xs
xsm
sm
md
lg

ดื่มด่ำธรรมชาติ ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : แมวลาย
ชมใบไม้เปลี่ยนสีไปพร้อมๆ กับชมภูเขาไฟฟูจิ
เทศกาลต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นนั้น มักจะอิงกับฤดูกาลในแต่ละช่วง เช่น เทศกาลหิมะในช่วงฤดูหนาว เทศกาลชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงหรือในช่วงเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายนนั้น เขาก็มี "เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี" อันเป็นเทศกาลที่ทั่วเกาะญี่ปุ่นจะงดงามไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้ โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ต้นไม้ใบหญ้าจะมีสีเขียวมองดูแล้วสดชื่นสบายตา แต่เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน สภาพอากาศเริ่มเย็นลง ต้นไม้ผลัดใบทั้งหลายก็จะเริ่มเปลี่ยนสี จากสีเขียวก็จะกลายเป็นสีเหลือง บ้างก็เป็นสีส้ม สีแดง สร้างบรรยากาศให้สถานที่เดิมๆ ดูงดงามต่างไปจากเดิม

ในประเทศญี่ปุ่นใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากทางตอนเหนือของประเทศก่อนจะลงสู่ตอนใต้ ต่างจากเทศกาลชมดอกซากุระที่ดอกไม้ทางใต้จะเริ่มบานก่อนทางเหนือ ในช่วงนี้ฝนจะเริ่มขาดเม็ด อากาศจะเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับที่ความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติเริ่มมาเยือน ตามป่าเขาหรือสวนสาธารณะที่มีต้นไม้เยอะๆจะเริ่มมีสีสันสวยงามราวกับจิตรกรมาเติมแต่ง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว หรือแม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองออกจากบ้านมาชมความงดงาม หรือที่เรียกว่า "โมมิจิ การิ" (Momiji-gari) ซึ่งหมายถึง การเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของใบเมเปิลที่น่าหลงใหล
ใบของต้นแปะก้วยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใส
น่าเสียดายที่ประเทศของเราอยู่ในเขตร้อนชื้น จึงไม่มีฤดูใบไม้ร่วงอันเป็นช่วงเวลาที่จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี วันนี้จึงขอพามาชมใบไม้เปลี่ยนสีในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นกันแทน

ในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วงนั้น เราต้องไปกันที่เกาะฮอกไกโดอันเป็นที่แรกที่เริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสี ว่ากันว่า ที่ "อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทจึซัน" บนเกาะฮอกไกโด คือสถานที่ที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนที่อื่นๆในญี่ปุ่น และใช้เวลากว่า 1 เดือนในการเปลี่ยนเป็นสีแดงของใบไม้ไล่จากยอดเขาลงมาสู่จุดขึ้นกระเช้าตรงเชิงเขา และจุดชมใบไม้แดงที่สวยที่สุดก็จะอยู่ตรงบริเวณปากทางขึ้นเขาที่เรียกว่า กินเซ็นได (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน-ปลายเดือนกันยายน)
ทิวทัศน์สวยๆในฤดูใบไม้ร่วง
ส่วนที่เมือง "นิเสะโกะ" (Niseko) เมืองสกีที่มีชื่อเสียงของเกาะฮอกไกโด ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้งดงามมากเช่นกัน มีเสน่ห์ด้วยทะเลสาบ เส้นทางเดินเขา และยังมีบ่อน้ำพุร้อนให้ได้ผ่อนคลายกันอีกด้วย

ลงใต้มาที่เขตโทโฮขุ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นกันบ้าง ที่ "ทะเลสาบโทวาดาโกะ" ในจังหวัดอาโอโมริ ทะเลสาบแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูง นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือภายในทะเลสาบเพื่อชมทัศนียภาพของภูเขาทั้งลูกที่เต็มไปด้วยใบไม้สีแดงโอบล้อมรอบทะเลสาบ เป็นภาพประทับใจไม่มีวันลืมเลือน (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม-ปลายเดือนตุลาคม)
ความงดงามที่มีเพียงปีละครั้ง
และที่บริเวณ "เทือกเขาซาโอ" ในจังหวัดยามางาตะ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดชม เทือกเขาแห่งนี้มีความงามเป็นที่เลื่องลือในแถบนี้ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าของลานสกีในฤดูหนาวเพื่อขึ้นไปชมทิวทัศน์ใบไม้แดงในมุมสูงได้ อีกทั้งคนที่ชื่นชอบการขับรถเที่ยว บนเส้นทางซาโอ-เอโคไลน์ ความยาว 26 กิโลเมตร ที่เชื่อมระหว่างจังหวัดมิยางิและจังหวัดยามางาตะ ก็จะมีใบไม้สีแดงให้ชมไปตลอดเส้นทาง ทำให้การขับรถเป็นความสนุกสนานและประทับใจได้ไม่น้อย (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม-ปลายเดือนตุลาคม)

