โดย : ปิ่น บุตรี
“แห้ว” (พืชหัวกินได้)มันอยู่ของมันดีๆ จู่ๆก็มีคนพยายามไปเปลี่ยนชื่อเป็น“สมหวัง”(คล้ายกับ”เหี้ย”มันอยู่ของมันดีๆแต่จู่มีใครบางคนพยายามไปเปลี่ยนชื่อเป็น“วรนุส”) เรื่องนี้นัยว่าคงจะเพื่อเป็นการแก้เคล็ดสแลงของแห้วที่แปลว่า“ไม่สมหวัง”แต่สแลงก็คือสแลง คำจริงก็คือคำจริง ไม่เช่นนั้นเราคงต้องเปลี่ยนคำจริงตามสแลงอีกมากมาย
สำหรับที่"อุทยานแห่งชาตินาแห้ว"นี่ก็เช่นกัน เมื่อปี 49 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น"อุทยานภูสวนทราย" แต่เหตุผลที่เปลี่ยนนั้นไม่ได้มาจากความสมหวังหรือไม่สมหวัง ของคำว่านาแห้ว แต่เพราะต้องการเน้นให้เห็นถึงความโดดเด่นของภูสวนทรายภูเขาสำคัญในพื้นที่อุทยานฯ อีกทั้งยังเพื่อให้สอดรับกับแหล่งท่องเที่ยวประเภทภูเขาในจังหวัดเลยที่เดิมนั้นมีภูดังๆอยู่ 3 ภูด้วยกัน คือ ภูกระดึง ภูหลวง และภูเรือ
ภูสวนทราย ปัจจุบันจึงเป็นภูที่ 4 น้องคนล่าสุด ที่ถือว่ามีสิ่งน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งทางอุทยานฯได้ประมวลแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆในพื้นที่ออกมาเป็นคำขวัญนำเที่ยว คือ ...เย็นสบาย 6 น้ำตก...หลากชนิดนก ค้อป่าใหญ่...สูงเสียดฟ้า ตีนสวนทราย...ตระการตา ภูไทย-ลาว...
ทีนี้เรามาดูคำขยายความคร่าวๆของคำขวัญนี้กัน
เย็นสบาย 6 น้ำตก...ในพื้นที่ภูสวนทรายมีน้ำตกน่าสนใจถึง 6 แห่งด้วยกัน คือ น้ำตกคิ้ง เป็นแก่งหิน 2 ชั้น สูงราว 5 เมตร น้ำตกวังตาด เป็นแผ่นหินกว้างรองรับการไหลกระทบตกของสายน้ำ มี 2 ชั้น สูงราว 20 เมตร น้ำตกช้างตก เป็นโขดหินสี่เหลี่ยมวางซ้อนกัน มี 2 ชั้น สูงราว 25 เมตร น้ำตกผาค้อ มีโขดหินขนาบ 2 ข้างของน้ำตก มีชั้นเดียว สูงราว 2 เมตร กว้างราว 20 เมตร น้ำตกตาดภา มี 2 ชั้น สูงถึง 60 เมตร กว้างราว 20 เมตร และน้ำตกลำดับสุดท้ายที่ถือเป็นน้ำตกไฮไลท์ ส่วนจะมีชื่อเรียงเสียงไร มีลักษณะเป็นอย่างไร ผมขออุบไว้ก่อน เอาไว้อธิบายทีเดียวตอนเขียนถึงน้ำตกแห่งนี้
หลากชนิดนก ค้อป่าใหญ่...นกที่ภูสวนทรายมีกว่า 200 ชนิด 36 วงศ์ มีทั้งนกประจำถิ่น นกอพยพ ถือเป็นแหล่งดูนกชั้นดีแห่งหนึ่ง นกที่เด่นๆ คือ นกมุ่นรกคอแดง นกพญาปากกว้างอกสีเงิน นกกะลิงเขียดสีเทา นกขุนแผนหัวแดง และนกปากนกแก้วหางสั้น เป็นนกประจำถิ่นหายากถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานฯ ส่วนต้นค้อนั้นเป็นพืชในตระกูลปาล์ม มีใบกลมเป็นแฉกๆคล้ายพัด ที่ภูสวนทรายสามารถดูต้นค้อได้ง่ายๆบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
