“ไปดำน้ำลึกที่ทะเลชุมพร กันไหมค่ะ” เสียงหวานๆ จากพนักงานบริษัทแคนนอน ลอดผ่านมาทางสายโทรศัพท์เอื้อยเอ่ยชักชวนให้ “ตะลอนเที่ยว” ไปออกทริปดำน้ำด้วยกันที่จังหวัดชุมพร
เพียงแค่ได้ยินเสียงหวานๆ พร้อมประโยคชวนเชิญที่น่าสนใจขนาดนี้ “ตะลอนเที่ยว” ก็ไม่รีรอรีบตอบตกลงไปทันควัน เพราะโลกแห่งความงามของใต้ท้องทะเลไทย มันช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจให้หลงใหลในความสวยงามของเหล่าสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ และทัศนียภาพของท้องทะเลที่งดงามเกินคำบรรยาย เรียกว่าต้องไปให้เห็นกับตาแล้วจะเข้าใจว่าความงดงามของธรรมชาติไม่ได้ถูกสร้างสรรค์ให้มีแต่บนพื้นโลกเท่านั้น ใต้พื้นพิภพอย่างท้องทะเลก็มีความงดงามให้ชมอีกมากมาย
“ตะลอนเที่ยว” รีบจัดแจงเก็บสัมภาระหอบกระเป๋าใบใหญ่ ออกเดินทางไปพร้อมกับบริษัทแคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ที่ได้จัดกิจกรรม “Canon Delighting Photo Trip : Under Water Photography” พาไปออกทริปดำน้ำลึกที่ทะเลชุมพร พร้อมกับได้ร่วมทดลองประสิทธิภาพของกล้องและอุปกรณ์การถ่ายภาพใต้น้ำของแคนนอนด้วย ซึ่งในทริปนี้เรายังมีช่างภาพใต้น้ำฝีมือดีของเมืองไทยคือ คุณนัท สุมนเตมีย์ ร่วมเดินทางไปดำน้ำและร่วมกันเก็บภาพความสวยงามของโลกใต้ทะเลกัน
แล้วในเช้าของวันที่อากาศสดใสท้องฟ้าเป็นใจ ไม่มีเมฆฝน คณะนักดำน้ำของเราก็พร้อมลงเรือ มุ่งหน้าสู่ทะเลอ่าวไทยไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ซึ่งหมู่เกาะชุมพรนั้นมีความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเล เหมาะแก่การดำน้ำทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก เป็นจุดดำน้ำอีกจุดหนึ่งที่นักดำน้ำนิยมไปดำน้ำกัน
เพราะใต้ทะเลยังมีความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝูงปลานานาชนิด ปะการังหลากหลาย ดงดอกไม้ทะเลอันกว้างใหญ่ รวมถึงยังมีสัตว์ทะเลไซด์ใหญ่ยักษ์อย่างฉลามวาฬ ที่มักจะแวะเวียนมาว่ายทักทายอวดโฉมความเป็นเจ้ายักษ์แห่งท้องทะเลให้นักดำน้ำได้ตื่นตาตื่นใจกันด้วย
การมาดำน้ำที่ทะเลชุมพรของคณะดำน้ำของพวกเราในทริปนี้ พวกเรามีจุดมุ่งหมายหลักมาดำน้ำลึกยังจุดดำน้ำยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า “หมู่เกาะง่าม” ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่ขึ้นชื่อมากของทะเลชุมพร อันประกอบไปด้วยเกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะหลักง่าม และหินแพ
