xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าททท.ชู“เมืองไทยใครๆก็รัก” แผนหลักท่องเที่ยวปี 53

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุรพล เศวตเศรนี
สุรพล ผู้ว่าททท.ป้ายแดง ชูสโลแกน“เมืองไทยใครๆก็รัก”เป็นแผนงานหลักของการท่องเที่ยวปี 53 ตั้งเป้านักท่องเที่ยว 15.5 ล้านคน ระบุททท.ต้องปรับตัวทำงานให้เป็น Digital Marketing มากขึ้น

บ่ายวันที่ 4 มกราคม 2553 นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) มอบนโยบายการทำงานวันแรกของศักราชใหม่ โดยยึดคำขวัญในการทำงาน “มุ่งมั่น ตั้งใจ เพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน” ซึ่งผู้ว่าททท. เผยว่า ในฐานะที่ทำงาน ททท. 32 ปี มีความเข้าใจในความสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือและการประสานประโยชน์จากพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกันยังเห็นถึงกระแสการเปลี่ยนแปลงมาโดยลำดับ จึงจำเป็นที่ ททท. ต้องมีการปรับเปลี่ยนการทำงานจากเดิม โดยเฉพาะในด้านการตลาดที่เป็นแบบ Traditional Marketing ให้เป็น Digital Marketing มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่บุคลากรต้องมีความเข้าใจ และต้องมีระบบที่ทันสมัยเพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุน อาทิ การใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสังคม ออนไลน์ หรือ social network ซึ่งเป็นสื่อที่มีอิทธิพลมากในเวลานี้ เพื่อที่จะพัฒนาตนให้ก้าวไปสู่การเป็นนักการตลาดมืออาชีพยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ตามโครงสร้างใหม่ขององค์กร จะมีตำแหน่งรองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง ทำให้การทำตลาดต่างประเทศ ระหว่างยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอาเซียน เอเชียใต้ แปซิฟิคใต้ จะแยกกันรับผิดชอบดูแล ซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีความเข้มข้นขึ้น

นายสุรพล ยังกล่าวเสริมอีกว่า ในปีนี้ ททท.จะครบรอบ 50 ปี ซึ่งจะทำงานภายใต้สโลแกน “เมืองไทยใครๆก็รัก” โดยมีกิจกรรมแบ่งตามแต่ละฝ่ายงาน เน้นการส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร และ การทำงานเพื่อสังคม เช่น ฝ่ายบริหาร ทำโครงการ กรีนบิวดิ้ง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ดูแลเรื่องตราสัญลักษณ์ และ จัดทำแสตมป์ ฝ่ายสินค้าท่องเที่ยวจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ฝ่ายตลาดในประเทศ จัดทำคู่มือ 50เส้นทางความสุข จัดทำหนังสือท่องเที่ยวอักษรเบลสำหรับผู้พิการทางสายตา เป็นต้น ส่วนตลาดต่างประเทศ จัดเมกกะแฟมทริป และงานกาล่าดินเนอร์แก่สื่อมวลชนต่างประเทศ

นอกจากนี้ผู้ว่าททท.ยังกล่าวถึงแผนการปฏิบัติงานประจำปีว่า ในส่วนของตลาดในประเทศ ยังคงนำเสนอเอกลักษณ์อันโดดเด่นในพื้นที่ของแต่ละภูมิภาคเป็นจุดขาย ส่วนด้านกิจกรรมนั้น ปีนี้จะเน้น 3 กิจกรรมหลักให้ขึ้นสู่เวิลด์อีเวนต์ ได้แก่ เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลแห่เทียนเข้าพรรษา และ เทศกาลลอยกระทง ซึ่งคาดว่าในปี 2553 หากไม่มีสถานการณ์รุนแรงเข้ามากระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จะสามารถทำตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 15.5 ล้านคน เติบโตจากปี 2552 ประมาณ 5% สร้างรายได้ 6 แสนล้านบาท ส่วนตลาดในประเทศ คาดว่าจะอยู่ที่ 90 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 4.3 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็ยังถือได้ว่าเป็นโชคทางการท่องเที่ยวของไทย นายสุรพล กล่าวว่า จากผลสำรวจจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2552 พบนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจำนวน 11.10 ล้านคน ซึ่งลดตัวลงจากปี 2551 ประมาณร้อยละ 10.11 ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2552 จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจะมีจำนวนใกล้เคียง 14 ล้านคน โดยสร้างเม็ดเงินจากเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้กว่า 5 แสนล้านบาท
       
นายสุรพล กล่าวด้วยว่า ส่วนเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวกระจายเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นจำนวนมาก โดยสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3,200 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 1,100 ล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศประมาณ 2,100 ล้านบาท
         
กำลังโหลดความคิดเห็น