xs
xsm
sm
md
lg

ยลวัดงามริมคลองด่าน ย่านจอมทอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย หนุ่มลูกทุ่ง
วัดราชโอรสารามฯ วัดงามในเขตจอมทอง
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเที่ยววัดไหว้พระ คงจะต้องถูกใจหากได้มาเยือนแถวย่าน "จอมทอง" เขตชานเมืองของกรุงเทพฯทางฝั่งธนบุรี ที่ฉันจะพามาเยือนในวันนี้

ในเขตจอมทองนี้มีคลองสายสำคัญที่ต้องพูดถึง ก็คือ "คลองสนามชัย" หรือ "คลองด่าน" ที่เรียกได้ว่าเป็นคลองสายประวัติศาสตร์ คลองสายนี้ขุดขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระสรรเพชญที่ 8แห่งกรุงศรีอยุธยา จุดเริ่มต้นของคลองอยู่ต่อจากคลองด่าน บริเวณแยกคลองบางขุนเทียน ในเขตจอมทอง แล้วไปออกแม่น้ำท่าจีนที่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร บ้างก็เรียกคลองสายนี้ในแถบจังหวัดสมุทรสาครว่าคลองมหาชัย
คลองด่านหรือคลองสนามชัย
มีวัดสำคัญๆหลายแห่งในเขตจอมทองที่ตั้งอยู่ริมคลองสายนี้ เช่นวัดแรกที่ฉันจะพาไปชมกันที่ "วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร" วัดงามในเขตจอมทอง ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นตรงที่เป็นวัดไทยสไตล์จีน โดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นผู้ทรงปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้น โดยพระองค์ทรงโปรดสไตล์แบบจีนและนิยมนำมาผสมผสานกับวัดไทยเสมอๆ จะสังเกตเห็นได้จากพระอุโบสถและพระวิหารนั้นไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เนื่องจากพระองค์ทรงเห็นว่าชำรุดเสียหายได้ง่ายและเปลืองเวลาในการทำ หน้าบันจึงเป็นแบบเรียบๆ มีการประดับหน้าบันด้วยกระเบื้องเคลือบเป็นลวดลายดอกไม้ หรือสัตว์ต่างๆ เช่นหงส์ หรือมังกรตามแบบจีน โดยวัดราชโอรสฯ นั้นถือเป็นวัดแรกที่ทรงนำเอาศิลปะแบบจีนมาประยุกต์ให้เข้ากับวัดไทย จึงถือได้ว่าเป็นวัดตามแบบพระราชนิยม หรือต้นแบบของวัดไทยสไตล์จีนที่งดงามมากเลยทีเดียว

สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ก็มีมากมาย ทั้งพระอุโบสถที่มีซุ้มประตูทางเข้าแบบจีน มีสิงโตหินยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าทางเข้าทั้งสองด้าน อีกทั้งยังมีทวารบาลแบบจีนทำด้วยกระเบื้องเคลือบยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ประดับมุกเป็นลวดลายมังกรดั้นเมฆ ส่วนพระประธานในอุโบสถนั้นเป็นพระพุทธรูปแบบไทยปางสมาธิ มีพระนามว่า "พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร" ซึ่งที่ใต้ฐานพระพุทธรูปก็มีพระบรมราชสรีรังคารของรัชกาลที่ 3 บรรจุไว้ด้วย จึงถือว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 3นอกจากนั้นภายในวัดก็ยังมีทั้งพระวิหารพระนั่ง พระวิหารพระนอน และพระวิหารพระยืน ครบทั้งสามอิริยาบถเลยทีเดียว
กราบไหว้หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่เอี่ยมวัดหนังกันได้บนชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์
ที่ "วัดไทร" ก็เป็นวัดที่มีความเป็นมาน่าสนใจ ผู้ที่มาเยือนไม่ควรพลาดชม "ตำหนักทองวัดไทร" หรือ "ตำหนักพระเจ้าเสือ" สถาปัตยกรรมไม้สมัยอยุธยาที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่หลัง โดยเชื่อว่าเป็นตำหนักของพระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยาที่ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างไว้เมื่อพระองค์เสด็จประพาสทางทะเล โดยใช้เส้นทางคลองด่านเป็นทางพระราชดำเนิน ตัวตำหนักเป็นอาคารไม้ทรงไทยขนาดสามห้อง ภายในอาคารมีการตกแต่งด้วยลวดลายเขียนสีทั้งฝาและโครงหลังคา หลังบานประตูภายในห้องบรรทมเขียนเป็นรูปทวารบาล ส่วนฝาภายนอกก็มีการลงรักเขียนลายรดน้ำไว้อย่างงดงาม และใกล้ๆกันนั้นก็มีศาลพระเจ้าเสือ ซึ่งมีพระรูปหล่อของพระเจ้าเสือ และรูปหล่อของพันท้ายนรสิงห์ไว้ภายในศาลนี้ด้วย