และไดฟ์แรกของการดำน้ำลึกในทริปนี้ พวกเรามาลงดำน้ำลึกที่เกาะง่ามใหญ่กันเป็นที่แรก “เกาะง่ามใหญ่” ถือเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะง่าม และยังเป็นเกาะสัมปทานรังนกด้วย ลักษณะของเกาะง่ามใหญ่เป็นผาหินสูงชัน ไม่มีหาดให้ขึ้น พวกเราจึงตระเตรียมตัวและอุปกรณ์การดำน้ำทุกอย่างให้เสร็จสรรพบนเรือ หลังจากนั้นก็ทยอยลงสู่ทะเลกัน เมื่อลงไปสู่ท้องทะเลใต้ล่าง น้ำทะเลใสๆ ทำให้พวกเรามองเห็นโลกใต้น้ำที่สวยสดงดงามได้ดั่งใจปรารถนา
ที่เกาะง่ามใหญ่ มีแนวปะการังทั้งอ่อนและแข็งที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ให้ชมมากมาย แต่ก็มีปะการังฟอกขาวให้เห็นอยู่บ้าง และบริเวณนี้ก็ยังมีปลาทะเลหลากหลายสายพันธุ์แหวกว่ายให้เห็นอยู่เป็นจำนวนมาก ทำเอาเราแทบจะเลือกถ่ายรูปไม่ถูกเลยว่าจะถ่ายเจ้าปลาตัวไหนดี เพราะแต่ละตัวล้วนแล้วแต่มีสีสันที่สวยงาม อย่างเจ้าปลาผีเสื้อเหลืองชุมพร ที่มีลายสีเหลืองสดที่ลำตัว และมีขีดสีดำและสีขาวบริเวณตาตัดลงมาเป็นเส้นตรง ที่จัดว่าเป็นปลาประจำอ่าวไทย ลงดำน้ำทีไรเป็นต้องได้เจอ มีปลานกแก้วตัวโตที่มีสีสันสวยงาม มีฟันคล้ายๆจะงอยปากนกแก้วที่เอาไว้ใช้ขูดกินปะการัง รวมถึงยังมีดอกไม้ทะเลสีสวยพลิ้วไหวอยู่ท่ามกลางสายน้ำและมีเจ้าปลาการ์ตูนอินเดียนแดงตัวเล็กน่ารักแอบยิ้มยามสบตาเรา(คิดไปเอง)มาอาศัยหลบภัยอยู่ในนั้น
พวกเราใช้เวลาถ่ายรูปสัตว์ทะเลที่เกาะง่ามใหญ่ และว่ายดูความสวยงามของท้องทะเลอยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาขึ้นจากไดฟ์แรก เพื่อลงไปดำน้ำไดฟ์ที่สองกันต่อ ยังเกาะง่ามน้อยที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก “เกาะง่ามน้อย” ก็เป็นเกาะสัมปทานรังนกเช่นกัน ลักษณะทั่วไปคล้ายเกาะง่ามใหญ่แต่มีขนาดความสูงน้อยกว่า และมีแนวปะการังแบบริมฝั่งให้ชมกัน
สภาพปะการังที่เกาะง่ามน้อยก็มีสภาพสมบูรณ์ดีไม่แพ้เกาะง่ามใหญ่ มีเจ้าเม่นตัวดำหนามแหลมคมดูน่าเกรงขาม (ซึ่งต้องระวังอย่าไปว่ายใกล้มันมากนักเดี๋ยวโดนหนามเม่นตำเข้าจะแย่) มีเจ้านูดี้หรือทากทะเลสีสันสวยสดงดงามหลากหลายสายพันธุ์ดูน่ารักดี และมีเหล่าบรรดาปลาน้อยใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ว่ายเวียนไปมาให้เห็นอย่างมากมาย
หลังจากใช้เวลาพอสมควรกับการชมโลกความงามใต้ท้องทะเลที่เกาะง่ามน้อย ก็ใกล้เวลาที่แสงอาทิตย์เริ่มอ่อนแรงลง พวกเราจึงหันหัวเรือเบนหน้ากลับเข้าฝั่ง กลับมาพักผ่อนนอนเอาแรงกันที่โรงแรมชุมพรคาบาน่า รีสอร์ทซึ่งค่ำคืนนี้มันช่างเป็นการนอนหลับที่สนิทและสบายเป็นอย่างมาก เพราะว่าได้ออกกำลังกับการดำน้ำอย่างสนุกสนานและว่ายน้ำแข่งกับปลามาตลอดทั้งวัน