ส่วนทางภาคตะวันออกของประเทศในเขตคันโต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของประเทศ ที่ “เมืองนิกโก้” ในจังหวัดโทจิงิ เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกของญี่ปุ่น ที่นี่มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีหลายแห่ง โดยในตัวเมืองจะมีต้นอิโจ หรือแปะก้วยขึ้นเรียงราย มองดูเป็นสีเหลืองสว่างสดใสไปทั่วบริเวณ และถนนตรงทางขึ้นเขาที่ชื่อว่าอิโระฮะซะกะ ก็เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางชมใบไม้หลากสีที่งดงามที่สุดในภูมิภาคคันโต อีกทั้งยังไม่ควรพลาดชม น้ำตกริวซุ ที่มีความหมายว่าหัวมังกร บริเวณน้ำตกนี้มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่ เมื่อใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงก็จะสร้างความงดงามให้กับตัวน้ำตกเป็นอย่างมาก (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม-ปลายเดือนตุลาคม)
ถนนทั้งสายเป็นสีเหลืองสดใส
ส่วนในกรุงโตเกียว ที่ "สวนเมจิจินงูไกเอ็ง" ก็สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้เช่นกัน เพราะที่นี่มีต้นอิโจเรียงรายอยู่เต็มทางเดิน ใบไม้จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและร่วงลงสู่พื้นดินจนทางเดินกลายเป็นสีเหลือง ในช่วงเวลานี้จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบอิโจขึ้นอีกด้วย และนอกจากสวนแห่งนี้แล้ว เราก็สามารถชมใบไม้แดงที่สวนชินจูกุเกียวเอ็ง สวนสาธารณะโยโยหงิ สวนสาธารณะฮิบิยะได้อีกด้วย (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน-ปลายเดือนพฤศจิกายน)

ในภูมิภาคจูบุ ทางตอนกลางของประเทศ การชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จะได้เปรียบกว่าที่อื่นตรงที่จะได้ชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิไปด้วย โดยเฉพาะหากมาชมที่ "ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ" ก็จะได้ชมภูเขาไฟฟูจิที่ยอดเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวตัดกับสีของใบไม้แดงนั้น เป็นภาพทิวทัศน์ที่แสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ใบไม้แดงในแถบนี้เกือบทั้งหมดเป็นใบของต้นโมมิจิ (เมเปิล) โดยในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มที่จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบโมมิจิอีกด้วย (ชมได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนพฤศจิกายน)
ใบเมเปิลเป็นสีแดงก่อนจะร่วงโรยจากต้น
และบริเวณ "ที่ราบสูงชิราคาบะและวีนัสไลน์" ในจังหวัดนางาโนะ ซึ่งมีภูเขาสูงมากมาย ในฤดูหนาวจะเป็นที่สถานที่เล่นสกียอดนิยม ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีนักท่องเที่ยวมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกันมากเช่นกัน โดยการเดินทางไปยังที่ราบสูงแห่งนี้จะต้องใช้เส้นทางวีนัสไลน์ ถนนซึ่งมีความยาว 76 กิโลเมตร และสองข้างทางก็จะมีใบไม้แดงให้ชมกันอย่างจุใจ และเมื่อมาถึงที่ราบสูงชิราคาบะแล้ว ก็จะมีจุดชมใบไม้แดงที่บริเวณทะเลสาบทาเตชินาโกะ และภูเขาทาเตชินะ ซึ่งสามารถใช้บริการกอนโดล่าลิฟท์ขึ้นไปชมความงามด้านบนได้ (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม-ปลายเดือนตุลาคม)

ที่เมืองเกียวโต ในภูมิภาคคันไซ มีสถานที่ชมใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือที่ "อะระชิยะมะ" นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่จะต้องไม่พลาดที่จะถ่ายรูปกับสะพานโทเง็นสึเคียว โดยมีภูเขาอะระชิยะมะเป็นฉากหลัง นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังนิยมใช้บริการรถไฟโทร็อกโกะ เพื่อชมใบไม้แดงที่อะระชิยะมะอีกด้วย เนื่องจากในเกียวโตมีวัดและศาลเจ้าอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสามารถชมความงามของใบไม้แดงในวัดต่างๆได้ เช่น วัดคิโยมิซึ วัดกิงคาคุจิ ศาลเจ้าชิโมงาโมะ วัดนันเซ็นหยิ เป็นต้น (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน-ปลายเดือนพฤศจิกายน)
ป่าหลากสีสัน
ที่ "สวนสาธารณะโมมิจิดานิ" เกาะมิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิมา ในภูมิภาคจูโกขุ ก็ไม่ควรพลาดชม เพราะที่นี่มีต้นโมมิจิ (เมเปิล) กว่า 200 ต้น และเมื่อใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงสดก็ทำให้สถานที่นี้ดูสว่างสดใสขึ้นมาทันตา โดยจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดคือสะพานโมมิจิ ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าสวน และทุกปีก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบไม้แดงที่นี่อีกด้วย (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน-ปลายเดือนพฤศจิกายน)

และในภูมิภาคชิโกกุ ที่จังหวัดคางาวะ บริเวณ "ศาลเจ้าโคโตฮิระงู" ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเกาะชิโกกุ ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาโซซุ ผู้ที่จะเดินทางมาไหว้พระที่นี่จะต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 800 ขั้น และตลอดสองข้างทางก็จะมีใบเมเปิลสีแดงให้ได้ชมกันคลายความเหนื่อย และในวันที่ 10 พฤศจิกายนของทุกปีก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมใบไม้แดงขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะมีการทำพิธีอย่างเคร่งครัดตามแบบอย่างที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ (ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน-ปลายเดือนพฤศจิกายน)
ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้ที่ประเทศญี่ปุ่น
ส่วนสถานที่สุดท้ายที่จะมาแนะนำให้ไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันก็เป็นทางตอนใต้สุดของญี่ปุ่น ในภูมิภาคคิวชู ที่บริเวณ "น้ำพุร้อนอุนเซ็น" ซึ่งในแถบนี้มีชื่อเสียงมากในฐานะที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ และในฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีต้นไม้ที่ใบเปลี่ยนสีถึง 150 กว่าชนิด หากมองดูไกลๆอาจจะนึกว่าเป็นดอกไม้หลากสีได้ (ชมได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน)


*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

สอบถามรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นได้ที่ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีทั้งข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งเอกสาร แผนที่ของสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งแนะนำที่พักในญี่ปุ่น โทรศัพท์ 0-2233-5108, 0-2235-3321

กำลังโหลดความคิดเห็น