โดย : หมวยเกี๊ยะ
“ฮ่องกง” (Hongkong) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวต่างประเทศโซนเอเชีย ที่ฉันได้เดินทางท่องเที่ยวมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกถึงความเบื่อหน่าย!!
เพราะว่าฮ่องกงอยู่ใกล้เมืองไทย เดินทางสะดวกสบาย ใช้เวลาในการเดินทางไม่มากนัก อีกทั้งฮ่องกงมักจะมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ให้บรรดาขาเที่ยวได้เลือกเที่ยวได้ตามอำเภอใจ รวมถึงขาชอปปิ้งทั้งหลายต่างชื่นชอบฮ่องกง เพราะที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชั้นนำ และราคาก็ไม่แพงพอสู้ไหว ยิ่งในช่วงนี้ฮ่องกงกำลังอยู่ในช่วงซัมเมอร์เซลล์ สินค้าลดกระหน่ำทั่วทั้งเกาะ เป็นใครจะอดใจไหวที่จะไม่ไปเยือนฮ่องกงกัน
ฉันนั้นรีบแพ็คเสื้อผ้าใส่กระเป๋า แล้วเหิรฟ้าสู่เกาะฮ่องกง ด้วยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิค ที่ช่างสะดวกสบาย ราว 2 ชั่วโมง ฉันก็มายืนยังเกาะฮ่องกง และพร้อมที่ตะออกตะลอนเที่ยวให้ทั่วเกาะฮ่องกงกันทันที เพราะว่าได้แอบงีบกลับบนเครื่องชารต์พลังกายมาเต็มที่ ทริปนี้เที่ยวแบบถึงไหนถึงกัน
แหล่งท่องเที่ยวที่แรกที่ฉันเดินทางไปเยือนนั้นก็คือ “1881 Heritage” ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ที่มีความน่าสนใจมากเลย เพราะที่เป็นมดรกทางสถาปัตยกรรมอันสวยงามที่หลงเหลืออยู่ และทางฮ่องกงก็ได้ทำการอนุรักษ์ บูรณซ่อมแซม ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าชม
1881 เฮอริเทจ นั้นเป็นกลุ่มอาคารเก่าแก่ที่แต่เดิมเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของตำรวจน้ำของฮ่องกงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2423 ถึง พ.ศ. 2539 ตัวอาคารสถานีตำรวจน้ำสร้างด้วยหินแกรนิตสไตล์วิคตอเรียนอันงดงาม ภายในจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับสถานตำรวจน้ำ และมีข้าวของเครื่องใช้ของเก่าจัดแสดงอยู่ มีปืนใหญ่ยิงกระสุน
มีช่องประตูกลบนพื้นซึ่งยังความสมบูรณ์ดังเช่นในอดีตเป็นทางเข้าสู่ระบบบำรุงรักษาและระบบระบายอากาศใต้ดิน พื้นไม้ชั้นล่างสุดของอาคารหลักได้ถูกยกขึ้นเพื่อช่วยในเรื่องการระบายอากาศ มีหน้าต่างยุทธภัณฑ์สร้างขึ้นในห้องเก็บอาวุธ เพื่อใช้เป็นช่องทางการรับ-ส่งอาวุธตามกระบวนการของสำนักงานตำรวจน้ำของฮ่องกง และยังมีห้องขังนักโทษถึง 3 ห้องซึ่งได้รับการคงไว้ในสภาพเดิม
และยังมีอาคารเรือนไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในสภาพเดิมโดยใช้บานประตูไม้บานเดิมตั้งแต่ในอดีต มีคอกม้าที่ยังสภาพไว้เหมือนเดิม มีอาคารบอกเวลาหลังสีขาวตั้งอยู่บนดาดฟ้าอาคาร โดยจะมีผู้ยกลูกบอลขึ้นทุกวันและยกลงในเวลา 13.00 น. (ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ) เพื่อบอกเวลาให้กับเรือที่อยู่ในทะเลโดยดูจากการตกของลูกบอลและตั้งเวลาในเรือตามนั้น ถัดจากหอลูกบอลบอกเวลาคือเสากระโดงเรือซึ่งจะแสดงสัญญาณเมื่อมีไต้ฝุ่นเข้ามา