สูงเสียดฟ้า ตีนสวนทราย...ตีนสวนทรายมาจากภูตีนสวนทราย มีเนิน 1408 เป็นจุดสูงสุดของอุทยานฯ ณ ระดับความสูงตามชื่อ คือ 1,408 เมตรจากกระดับน้ำทะเล ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดกางเต็นท์ที่สูงสุดในภาคอีสาน บนเนิน 1408 มองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์และทะเลภูเขาอันกว้างไกล ขณะที่ยามเช้าวันฟ้าเป็นใจจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันงดงาม อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์เพราะเคยเป็นฐานที่มั่นของทหารไทยศึกยุทธภูมิร่มเกล้า ปี พ.ศ. 2530 ปัจจุบันปรากฏร่องรอยของหลุมหลบภัย บังเกอร์ ให้ระลึกถึงกลิ่นอายสงครามในอดีต
ตระการตา ภูไทย-ลาว...ภูสวนทรายมีจุดชมวิว 2 ประเทศ ไทย-ลาว ที่น่าสนใจยิ่ง สามารถชมได้ที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายที่ 1(ภูหัวห้อม) ซึ่งเมื่อมองลงไปจะเห็นทิว(ภู)เขาของไทย-ลาว ขึ้นเหลื่อมสลับกันไปตามภูมิประเทศ อาทิ ภูภ้ง เนินม้าศึก ภูพรานนอน ในฝั่งไทย และ ภูกระดิง ภูกงเดิ่น ภูหวด ภูด้ง ภูผาวี ในฝั่งลาว รวมถึง ภูสอยดาว ภู 2 แผ่นดินไทย-ลาว ที่เห็นไกลๆอยู่ลิบๆ
และนั่นก็คือแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆชูโรงตามคำขวัญนำเที่ยวอุทยานฯ ซึ่งนอกเหนือจากนี้ภูสวนทรายยังมีสิ่งน่าสนใจอย่างเช่น ก่องเบิก จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอันสวยงาม ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นจุดแรกที่ต้องบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขาในการขึ้นไปสักการะหินสี่ทิศ เนิน 1255 จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกอันสวยงาม และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรักษา นักรบกล้าอีสาน หินสี่ทิศ หินทรายขนาดใหญ่ 4 ก้อน วางเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคล้ายกับพิพัทธสีมาตามมุมโบสถ์ 4 ด้าน ตาดเลียงผา โขดหินใหญ่สูงราว 11 เมตร ยามหน้าฝนมีสายน้ำจากน้ำซับไหลลดหลั่นกันลงมา เคยเป็นที่อยู่ของเลียงผามาก่อน
นอกจากนี้ภูสวนทรายยังมีเส้นทางดูนก 4 เส้นทางให้เลือกเที่ยว ได้แก่ เส้นทางฐาน ตชด. เก่า ประมาณ 2.7 กม. เส้นทางถนนลาดยาง ประมาณ 3 กม. เส้นทางเนินสำนึกบาป ประมาณ 2.5 กม. เส้นทางหน่วยพิทักษ์ฯภูสวนทรายที่ 1 (ภูหัวห้อม) ประมาณ 2 กม. อีกทั้งยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ระหว่างทางมีพืชพันธุ์ไม้หลากหลายให้ศึกษา โดยมี กระโถนพระฤๅษีเป็นไฮไลท์(ดอกบานช่วง ต.ค.-ก.พ.)และกล้วยไม้ป่าตามฤดูกาล