และจากการที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ทำให้เช้าวันต่อมาคณะดำน้ำของเราดูคึกคักกันเป็นพิเศษ และตระเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำและกล้องถ่ายรูปใต้น้ำกันอย่างพร้อมสรรพ ก็ได้เวลาลงเรือกันอีกครั้ง เพื่อตรงไปยังจุดดำน้ำที่แรกคือที่ “เกาะหลักง่าม” เป็นเกาะขนาดเล็กอยู่ทางทิศใต้ของเกาะง่ามน้อย มีลักษณะเป็นหินโผล่กลางน้ำ แนวปะการังเป็นแบบแนวปะการังริมฝั่งอยู่รอบเกาะ ที่มีอุดมสมบูรณ์อยู่มาก บริเวณรอบเกาะมีดงปะการังดำที่หนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลไทย มีทั้งสีขาว สีน้ำตาล และสีเหลืองสวยงามจริงๆ มีหอยมือเสือตัวใหญ่ให้เห็นด้วย และยังมีฝูงปลาข้างเหลือง ฝูงปลากล้วยหลังเหลือง ที่ว่ายเวียนเป็นฝูงใหญ่ดูตื่นตาตื่นใจดี และยังเจอเจ้าปลาไหลมอร์เลย์หน้าตาไม่ค่อยรับแขกโผล่หน้าออกมาจากซอกหินที่ซ่อนตัวอยู่
เพลิดเพลินกับดำน้ำดูสัตว์ทะเลน้อยใหญ่มากมาย และเก็บภาพสัตว์ทะเลสวยๆ เป็นที่ระลึกมากมายแล้ว พวกเราก็ขึ้นจากเกาะหลักง่าม เพื่อไปดำน้ำที่ไดฟ์สุดท้ายกันที่ “หินแพ” มีลักษณะเป็นกองหินปริ่มน้ำ กองหินค่อนข้างชันสู่ความลึก 20-25 เมตร มีสัตว์ทะเลให้ได้เห็นมากมายหลายหลากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ปะการัง ดงดอกไม้ทะเลขนาดใหญ่ที่มีเจ้าปลาการ์ตูนอินเดียนแดงว่ายเวียนอยู่อย่างน่ารักน่าเอ็นดู มีแส้ทะเลซึ่งเป็นสัตว์ทะเลประเภทเดียวกับกัลปังหาและปะการัง
และที่หินแพแห่งนี้พวกเรา ยังได้เจอกับเจ้าเต่าทะเลว่ายเวียนมาอวดโฉมให้ได้ยลกันแบบใกล้ๆ รวมถึงยังมีแมงกะพรุนตัวใสๆ สีสวยให้ได้ถ่ายรูปเล่นแบบเพลินๆ (แต่ไม่กล้าเข้าไกลสักเท่าไหร่) แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายสำหรับไดฟ์นี้ที่พวกเราโชคไม่เข้าข้างอดเจอเจ้ายักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลอย่างฉลามวาฬที่ ว่ากันว่าจุดบริเวณหินแพนี้จะมีโอกาสเจอได้
แต่ถึงแม้พวกเราจะไมได้เจอฉลามวาฬ ก็ไม่เป็นไร เพราะแค่ความงดงามทางธรรมชาติของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่หยิบยื่นโลกแห่งความสวยงามตระการตาของเหล่าสิ่งมีชีวิตมากมายให้เราได้ยล และได้สัมผัสก็เป็นสิ่งที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจ และทำให้รู้ว่าโลกสีน้ำเงินใบกลมๆ เบี้ยวๆ ของเรายังมีสรรพชีวิตที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามมากเพียงใด ซึ่งเราทุกคนบนโลกใบนี้ควรจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้งดงามตราบนานเท่านาน