นอกจากนี้ที่นี่ยังถูกจัดให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและการชอปปิ้งแห่งใหม่ของฮ่องกงในชื่อว่า 1881 เฮอริเทจ ซึ่งมีร้านค้าขายสินค้าระดับพรีเมี่ยมให้เลือกซื้อหากันมากมาย
หลังจากได้ดูมรดกทางสถาปัตกรรมกันแล้ว คราวนี้ฉันขอไปเที่ยวที่ “นองปิง 360” (Ngong Ping 360) หรือกระเช้านองปิงลอยฟ้า 360 องศา เป็นเคเบิ้ลคาร์ที่มีระยะทางยาวกว่า 5.7 กม. มี 3 สถานี เริ่มต้นเส้นทางจากสถานีตงช้ง บนเกาะหล่านเทา ข้ามอ่าวตงช้ง ไปสิ้นสุดที่หมู่บ้านนองปิง ตัวกระเช้ามีกระจกอะคริลิคแข็งแกร่งรอบด้านสามารถมองวิวทิวทัศน์ได้ทั่วถึง 360 องศา ไม่ได้ติดแอร์ แต่มีช่องลมให้ลมเข้าเย็นสบาย มีกระเช้าให้เลือกนั่ง 2 แบบ คือกระเช้าแบบธรรมดา และกระเช้าคริสตัลที่พื้นด้านล่างกระเช้าจะกรุด้วยกระใสมองเห็นวิวด้านล่างได้
ฉันเลือกนั่งกระเช้าแบบคริสตัล ที่นั่งแล้วให้ความรู้สึกตื่นเต้นและเสียวกับความสูงของทัศนียภาพรอบๆ และใต้เท้าดีไม่น้อยเลย การที่นั่งกระเข้าลอยฟ้าจะได้ชมทิวทัศน์ในมุมสูงทั้งหมดทั่วเกาลันเตา เห็นอ่าวตงช้ง มองเห็นสนามบิน Check Lap Kokในมุมสูง ดูแล้วเพลินตา เพลินใจ
กระเช้าลอยฟ้าใช้เวลา 25 นาที ก็พามาลงที่ปลายทางของสถานีที่หมู่บ้านนองปิง ( Ngong Ping Village ) แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งหนึ่งของฮ่องกง ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ตามแบบสถาปัตยกรรมจีน ภายในหมู่บ้านมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารฟาสต์ ฟู๊ด ร้านสะดวกซื้อ และมีโรงภาพยนตร์ 3 มิติ เรื่องMonkey's Tale Theatre และมีหอพุทธประวัติ Walking with Buddha ให้ได้ชม และยังมีการแสดงต่างๆ ที่น่าชมอีก อย่างเช่นการแสดงตีกลองอันน่าตื่นตาตื่นใจ
เดินจากหมู่บ้านนองปิงตรงเข้าไปด้านใน จะพบกับ “วัดโป่หลิน" (Po Lin Monastery) หรือเรียกเป็นชื่อไทยได้ว่าวัดดอกบัวงาม เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่คนฮ่องกงนิยมมาไหว้ ชาวต่างชาติจะรู้จักกันดีในชื่อ Giant Buddha เพราะว่าที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสำริดปางประทับนั่งองค์ใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่กลางแจ้งให้เห็นชัดแต่ไกล มีความสูง 34 ม.หนัก 220 ตัน
ฉันขึ้นไปสักการะองค์พระ ด้วยการเดินผ่านบันไดเป็นร้อยขั้น เพื่อจะได้ยลโฉมพระองค์ใหญ่อย่างเต็มตา และได้ไหว้พระขอจนอิ่มใจแล้ว ก็ลาพระท่านลงมา เพราะว่าใกล้ๆ กันยังมี ทางเดินแห่งปรัชญา (Wisdom Path) ซึ่งมีแผ่นไม้สูงเกือบสิบเมตร ทั้งหมด 38 แผ่น ปักเรียงกันเป็นรูปเลขแปด (หมายถึงความไม่สิ้นสุด) บนแผ่นไม้สลักตัวอักษรภาษาจีน เป็นบทสวดเก่าแก่ของศาสนาพุทธ