อ้อ!!! ภูสวนทรายยังมีของดีอีกอย่างนั่นคือ “เต่าปูลู”ที่หลายคนชอบเรียกกลับกันเป็น“เต่าลู(รู)ปู” เต่าชนิดนี้เป็นสัตว์คุ้มครองจำพวกสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์ มีลักษณะแปลกกว่าเต่าทั่วไปมาก คือมีหัวโต ปากงองุ้มแหลมคล้ายปากนกแก้ว หางยาว เป็นเต่าที่ไม่สามารถหดหัวและขาเข้าไปซ่อนอยู่ในกระดองได้ แต่มีความสามารถในการปีนป่ายไต่โขดหิน ต้นไม้ได้อย่างดี เพราะมีขาแข็งแรง มีเล็บยาวแหลม เต่าปูลูชอบอาศัยอยู่ตามภูเขาสูงใกล้น้ำตกที่มีน้ำ(สะอาด)ไหลผ่านคตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามถ้าจะหาชมเต่าปูลูตัวเป็นๆตามธรรมชาติ ในป่า แถวโขดหิน หรือแถวธารน้ำตก โอกาสเจอเต่ามีน้อยมากนอกจากฟลุ๊คจริงๆ ด้วยเหตุนี้ทางอุทยานฯจึงนำเต่าที่ยึดได้จากชาวบ้านที่แอบเข้ามาลักลอบจับเต่าไปขาย ไปเลี้ยง ไปปรุงยา มาเลี้ยงไว้หน้าที่ทำการฯให้ผู้สนใจได้ชมตัวเป็นๆและศึกษาในพฤติกรรมของมัน
จากตัวอย่างน้ำจิ้มที่กล่าวมา แหล่งท่องเที่ยวในภูสวนทราย ภูน้องที่ 4 ของเมืองเลยถือว่ามีเสน่ห์ไม่เบา ซึ่งเมื่อกลางฤดูฝนที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวเมืองเลยและไปนอนบนภูแห่งนี้หนึ่งคืน บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นสวยงามน่าพักผ่อนไม่น้อย(น่าหลายๆคืนแต่เวลาไม่อำนวย) ที่สำคัญคืออุทยานฯแห่งนี้มีน้ำตก 2 แผ่นดินไทย-ลาว ที่ตัวน้ำตกไหลผ่ากลางแนวรอยต่อของ 2 ประเทศ เกิดเป็นน้ำตกมิตรภาพที่น่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
น้ำตกแห่งนี้มีนามว่า“น้ำตกตาดเหือง” น้ำตกลำดับที่ 6 ในคำขวัญนำเที่ยวเย็นสบาย 6 น้ำตกซึ่งผมกั๊กไว้ในเบื้องต้น
น้ำตกตาดเหือง เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของอุทยานฯ อยู่ห่างจากที่ทำการฯประมาณ 14 กม. ด้วยความที่เป็นน้ำตกรอยต่อชายแดนไทย-ลาว ผมจึงติดต่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯนำทางไปชมน้ำตกเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจ
จากจุดจอดรถเดินป่าลงเขาแบบสบายๆไปประมาณ 2 กม. ก็ถึงยังตัวน้ำตกตาดเหือง น้ำตกขนาดกลาง มี 3 ชั้น สูงประมาณ 50 เมตร กว้างราว 25 เมตร ต้นน้ำตกมาจากลำน้ำเหืองเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว
น้ำตกตาดเหือง มีสายน้ำไหลชุ่มฉ่ำคร่อม 2 แผ่นดินไทยลาว โดยถ้ามองเข้าไปในตัวน้ำตก ไทยจะอยู่ฝั่งขวา ลาวอยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งถ้าพี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯไม่บอกจะไม่รู้เลยว่านี่คือรอยต่อของ 2 ประเทศ เพราะมันไม่มีลวดหนาม ไม่มีหมุด ไม่มีอะไรบอก มีเพียงสายน้ำสีขาวไหลตกกระทบแอ่งเบื้องล่างอย่างสวยงาม
งานนี้ผมเดินข้ามไปข้ามมาในพื้นที่ 2 แผ่นดินอย่างสบายใจเฉิบ เพราะนานๆจะมีโอกาสข้ามพรมแดนประเทศแบบไม่ต้องผ่านตม. ไม่ต้องมีพาสปอร์ต ใบผ่านแดน แถมยังไม่มีทหารมายืนคุมเชิง ไม่ต้องเสียวสันหลังว่า จะมีการไล่จับ ไล่กลับประเทศ หรือมีกับระเบิดตูมตามเป็นของที่ระลึกแต่อย่างใด นับเป็นเสน่ห์อย่างยิ่งยวดของน้ำตกแห่งนี้ที่น่าสนใจยิ่ง
แต่ประทานโทษ หลังชื่นชมสายน้ำตกจนหนำใจแล้ว เดินกลับเข้ามายืนในฝั่งไทย สายตาเหลือบไปเห็นป้าย "ระวังลื่น" ที่ติดเตือนเหมือนน้ำตกทั่วๆไป แต่ข้างล่างป้ายระวังลื่นนี่สิมีข้อความว่า "ห้ามข้าม ฝั่งตรงข้ามเป็นเขต สปป.ลาว อาจถูกทหาร สปป.ลาว จับ-ปรับ"
โอ้...ปลาร้าไหแตก ปลาแดกไหระเบิด นี่เราเล่นเดินข้ามไป ข้ามมา แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วนี่จะมีทหารลาวแอบซุ่มคอยปรับ –จับ หรือเปล่า แต่ไม่เป็นไรมีพี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯอยู่ด้วย เพราะแกนี่แหละตัวพ่อ พาเดินข้ามไปแบบไม่อนาทรร้อนใจ
ดูเหมือนพี่เจ้าหน้าที่ฯจะเดาใจผมออก รีบอธิบายว่า ป้ายที่ติดไว้นั้น เตือนพวกที่แอบลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ เพราะเคยมีกรณีชาวบ้านหลงเขตเดินเข้าไปล่าสัตว์ใน สปป.ลาว จึงถูกจับปรับ แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ไม่มีอาวุธ มาเที่ยวโดยมีเจ้าหน้าที่นำทางก็สบายใจได้ถึงความปลอดภัยหายห่วง เนื่องจากทางการไทย-ลาว ไม่ห้ามคนเข้ามาเที่ยวในน้ำตกแห่งนี้
เรื่องนี้ฟังแล้วสอดคล้องกับชื่อน้ำตกมิตรภาพดี ยกเว้นวันดีคืนดีที่เกิดมีกรณีพิพาทชายแดนไทย-ลาวในบริเวณแถบนี้นั่นแหละ การเที่ยวน้ำตกจึงสุ่มเสี่ยงหรือถึงขั้นไม่อาจเที่ยวได้ แต่ถ้าเหตุการณ์ปกติ น้ำตกตาดเหืองก็สามารถเที่ยวอย่างปลอดภัยไร้กังวล
ฉะนั้นผมจึงภาวนาขอให้ผู้บริหารประเทศทั้งสอง คงมิตรภาพไทย-ลาวไว้ให้ผูกผันยั่งยืนนาน เพื่อความสงบสุขของประชาชน 2 ประเทศ อย่าได้เล่นเกมการเมืองระหว่างประเทศจนเกิดเหตุระหองระแหง ไปจนถึงขั้นปะทะกัน เสียเลือดเนื้อ เพราะการสู้รบนั้นไม่เป็นผลดีต่อมวลมนุษยชาติด้วยประการทั้งปวง
*****************************************
อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย(นาแห้ว)ตั้งอยู่ที่ ต.แสงภา อ.นาแห้ว จ.เลย โทร. 0-4280-7616
