเนินโครงการสนับสนุนเครือข่ายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับประเทศตั้งแต่ปี 2551 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในรูปแบบการบูรณาร่วมกัน ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การดำเนินงานขององค์กรว่าด้วย “การสร้างเครือข่ายการพัฒนาทุกภาคส่วน” อันหมายถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยวให้ยั่งยืนระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน นักท่องเที่ยว เยาวชน และอื่นๆ เพื่อประสานการเชื่อมโยง ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องให้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่พิเศษและที่ประกาศเตรียมพื้นที่พิเศษ
พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนนี้จัดขึ้นเพื่องให้เกิดความคิดร่วกันกัน เกิดความปรองดองในระหว่างคนในชุมชนต่างๆ เพื่อพัฒนาบ้านเกิดตัวเองให้เป็นมหกรรมการท่องเที่ยวชุมชน อำเภอ จนกระทั่งไปถึงจังหวัด ทำให้มีรายได้และความรักความสามัคคีเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้า และเพื่อให้คนไทยไม่เกิดความขัดแย้งกันเองก็อยากให้เดินถนนสายปรองดองร่วมกัน “ขอให้ร่วมเดินทางไปกับผมเถอะ วันนี้ไม่สำเร็จ พรุ่งนี้ไม่สำเร็จ แต่วันหนึ่งต้องสำเร็จ เพราะผมได้ทำทางเดินไว้ให้แล้ว” พลตรีสนั่น กล่าว
ด้านพันเอก ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. กล่าวว่า ปัจจุบัน อพท. มีเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนรวมทั้งสิ้น 33 ชุมชน แบ่งเป็นเครือข่ายชุมชน 15 แห่งในพื้นที่ และอีก 18 แห่งในพื้นที่เตรียมการประกาศพื้นที่พิเศษ ทั้งนี้ สาระสำคัญจากการทำงานพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ผ่านมา พบว่า สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้งานพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มีกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนไปด้วย คือ กลไกสร้างความปรองดองอันเกิดขึ้นจากการประสานความร่วมมือกันระหว่างคนในชุมชน ระหว่างหน่วยงานกับชุมชน อากกล่าวได้ว่า การสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนั้นจะช่วยสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดภายในประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชน
ส่วนนายเสบ เกิดทรัพย์ ผู้จัดการกลุ่มออมทรัพย์อัล อามานะห์ บ. บางโรง อ.ถลาง ต.ป่าคลอก จ. ภูเก็ต กล่าวว่า การร่วมกิจกรรมครั้งนี้ทำให้รู้จักชุมชนรู้จักตัวเองมากขึ้น รู้จักทรัพยากรของตัวเองมากขึ้นทำให้เราสามารถไปปรับใช้ในแบบของเราได้ และอยากอยู่ร่วมกับ อพท. นี้ตลอดไป อีกทั้งยังบอกอีกว่า “อย่าปิดกั้นทางบของตัวเอง พยายามทำให้เรามีความเข้มแข็งแล้วคนอื่นจะเข้ามามองเราส่วนเรื่องงบประมาณไม่ใช่เรื่องอยากถ้ารู้จักใช้ทรัพยากรของตนเองให้มีคุณค่า”
ทั้งนี้การจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวชุมชนในครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยส่งเสริมให้ชุมชนและพื้นที่ต่างๆ มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหันหน้ามาคุยกันและหันหน้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในหนทางที่จะสร้างความสมานฉันท์ระหว่างคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันแต่สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้โดยไม่แตกแยก และยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะทำให้ชุมชนอยู่ได้อย่างพอเพียงภายใต้การคิดเอง ทำเอง รับผลประโยชน์เอง ได้อย่างยั่งยืน