จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นครราชสีมา และหน่วยงานที่เกียวข้อง ขอเชิญเที่ยวงานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2553 ในระหว่างวันที่ 23 มีนาคม-3 เมษายน ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการสักการะและระลึกถึงวีรกรรมของท้าวสุรนารี ภายในงานมีกิจกรรมมากมายอาทิเช่นสุดยอดการแสดง แสง สี เสียง “ประวัติศาสตร์เมืองคุณย่า” ณ สนามกีฬาค่ายสุรนารี การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOPนิทรรศการออกร้าน การประกวดนางสาวนครราชสีมา การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง
ท้าวสุรนารี มีนามเดิมว่า "โม" (แปลว่า ใหญ่) หรือ "โม้" เป็นชาวเมืองนครราชสีมาโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีเถาะ พ.ศ 2341 ในแผ่นดิน พระเจ้าตากสินมหาราช สมัยกรุงธนบุรีมีนิวาสถานอยู่ ณ บ้านตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมา นางสาวโม เป็นธิดาของ นายกิ่ม และ นางบุญมา (ในสมัยนั้นยังไม่มีนามสกุล) มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แป้น ไม่มีสามี จึงอยู่ด้วยกันจนวายชนม์ มีน้องชายหนึ่งคน ไม่ปรากฏชื่อ (ภายหลัง ได้เป็น เจ้าเมืองพนมซร๊อก ต่อมามีการอพยพชาวเมืองพนมซร๊อก มาอยู่ ริมคูเมืองนครราชสีมาด้านใต้ จึงเอาชื่อเมือง พนมซร๊อก มาตั้งชื่อ บ้านพนมศรก ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น บ้านสก อยู่หลังสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระจนทุกวันนี้ เมื่อปี พ.ศ 2339นางสาวโม
เมื่ออายุได้ 25 ปี ได้แต่งงานสมรสกับนายทองคำ พนักงานกรมการเมืองนครราชสีมา ต่อมานายทองคำ ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น "พระภักดีสุริยเดช" ตำแหน่งรองปลัดเมืองนครราชสีมา นางโม จึงได้เป็น คุณนายโม และต่อมา "พระภักดีสุริยเดช" ได้เลื่อนเป็น "พระยาสุริยเดช" ตำแหน่งปลัดเมืองนครราชสีมา คุณนายโมจึงได้เป็น คุณหญิงโม
ชาวเมืองนครราชสีมาเรียกท่านทั้งสองเป็นสามัญว่า "คุณหญิงโม" และ "พระยาปลัดทองคำ" ท่านเป็นหมันไม่มีทายาทสืบสายโลหิต ชาวเมืองนครราชสีมาทั้งหลายจึงพากันเรียกแทนตัวคุณหญิงโมว่า แม่ มีผู้มาฝากตัวเป็นลูก-หลานกับคุณหญิงโมอยู่มาก ซึ่งเป็นกำลัง และอำนาจส่งเสริมคุณหญิงโมให้ทำการ ใดๆ ได้สำเร็จเสมอ หนึ่งในลูกหลานคนสำคัญ ที่มีส่วนร่วมกับคุณหญิงโม เข้ากอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ คือ นางสาวบุญเหลือท้าวสุรนารี เป็นคนมีสติปัญญาหลักแหลม เล่นหมากรุกเก่ง มีความชำนาญในการขี่ช้าง ขี่ม้า มีม้าตัวโปรดสีดำ และมักจะพาลูกหลาน ไปทำบุญที่วัดสระแก้วเป็นประจำเสมอท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ 2395( เดือน 5 ปีชวด จัตวาศก จศ. 1214 ) สิริรวมอายุได้ 81 ปี
วีรกรรมของคุณหญิงโมนั้นเป็นที่คนไทยรุ่นหลังทราบดีว่า เมื่อพุทธศักราช 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ เป็นกบฏต่อกรุงเทพมหานคร ยกกองทัพเข้ามายึดเมืองนครราชสีมาได้ แล้วกวาดต้อนครอบครัวชาวนครราชสีมาไปเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ คุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือ ได้รวบรวมครอบครัวชาย หญิงชาวนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เข้าต่อสู้ฆ่าฟันทหารลาวล้มตายเป็นอันมาก ณ ทุงสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2369 ช่วยให้ฝ่ายไทยสามารถกอบกู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ในที่สุด
สำหรับปีนี้ทางจังหวัดนครราชสีมาได้จัดงานฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารีถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญเหมือนเช่นทุกปีทุกปี โดยปีนี้มีการจัดฉลองถึง 12 วัน 12 คืนในระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน 2553 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นงานที่จังหวัดนครราชสีมา และ ชาวนครราชสีมา และถือเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการสักการะ การเคารพซึ่งวีรกรรมของคุณหญิงโม ทั้งนี้รูปแบบการจัดงานที่น่าสนใจมีมากมาย อาทิ ขบวนสักการะคุณย่าโม สุดยอดการแสดง แสง สี เสียง “ประวัติศาสตร์เมืองคุณย่า” ณ สนามกีฬาค่ายสุรนารี การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOPนิทรรศการออกร้าน การประกวดนางสาวนครราชสีมา การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา โทร 0-4421-3666 / 0-4421-3030