“แห้ว” (พืชหัวกินได้)มันอยู่ของมันดีๆ จู่ๆก็มีคนพยายามไปเปลี่ยนชื่อเป็น“สมหวัง”(คล้ายกับ”เหี้ย”มันอยู่ของมันดีๆแต่จู่มีใครบางคนพยายามไปเปลี่ยนชื่อเป็น“วรนุส”) เรื่องนี้นัยว่าคงจะเพื่อเป็นการแก้เคล็ดสแลงของแห้วที่แปลว่า“ไม่สมหวัง”แต่สแลงก็คือสแลง คำจริงก็คือคำจริง ไม่เช่นนั้นเราคงต้องเปลี่ยนคำจริงตามสแลงอีกมากมาย
สำหรับที่"อุทยานแห่งชาตินาแห้ว"นี่ก็เช่นกัน เมื่อปี 49 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น"อุทยานภูสวนทราย" แต่เหตุผลที่เปลี่ยนนั้นไม่ได้มาจากความสมหวังหรือไม่สมหวัง ของคำว่านาแห้ว แต่เพราะต้องการเน้นให้เห็นถึงความโดดเด่นของภูสวนทรายภูเขาสำคัญในพื้นที่อุทยานฯ อีกทั้งยังเพื่อให้สอดรับกับแหล่งท่องเที่ยวประเภทภูเขาในจังหวัดเลยที่เดิมนั้นมีภูดังๆอยู่ 3 ภูด้วยกัน คือ ภูกระดึง ภูหลวง และภูเรือ
ภูสวนทราย ปัจจุบันจึงเป็นภูที่ 4 น้องคนล่าสุด ที่ถือว่ามีสิ่งน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งทางอุทยานฯได้ประมวลแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆในพื้นที่ออกมาเป็นคำขวัญนำเที่ยว คือ ...เย็นสบาย 6 น้ำตก...หลากชนิดนก ค้อป่าใหญ่...สูงเสียดฟ้า ตีนสวนทราย...ตระการตา ภูไทย-ลาว...
ทีนี้เรามาดูคำขยายความคร่าวๆของคำขวัญนี้กัน
เย็นสบาย 6 น้ำตก...ในพื้นที่ภูสวนทรายมีน้ำตกน่าสนใจถึง 6 แห่งด้วยกัน คือ น้ำตกคิ้ง เป็นแก่งหิน 2 ชั้น สูงราว 5 เมตร น้ำตกวังตาด เป็นแผ่นหินกว้างรองรับการไหลกระทบตกของสายน้ำ มี 2 ชั้น สูงราว 20 เมตร น้ำตกช้างตก เป็นโขดหินสี่เหลี่ยมวางซ้อนกัน มี 2 ชั้น สูงราว 25 เมตร น้ำตกผาค้อ มีโขดหินขนาบ 2 ข้างของน้ำตก มีชั้นเดียว สูงราว 2 เมตร กว้างราว 20 เมตร น้ำตกตาดภา มี 2 ชั้น สูงถึง 60 เมตร กว้างราว 20 เมตร และน้ำตกลำดับสุดท้ายที่ถือเป็นน้ำตกไฮไลท์ ส่วนจะมีชื่อเรียงเสียงไร มีลักษณะเป็นอย่างไร ผมขออุบไว้ก่อน เอาไว้อธิบายทีเดียวตอนเขียนถึงน้ำตกแห่งนี้
หลากชนิดนก ค้อป่าใหญ่...นกที่ภูสวนทรายมีกว่า 200 ชนิด 36 วงศ์ มีทั้งนกประจำถิ่น นกอพยพ ถือเป็นแหล่งดูนกชั้นดีแห่งหนึ่ง นกที่เด่นๆ คือ นกมุ่นรกคอแดง นกพญาปากกว้างอกสีเงิน นกกะลิงเขียดสีเทา นกขุนแผนหัวแดง และนกปากนกแก้วหางสั้น เป็นนกประจำถิ่นหายากถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานฯ ส่วนต้นค้อนั้นเป็นพืชในตระกูลปาล์ม มีใบกลมเป็นแฉกๆคล้ายพัด ที่ภูสวนทรายสามารถดูต้นค้อได้ง่ายๆบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