วัดต่อมาในเขตจอมทองที่น่าสนใจ ก็คือ "วัดหนังราชวรวิหาร" วัดเก่าแก่ริมคลองด่านที่งดงามด้วยพระอุโบสถก่ออิฐถือปูนขนาด 5 ห้อง มีเฉลียงโดยรอบ หน้าเป็นประดับกระจกเป็นรูปดอกไม้สวยงาม ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "พระพุทธปฏิมากร" พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยเป็นพระประธาน ส่วนพระวิหารก็มีลักษณะคล้ายกับพระอุโบสถ และระหว่างพระอุโบสถและพระวิหารนั้นก็มีพระปรางค์องค์สูงใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างกลาง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
พระอุโบสถวัดนางนอง เป็นแบบศิลปะจีน
ที่วัดหนังนี้ยังมีพระเกจิชื่อดังที่หลายๆคนให้ความเคารพนับถือ คือหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่ฉัตร และหลวงปู่ผล โดยหลวงปู่ทั้งสามองค์นี้ก็ถือเป็นเกจิชื่อดังแห่งวัดหนัง โดยเฉพาะหลวงปู่เอี่ยม หรือพระภาวนาโกศลเถระนั้น ถือเป็นพระสงฆ์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างสูง

มาที่วัดหนังแล้วต้องไม่พลาดชม "พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาวัดหนังราชวรวิหาร" พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของมีค่าเก่าแก่ของวัด และอีกส่วนหนึ่งเก็บข้าวของเครื่องมือของชาวชุมชนในอดีต และจัดแสดงประวัติศาสตร์ของพื้นที่เขตจอมทอง ผู้ที่มาชมยังจะได้กราบสักการะหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่เอี่ยมขนาดเท่าองค์จริงอีกด้วย
ชิมส้มบางมดหวานๆได้ในสวน
ข้ามฝั่งคลองด่านมาอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นที่ตั้งของ "วัดนางนองวรวิหาร" วัดที่มักจะถูกพูดถึงคู่กับวัดหนัง เพราะตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ที่วัดนางนองนี้เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ต่อมารัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯให้บูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม เราจึงได้เห็นศิลปะจีนแบบพระราชนิยมในวัดนี้ สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดก็คือพระประธานในพระอุโบสถ มีพระ นามว่า "พระพุทธมหาจักรพรรดิ" เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องปางมารวิชัย พระพักตร์พุทธศิลป์สมัยสุโขทัย งดงามยิ่งนัก
ตำหนักพระเจ้าเสือในวัดไทร
สถานที่ต่อมาก็ยังคงเป็นวัดอีกเช่นเคย ก็แหม...วัดในเขตจอมทองนั้นทั้งเยอะทั้งน่าสนใจทั้งนั้นเลย อย่างที่ "วัดยายร่ม"ที่แต่เดิมมีชื่อว่าวัดจุฬามณี แต่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อตามชื่อคนสร้าง ก็คือยายร่มซึ่งเป็นชาวบางมดนี่เอง โบสถ์ของวัดยายร่มนั้นมีความงดงามแปลกจากวัดอื่นๆ เพราะมีการนำเอางานแกะสลักไม้แบบล้านนามาใช้แทนการวาดจิตรกรรมฝาผนัง โดยได้นำช่างจากอำเภอสันกำแพง และอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่มาเป็นผู้แกะสลัก แล้วนำมาติดไว้ภายในโบสถ์ทั้งหลัง
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตจอมทอง ในวัดยายร่ม
ที่วัดยายร่มนี้ยังเป็นที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตจอมทอง" ที่ภายในพิพิธภัณฑ์บอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ในเขตจอมทองทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้มีการขุดคลองด่าน ขึ้นในเขตจอมทอง ทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านแถบนี้ผูกพันกับคลองมาเป็นเวลานาน และวิถีชีวิตของชาวชุมชนเขตจอมทองนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะประกอบอาชีพทำสวน โดยสวนส้มบางมดนั้นถือเป็นผลิตภัณฑ์ชื่อดังที่เคยได้ยินชื่อเสียงกันมาเป็นเวลานานแล้ว แม้ว่าจะมีบางช่วงที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจนทำให้สวนส้มบางมดแทบจะสูญพันธุ์ไป แต่ปัจจุบันก็ได้มีการปลูกส้มบางมดขึ้นในหลายพื้นที่เพื่อให้ชาวสวนส้มรักษาพันธุ์ส้มของตนเอาไว้