หลังจากนั้นก็ได้เวลาขึ้นกระเช้ากลับกันแล้ว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ที่ฉันอยากไปมากที่สุดกำลังรออยู่ นั่นคือ “ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์” (Hong Kong Disneyland) ที่ที่ฉันจะได้กลายเป็นเด็ก เที่ยวแบบสนุกสนาน ให้เพลิดเพลิน กับเหล่าตัวการ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ที่น่ารัก และมีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นมากมาย โดยพื้นที่ในสวนสนุกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ แฟนตาซีแลนด์ ทูมอโรว์แลนด์ และแอดเวนเจอร์แลนด์ ซึ่งสวนสนุกแต่ละส่วนต่างก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป
อย่างที่ครั้งนี้ที่ฉันมาเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์ นี้ได้มีขบวนพาเหรดตัวใหม่ ชื่อว่า Stich Summer Dance Bash ซึ่งมีตัวการ์ตูนสัตว์ประหลาดหน้าตาแปลกๆ แต่ก็ดูน่ารักนามว่า สติทช์ เป็นตัวเอกชูโรง ที่จะออกมาวาดลวยลายการแดนซ์แบบประจาย แสนซนน่ารัก และให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกับขบวนพาเหรด ออกมาเต้นระบำพร้อมกับสติชท์อย่างสนุกสนาน
ก่อนที่จะออกไปเล่นเครื่องเล่นตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Stitch Encounter เป็นการได้เข้าไปนั่งเล่นพูดคุยกับสติชท์อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน และก็ยังมีเครื่องเล่นตัวอื่นๆ ให้เล่นอีกเพียบอาทิ ม้าหมุนซินเดอเรลล่า เครื่องเล่น Space Mountain และเครื่องเล่นช้างบินดัมโบ้ เรียกว่าได้กันแบบลืมแก่ไปเลย และก็ไม่พลาดที่จะชมขบวนพาเหรดของเหล่าตัวการ์ตูนจากดิสนีย์ที่น่ารัก ได้พบกับมิกกี้เม้าส์ มินนี่เม้าส์ โดนัลดั๊ก เดซี่ดั๊ก กรูฟฟี่ และเหล่าตัวการ์ตูนชื่อดังอีกมากมายที่มามอบความสุขให้แก่ทุกคน
แล้วก่อนที่ฉันจะอำลากลับบ้าน ก็ได้ปิดฉากการเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ด้วยการชมการแสดงพลุประกอบแสงสี เสียงอันตระการตางดงามยิ่งยามค่ำคืน ทำให้ฉันได้กลับไปนอนหลับฝันหวานอย่างมีความสุข ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะได้ไปตะลุยเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของฮ่องกงกันต่อ (ติดตามอ่านตอนต่อไป)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
"ฮ่องกง" เป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศจีน ฮ่องกงใช้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ซึ่งภาษาจีนกวางตุ้งเป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุด เงินที่ใช้เป็นเงิน ฮ่องกงดอลลาร์ (ฮ่องกงดอลลาร์ตกประมาณ 5 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) สายการบินจากกรุงเทพฯไปฮ่องกงมีอยู่หลายสายการบินด้วยกัน อาทิ สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค โทร.0-2263-0606 หรือ www.cathaypacific.co.th ผู้สนใจไปเที่ยวฮ่องกงสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวฮ่องกงประจำประเทศไทย โทร. 0-2636-8339 หรือเข้าไปที่www.discoverhongkong.com/thai
“ฮ่องกง” (Hongkong) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวต่างประเทศโซนเอเชีย ที่ฉันได้เดินทางท่องเที่ยวมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกถึงความเบื่อหน่าย!!