สูงเสียดฟ้า ตีนสวนทราย...ตีนสวนทรายมาจากภูตีนสวนทราย มีเนิน 1408 เป็นจุดสูงสุดของอุทยานฯ ณ ระดับความสูงตามชื่อ คือ 1,408 เมตรจากกระดับน้ำทะเล ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดกางเต็นท์ที่สูงสุดในภาคอีสาน บนเนิน 1408 มองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์และทะเลภูเขาอันกว้างไกล ขณะที่ยามเช้าวันฟ้าเป็นใจจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันงดงาม อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์เพราะเคยเป็นฐานที่มั่นของทหารไทยศึกยุทธภูมิร่มเกล้า ปี พ.ศ. 2530 ปัจจุบันปรากฏร่องรอยของหลุมหลบภัย บังเกอร์ ให้ระลึกถึงกลิ่นอายสงครามในอดีต
ตระการตา ภูไทย-ลาว...ภูสวนทรายมีจุดชมวิว 2 ประเทศ ไทย-ลาว ที่น่าสนใจยิ่ง สามารถชมได้ที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายที่ 1(ภูหัวห้อม) ซึ่งเมื่อมองลงไปจะเห็นทิว(ภู)เขาของไทย-ลาว ขึ้นเหลื่อมสลับกันไปตามภูมิประเทศ อาทิ ภูภ้ง เนินม้าศึก ภูพรานนอน ในฝั่งไทย และ ภูกระดิง ภูกงเดิ่น ภูหวด ภูด้ง ภูผาวี ในฝั่งลาว รวมถึง ภูสอยดาว ภู 2 แผ่นดินไทย-ลาว ที่เห็นไกลๆอยู่ลิบๆ
และนั่นก็คือแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆชูโรงตามคำขวัญนำเที่ยวอุทยานฯ ซึ่งนอกเหนือจากนี้ภูสวนทรายยังมีสิ่งน่าสนใจอย่างเช่น ก่องเบิก จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอันสวยงาม ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นจุดแรกที่ต้องบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขาในการขึ้นไปสักการะหินสี่ทิศ เนิน 1255 จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกอันสวยงาม และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรักษา นักรบกล้าอีสาน หินสี่ทิศ หินทรายขนาดใหญ่ 4 ก้อน วางเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคล้ายกับพิพัทธสีมาตามมุมโบสถ์ 4 ด้าน ตาดเลียงผา โขดหินใหญ่สูงราว 11 เมตร ยามหน้าฝนมีสายน้ำจากน้ำซับไหลลดหลั่นกันลงมา เคยเป็นที่อยู่ของเลียงผามาก่อน
นอกจากนี้ภูสวนทรายยังมีเส้นทางดูนก 4 เส้นทางให้เลือกเที่ยว ได้แก่ เส้นทางฐาน ตชด. เก่า ประมาณ 2.7 กม. เส้นทางถนนลาดยาง ประมาณ 3 กม. เส้นทางเนินสำนึกบาป ประมาณ 2.5 กม. เส้นทางหน่วยพิทักษ์ฯภูสวนทรายที่ 1 (ภูหัวห้อม) ประมาณ 2 กม. อีกทั้งยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ระหว่างทางมีพืชพันธุ์ไม้หลากหลายให้ศึกษา โดยมี กระโถนพระฤๅษีเป็นไฮไลท์(ดอกบานช่วง ต.ค.-ก.พ.)และกล้วยไม้ป่าตามฤดูกาล