ได้ชมเรื่องราวของสวนส้มบางมดในพิพิธภัณฑ์ฯแล้ว หากอยากจะไปชมสวนส้มของจริง หรืออยากไปลองชิมว่าส้มบางมดจะหวานอร่อยแค่ไหน ก็มาชมกันได้ที่ "สวนส้มบางมดของลุงสุทินและป้าทองเจือ" หนึ่งในไม่กี่สวนที่ยังมีการปลูกส้มบางมดกันอยู่
 อุโบสถวัดยายร่ม มีไม้สักทองแกะสลักประดับแทนภาพจิตรกรรม
หากมาที่สวนแห่งนี้และได้พูดคุยกับลุงสุทินและป้าทองเจือเจ้าของสวน ก็จะได้ทราบถึงที่มาของความหวานอร่อยของส้มบางมดว่า มาจาก "ดิน" เพราะดินที่บางมดนี้มันดี เป็นดินจืดที่มีตะกอนและมีความเค็มเล็กน้อย หรือเรียกว่าดินลักจืดลักเค็ม ทำให้ปลูกส้มได้หวาน แม้คนจากที่อื่นจะเอากิ่งส้มไปปลูก แต่ก็ไม่หวานเหมือนกับปลูกที่บางมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้ส้มบางมดมีน้อยลงและหากินได้ยากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมหนักเมื่อปีพ.ศ. 2526 ที่ทำให้ชาวสวนส้มบางมดจำต้องละทิ้งอาชีพทำสวนไปทำอย่างอื่นเพื่อความอยู่รอด ประกอบกับความเจริญของเมืองเข้ามาถึง สวนส้มหลายไร่ก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นบ้านจัดสรรหรือโรงงานไปแทน แต่สวนส้มบางมดก็ยังไม่สูญหายไป หากอยากมาชมและชิมก็เชิญมากันได้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาวัดหนังราชวรวิหาร เปิดให้เข้าชมเฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ ในเวลา 13.00-16.00 น. ควรติดต่อมาล่วงหน้าก่อนเข้าชม สอบถามโทร.0-2875-4405 ติดต่อเข้าชมสวนส้มบางมดของลุงสุทิน และป้าทองเจือ ได้ที่โทร.0-2873-8814 (ควรโทรแจ้งล่วงหน้า) และสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากจะมาล่องเรือชมสวนบางมด ก็สามารถติดต่อไปได้ที่ ศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ล่องเรือชมสวนบางมด-ทะเลกรุงเทพฯ ที่ตั้งท่าน้ำวัดพุทธบูชา ริมคลองบางมด หมู่ที่ 3 ถ.พุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. โทร.0-2426-3844 หรือติดต่อไปที่คุณสุชาติ สุจริตเวทีโทร. 08-6588-8106

กำลังโหลดความคิดเห็น