เพราะว่าฮ่องกงอยู่ใกล้เมืองไทย เดินทางสะดวกสบาย ใช้เวลาในการเดินทางไม่มากนัก อีกทั้งฮ่องกงมักจะมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ให้บรรดาขาเที่ยวได้เลือกเที่ยวได้ตามอำเภอใจ รวมถึงขาชอปปิ้งทั้งหลายต่างชื่นชอบฮ่องกง เพราะที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งรวมแฟชั่นชั้นนำ และราคาก็ไม่แพงพอสู้ไหว ยิ่งในช่วงนี้ฮ่องกงกำลังอยู่ในช่วงซัมเมอร์เซลล์ สินค้าลดกระหน่ำทั่วทั้งเกาะ เป็นใครจะอดใจไหวที่จะไม่ไปเยือนฮ่องกงกัน
ฉันนั้นรีบแพ็คเสื้อผ้าใส่กระเป๋า แล้วเหิรฟ้าสู่เกาะฮ่องกง ด้วยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิค ที่ช่างสะดวกสบาย ราว 2 ชั่วโมง ฉันก็มายืนยังเกาะฮ่องกง และพร้อมที่ตะออกตะลอนเที่ยวให้ทั่วเกาะฮ่องกงกันทันที เพราะว่าได้แอบงีบกลับบนเครื่องชารต์พลังกายมาเต็มที่ ทริปนี้เที่ยวแบบถึงไหนถึงกัน
แหล่งท่องเที่ยวที่แรกที่ฉันเดินทางไปเยือนนั้นก็คือ “1881 Heritage” ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ที่มีความน่าสนใจมากเลย เพราะที่เป็นมดรกทางสถาปัตยกรรมอันสวยงามที่หลงเหลืออยู่ และทางฮ่องกงก็ได้ทำการอนุรักษ์ บูรณซ่อมแซม ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าชม
1881 เฮอริเทจ นั้นเป็นกลุ่มอาคารเก่าแก่ที่แต่เดิมเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของตำรวจน้ำของฮ่องกงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2423 ถึง พ.ศ. 2539 ตัวอาคารสถานีตำรวจน้ำสร้างด้วยหินแกรนิตสไตล์วิคตอเรียนอันงดงาม ภายในจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับสถานตำรวจน้ำ และมีข้าวของเครื่องใช้ของเก่าจัดแสดงอยู่ มีปืนใหญ่ยิงกระสุน
มีช่องประตูกลบนพื้นซึ่งยังความสมบูรณ์ดังเช่นในอดีตเป็นทางเข้าสู่ระบบบำรุงรักษาและระบบระบายอากาศใต้ดิน พื้นไม้ชั้นล่างสุดของอาคารหลักได้ถูกยกขึ้นเพื่อช่วยในเรื่องการระบายอากาศ มีหน้าต่างยุทธภัณฑ์สร้างขึ้นในห้องเก็บอาวุธ เพื่อใช้เป็นช่องทางการรับ-ส่งอาวุธตามกระบวนการของสำนักงานตำรวจน้ำของฮ่องกง และยังมีห้องขังนักโทษถึง 3 ห้องซึ่งได้รับการคงไว้ในสภาพเดิม
และยังมีอาคารเรือนไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในสภาพเดิมโดยใช้บานประตูไม้บานเดิมตั้งแต่ในอดีต มีคอกม้าที่ยังสภาพไว้เหมือนเดิม มีอาคารบอกเวลาหลังสีขาวตั้งอยู่บนดาดฟ้าอาคาร โดยจะมีผู้ยกลูกบอลขึ้นทุกวันและยกลงในเวลา 13.00 น. (ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ) เพื่อบอกเวลาให้กับเรือที่อยู่ในทะเลโดยดูจากการตกของลูกบอลและตั้งเวลาในเรือตามนั้น ถัดจากหอลูกบอลบอกเวลาคือเสากระโดงเรือซึ่งจะแสดงสัญญาณเมื่อมีไต้ฝุ่นเข้ามา
นอกจากนี้ที่นี่ยังถูกจัดให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและการชอปปิ้งแห่งใหม่ของฮ่องกงในชื่อว่า 1881 เฮอริเทจ ซึ่งมีร้านค้าขายสินค้าระดับพรีเมี่ยมให้เลือกซื้อหากันมากมาย