อ้อ!!! ภูสวนทรายยังมีของดีอีกอย่างนั่นคือ “เต่าปูลู”ที่หลายคนชอบเรียกกลับกันเป็น“เต่าลู(รู)ปู” เต่าชนิดนี้เป็นสัตว์คุ้มครองจำพวกสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์ มีลักษณะแปลกกว่าเต่าทั่วไปมาก คือมีหัวโต ปากงองุ้มแหลมคล้ายปากนกแก้ว หางยาว เป็นเต่าที่ไม่สามารถหดหัวและขาเข้าไปซ่อนอยู่ในกระดองได้ แต่มีความสามารถในการปีนป่ายไต่โขดหิน ต้นไม้ได้อย่างดี เพราะมีขาแข็งแรง มีเล็บยาวแหลม เต่าปูลูชอบอาศัยอยู่ตามภูเขาสูงใกล้น้ำตกที่มีน้ำ(สะอาด)ไหลผ่านคตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามถ้าจะหาชมเต่าปูลูตัวเป็นๆตามธรรมชาติ ในป่า แถวโขดหิน หรือแถวธารน้ำตก โอกาสเจอเต่ามีน้อยมากนอกจากฟลุ๊คจริงๆ ด้วยเหตุนี้ทางอุทยานฯจึงนำเต่าที่ยึดได้จากชาวบ้านที่แอบเข้ามาลักลอบจับเต่าไปขาย ไปเลี้ยง ไปปรุงยา มาเลี้ยงไว้หน้าที่ทำการฯให้ผู้สนใจได้ชมตัวเป็นๆและศึกษาในพฤติกรรมของมัน
จากตัวอย่างน้ำจิ้มที่กล่าวมา แหล่งท่องเที่ยวในภูสวนทราย ภูน้องที่ 4 ของเมืองเลยถือว่ามีเสน่ห์ไม่เบา ซึ่งเมื่อกลางฤดูฝนที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวเมืองเลยและไปนอนบนภูแห่งนี้หนึ่งคืน บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นสวยงามน่าพักผ่อนไม่น้อย(น่าหลายๆคืนแต่เวลาไม่อำนวย) ที่สำคัญคืออุทยานฯแห่งนี้มีน้ำตก 2 แผ่นดินไทย-ลาว ที่ตัวน้ำตกไหลผ่ากลางแนวรอยต่อของ 2 ประเทศ เกิดเป็นน้ำตกมิตรภาพที่น่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
น้ำตกแห่งนี้มีนามว่า“น้ำตกตาดเหือง” น้ำตกลำดับที่ 6 ในคำขวัญนำเที่ยวเย็นสบาย 6 น้ำตกซึ่งผมกั๊กไว้ในเบื้องต้น
น้ำตกตาดเหือง เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของอุทยานฯ อยู่ห่างจากที่ทำการฯประมาณ 14 กม. ด้วยความที่เป็นน้ำตกรอยต่อชายแดนไทย-ลาว ผมจึงติดต่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯนำทางไปชมน้ำตกเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจ
จากจุดจอดรถเดินป่าลงเขาแบบสบายๆไปประมาณ 2 กม. ก็ถึงยังตัวน้ำตกตาดเหือง น้ำตกขนาดกลาง มี 3 ชั้น สูงประมาณ 50 เมตร กว้างราว 25 เมตร ต้นน้ำตกมาจากลำน้ำเหืองเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว
น้ำตกตาดเหือง มีสายน้ำไหลชุ่มฉ่ำคร่อม 2 แผ่นดินไทยลาว โดยถ้ามองเข้าไปในตัวน้ำตก ไทยจะอยู่ฝั่งขวา ลาวอยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งถ้าพี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯไม่บอกจะไม่รู้เลยว่านี่คือรอยต่อของ 2 ประเทศ เพราะมันไม่มีลวดหนาม ไม่มีหมุด ไม่มีอะไรบอก มีเพียงสายน้ำสีขาวไหลตกกระทบแอ่งเบื้องล่างอย่างสวยงาม
งานนี้ผมเดินข้ามไปข้ามมาในพื้นที่ 2 แผ่นดินอย่างสบายใจเฉิบ เพราะนานๆจะมีโอกาสข้ามพรมแดนประเทศแบบไม่ต้องผ่านตม. ไม่ต้องมีพาสปอร์ต ใบผ่านแดน แถมยังไม่มีทหารมายืนคุมเชิง ไม่ต้องเสียวสันหลังว่า จะมีการไล่จับ ไล่กลับประเทศ หรือมีกับระเบิดตูมตามเป็นของที่ระลึกแต่อย่างใด นับเป็นเสน่ห์อย่างยิ่งยวดของน้ำตกแห่งนี้ที่น่าสนใจยิ่ง
แต่ประทานโทษ หลังชื่นชมสายน้ำตกจนหนำใจแล้ว เดินกลับเข้ามายืนในฝั่งไทย สายตาเหลือบไปเห็นป้าย "ระวังลื่น" ที่ติดเตือนเหมือนน้ำตกทั่วๆไป แต่ข้างล่างป้ายระวังลื่นนี่สิมีข้อความว่า "ห้ามข้าม ฝั่งตรงข้ามเป็นเขต สปป.ลาว อาจถูกทหาร สปป.ลาว จับ-ปรับ"
โอ้...ปลาร้าไหแตก ปลาแดกไหระเบิด นี่เราเล่นเดินข้ามไป ข้ามมา แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วนี่จะมีทหารลาวแอบซุ่มคอยปรับ –จับ หรือเปล่า แต่ไม่เป็นไรมีพี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯอยู่ด้วย เพราะแกนี่แหละตัวพ่อ พาเดินข้ามไปแบบไม่อนาทรร้อนใจ
ดูเหมือนพี่เจ้าหน้าที่ฯจะเดาใจผมออก รีบอธิบายว่า ป้ายที่ติดไว้นั้น เตือนพวกที่แอบลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ เพราะเคยมีกรณีชาวบ้านหลงเขตเดินเข้าไปล่าสัตว์ใน สปป.ลาว จึงถูกจับปรับ แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ไม่มีอาวุธ มาเที่ยวโดยมีเจ้าหน้าที่นำทางก็สบายใจได้ถึงความปลอดภัยหายห่วง เนื่องจากทางการไทย-ลาว ไม่ห้ามคนเข้ามาเที่ยวในน้ำตกแห่งนี้
เรื่องนี้ฟังแล้วสอดคล้องกับชื่อน้ำตกมิตรภาพดี ยกเว้นวันดีคืนดีที่เกิดมีกรณีพิพาทชายแดนไทย-ลาวในบริเวณแถบนี้นั่นแหละ การเที่ยวน้ำตกจึงสุ่มเสี่ยงหรือถึงขั้นไม่อาจเที่ยวได้ แต่ถ้าเหตุการณ์ปกติ น้ำตกตาดเหืองก็สามารถเที่ยวอย่างปลอดภัยไร้กังวล
ฉะนั้นผมจึงภาวนาขอให้ผู้บริหารประเทศทั้งสอง คงมิตรภาพไทย-ลาวไว้ให้ผูกผันยั่งยืนนาน เพื่อความสงบสุขของประชาชน 2 ประเทศ อย่าได้เล่นเกมการเมืองระหว่างประเทศจนเกิดเหตุระหองระแหง ไปจนถึงขั้นปะทะกัน เสียเลือดเนื้อ เพราะการสู้รบนั้นไม่เป็นผลดีต่อมวลมนุษยชาติด้วยประการทั้งปวง
*****************************************
อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย(นาแห้ว)ตั้งอยู่ที่ ต.แสงภา อ.นาแห้ว จ.เลย โทร. 0-4280-7616