หลังจากได้ดูมรดกทางสถาปัตกรรมกันแล้ว คราวนี้ฉันขอไปเที่ยวที่ “นองปิง 360” (Ngong Ping 360) หรือกระเช้านองปิงลอยฟ้า 360 องศา เป็นเคเบิ้ลคาร์ที่มีระยะทางยาวกว่า 5.7 กม. มี 3 สถานี เริ่มต้นเส้นทางจากสถานีตงช้ง บนเกาะหล่านเทา ข้ามอ่าวตงช้ง ไปสิ้นสุดที่หมู่บ้านนองปิง ตัวกระเช้ามีกระจกอะคริลิคแข็งแกร่งรอบด้านสามารถมองวิวทิวทัศน์ได้ทั่วถึง 360 องศา ไม่ได้ติดแอร์ แต่มีช่องลมให้ลมเข้าเย็นสบาย มีกระเช้าให้เลือกนั่ง 2 แบบ คือกระเช้าแบบธรรมดา และกระเช้าคริสตัลที่พื้นด้านล่างกระเช้าจะกรุด้วยกระใสมองเห็นวิวด้านล่างได้
ฉันเลือกนั่งกระเช้าแบบคริสตัล ที่นั่งแล้วให้ความรู้สึกตื่นเต้นและเสียวกับความสูงของทัศนียภาพรอบๆ และใต้เท้าดีไม่น้อยเลย การที่นั่งกระเข้าลอยฟ้าจะได้ชมทิวทัศน์ในมุมสูงทั้งหมดทั่วเกาลันเตา เห็นอ่าวตงช้ง มองเห็นสนามบิน Check Lap Kokในมุมสูง ดูแล้วเพลินตา เพลินใจ
กระเช้าลอยฟ้าใช้เวลา 25 นาที ก็พามาลงที่ปลายทางของสถานีที่หมู่บ้านนองปิง ( Ngong Ping Village ) แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งหนึ่งของฮ่องกง ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ตามแบบสถาปัตยกรรมจีน ภายในหมู่บ้านมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารฟาสต์ ฟู๊ด ร้านสะดวกซื้อ และมีโรงภาพยนตร์ 3 มิติ เรื่องMonkey's Tale Theatre และมีหอพุทธประวัติ Walking with Buddha ให้ได้ชม และยังมีการแสดงต่างๆ ที่น่าชมอีก อย่างเช่นการแสดงตีกลองอันน่าตื่นตาตื่นใจ
เดินจากหมู่บ้านนองปิงตรงเข้าไปด้านใน จะพบกับ “วัดโป่หลิน" (Po Lin Monastery) หรือเรียกเป็นชื่อไทยได้ว่าวัดดอกบัวงาม เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่คนฮ่องกงนิยมมาไหว้ ชาวต่างชาติจะรู้จักกันดีในชื่อ Giant Buddha เพราะว่าที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสำริดปางประทับนั่งองค์ใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่กลางแจ้งให้เห็นชัดแต่ไกล มีความสูง 34 ม.หนัก 220 ตัน
ฉันขึ้นไปสักการะองค์พระ ด้วยการเดินผ่านบันไดเป็นร้อยขั้น เพื่อจะได้ยลโฉมพระองค์ใหญ่อย่างเต็มตา และได้ไหว้พระขอจนอิ่มใจแล้ว ก็ลาพระท่านลงมา เพราะว่าใกล้ๆ กันยังมี ทางเดินแห่งปรัชญา (Wisdom Path) ซึ่งมีแผ่นไม้สูงเกือบสิบเมตร ทั้งหมด 38 แผ่น ปักเรียงกันเป็นรูปเลขแปด (หมายถึงความไม่สิ้นสุด) บนแผ่นไม้สลักตัวอักษรภาษาจีน เป็นบทสวดเก่าแก่ของศาสนาพุทธ
หลังจากนั้นก็ได้เวลาขึ้นกระเช้ากลับกันแล้ว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ที่ฉันอยากไปมากที่สุดกำลังรออยู่ นั่นคือ “ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์” (Hong Kong Disneyland) ที่ที่ฉันจะได้กลายเป็นเด็ก เที่ยวแบบสนุกสนาน ให้เพลิดเพลิน กับเหล่าตัวการ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ที่น่ารัก และมีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นมากมาย โดยพื้นที่ในสวนสนุกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ แฟนตาซีแลนด์ ทูมอโรว์แลนด์ และแอดเวนเจอร์แลนด์ ซึ่งสวนสนุกแต่ละส่วนต่างก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป
อย่างที่ครั้งนี้ที่ฉันมาเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์ นี้ได้มีขบวนพาเหรดตัวใหม่ ชื่อว่า Stich Summer Dance Bash ซึ่งมีตัวการ์ตูนสัตว์ประหลาดหน้าตาแปลกๆ แต่ก็ดูน่ารักนามว่า สติทช์ เป็นตัวเอกชูโรง ที่จะออกมาวาดลวยลายการแดนซ์แบบประจาย แสนซนน่ารัก และให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกับขบวนพาเหรด ออกมาเต้นระบำพร้อมกับสติชท์อย่างสนุกสนาน
ก่อนที่จะออกไปเล่นเครื่องเล่นตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Stitch Encounter เป็นการได้เข้าไปนั่งเล่นพูดคุยกับสติชท์อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน และก็ยังมีเครื่องเล่นตัวอื่นๆ ให้เล่นอีกเพียบอาทิ ม้าหมุนซินเดอเรลล่า เครื่องเล่น Space Mountain และเครื่องเล่นช้างบินดัมโบ้ เรียกว่าได้กันแบบลืมแก่ไปเลย และก็ไม่พลาดที่จะชมขบวนพาเหรดของเหล่าตัวการ์ตูนจากดิสนีย์ที่น่ารัก ได้พบกับมิกกี้เม้าส์ มินนี่เม้าส์ โดนัลดั๊ก เดซี่ดั๊ก กรูฟฟี่ และเหล่าตัวการ์ตูนชื่อดังอีกมากมายที่มามอบความสุขให้แก่ทุกคน
แล้วก่อนที่ฉันจะอำลากลับบ้าน ก็ได้ปิดฉากการเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ด้วยการชมการแสดงพลุประกอบแสงสี เสียงอันตระการตางดงามยิ่งยามค่ำคืน ทำให้ฉันได้กลับไปนอนหลับฝันหวานอย่างมีความสุข ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะได้ไปตะลุยเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของฮ่องกงกันต่อ (ติดตามอ่านตอนต่อไป)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
"ฮ่องกง" เป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศจีน ฮ่องกงใช้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ซึ่งภาษาจีนกวางตุ้งเป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุด เงินที่ใช้เป็นเงิน ฮ่องกงดอลลาร์ (ฮ่องกงดอลลาร์ตกประมาณ 5 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) สายการบินจากกรุงเทพฯไปฮ่องกงมีอยู่หลายสายการบินด้วยกัน อาทิ สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค โทร.0-2263-0606 หรือ www.cathaypacific.co.th ผู้สนใจไปเที่ยวฮ่องกงสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวฮ่องกงประจำประเทศไทย โทร. 0-2636-8339 หรือเข้าไปที่www.discoverhongkong.com/thai