โดย:มะเมี้ยะ
ปุจฉา...เกาะอะไรหัวเราะทำไม?
วิสัชนา...เกาะฮาวาย ไง เพราะว่า ฮา (หัวเราะเฮฮา) วาย (Why=ทำไม)
อโลฮา...ขอกล่าวขึ้นต้นทักทายกันก่อน ด้วยคำว่าสวัสดีเป็นภาษาฮาวาย แน่นอนว่าเที่ยวต่างแดนของฉันในครั้งนี้จะเป็นที่ใดไม่มิได้นอกจาก "ฮาวาย"
สำหรับมลรัฐฮาวาย หรือเกาะฮาวาย จัดเป็นรัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฮาวายในมหาสมุทรแปซิฟิก ฮาวายได้รวมเข้ากับสหรัฐอเมริกาเป็นรัฐสุดท้าย คือ ลำดับที่ 50 ในวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1959 ฮาวายมีชื่อเล่นของรัฐว่า "รัฐอโลฮา" (Aloha State)ชาวท้องถิ่นเรียกเกาะฮาวายของพวกเขาว่า เกาะใหญ่ (The Big Island)
สำหรับที่ตั้งของฮาวายนั้น อยู่ห่างจากชายฝั่งสหรัฐอเมริกาประมาณ 3,700 กม. เดิมฮาวายถูกเรียกว่า "หมู่เกาะแซนด์วิช" ตั้งโดยผู้ค้นพบเกาะฮาวายคือ เจมส์ คุก ที่พบเกาะนี้เมื่อ ค.ศ.1778
ฮาวาย เป็นเกาะที่เกิดจากลาวาที่ไหลผ่านแผ่นแปซิฟิค (Pacific Plate) ที่เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยอัตราเร็วปีละประมาณ 2-3 นิ้ว ดังนั้น หมู่เกาะฮาวายจึงเป็นหมู่เกาะน้องใหม่ที่สุดในโลก โดยมีอายุเพียง 25-40 ล้านปีเท่านั้น
ชนพื้นเมืองของฮาวายเรียกกันว่า “โพลินีเซียน” แต่ในฮาวายเดี๋ยวนี้แทบไม่มีให้เห็น คงเหลือเพียงที่จัดโชว์ไว้ให้นักท่องเที่ยว คนพื้นเมืองฮาวายประกอบด้วยหลายเชื้อชาติทั้ง คนญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ เกาหลี ซึ่งเข้าไปตั้งรกรากในฮาวายมาเป็นเวลานับร้อยปี
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมลรัฐของมหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา แต่ชาวฮาวายก็ยังคงมีการทำกสิกรรมให้เห็น พืชหลักของฮาวาย ได้แก่ สัปปะรด เผือด ถั่วแมคคาเดเมีย กาแฟ
ใครยังนึกหน้าตาของฮาวายไม่ออกลองคิดถึงฉากในภาพยนตร์อย่าง Jurassic Park, Waterworld, From Here to Eternity, George of the Jungle, 50 First Dates, Pearl Harbor, Blue Crush , Lilo & Stitch, Blue Hawaii ก็อาจจะทำให้พอเห็นภาพของฮาวายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ฮาวายมีเกาะอยู่ด้วยกัน 8 เกาะ ได้แก่ เกาะโออาฮู (Oahu) ฮาวายอิ (Hawaii) หรือ บิ๊ก ไอส์แลนด์ เมาอิ (Maui) คาวายอิ (Kauai) โมโลกาอิ (Molokai) ลานาอิ (Lanai) คาโฮโอลาเว (Kahoolawe) นิอิฮาว (Niihau)
แต่ศูนย์กลางแห่งความเจริญของฮาวายตั้งอยู่ที่ เกาะโออาฮู เพราะเป็นที่ตั้งเมืองหลวงของรัฐฮาวาย โดยมีเมืองหลวงชื่อว่า “โฮโนลูลู” (Honolulu) เกาะโออาฮู เมืองหลวงของรัฐฮาวาย ประกอบไปด้วยเกาะสำคัญ 5 เกาะ คือ คาอู้,ลาไน,มาอูอิ,ฮาวายอิ,และโออาฮู ที่เป็นเกาะสำคัญที่สุด มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากสุด
ฮาวาย เป็นดินแดนที่มีแผ่นดินเกิดใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นถิ่นภูเขาไฟแห่งเดียวในโลกที่ยังปะทุพ่นลาวาอันร้อนแรงจากใต้ผิวโลกต่อเนื่องกันมาหลายทศวรรษแล้วและมิมีทีท่าว่าจะหยุด
ดังนั้นที่ฮาวายเราจึงสามารถพบเห็นผืนดินหลายสีในพื้นที่ใกล้เคียงกัน หาดทรายดำที่มีเม็ดทรายสีดำนิล หาดทรายเขียวดั่งมรกต หาดทรายขาวอันละเอียด ซึ่งเป็นผลมาจากแร่ธาตุที่ไหลทะลักมาจากภูเขาไฟ
สถานที่ท่องเที่ยวในฮาวายเอง ก็มีมากมายให้เที่ยวชมได้แบบไม่ซ้ำ อย่างที่ “พระราชวังอิโอลานี”( Lolani Palace) เป็นพระราชวังเพียงแห่งเดียวของสหรัฐอเมริกา ประวัติของพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น เพราะในอดีตฮาวายปกครองด้วยกษัตริย์ ที่นี่ใช้เป็นที่พำนักของสองราชวงศ์สุดท้ายของฮาวาย โดยมี “พระเจ้าคาเมฮาเมฮาที่4”( King Kamehameha IV) เป็นกษัตริย์องศ์สุดท้ายที่ปกครองฮาวายในระหว่างปี ค.ศ.1863-1872
มาฮาวายถ้าไม่ได้นอนอาบแดดที่ “หาดไวกิกิ” (Waikiki) คงมิอาจพูดได้ว่ามาถึงฮาวายแล้ว หาดทรายขาวยาวเหยียดกว่า 3 กม.บนฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก หาดไวกีกิถือว่าเป็นถิ่นกำเนิดของการเล่นเซิร์ฟบอร์ดตั้งแต่สมัยชาวโพลีนิเซียนมาตั้งรกรากที่ฮาวายเมื่อหลายร้อยปีก่อนทีเดียว ที่หาดไวกิกิ เราจึงได้เห็นทั้งสาวๆนอนอาบแดดนุ่งบิกินี่ชิ้นน้อยและมนุษย์ตัวน้อยที่เล่นเซิร์ฟบอร์ดโต้คลื่นลูกโตอย่างสนุกสนาน
ใกล้ๆกับหากไวกิกิ ยังเป็นที่ตั้งของ “อโลฮา ทาวน์เวอร์” (Aloha Tower) สร้างเมื่อปี ค.ศ.1912 เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของฮาวายจนกระทั่งปี 1959 ที่นี่มีเรือ "Falls of Clyde" ซึ่งเป็นเรือใบสมัยที่ชาวยุโรปเดินทางมาฮาวายเมื่อร้อยกว่าปีก่อน และเป็นเรือใบแบบ 4 เสาลำเดียวที่เหลืออยู่ในโลก ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมี “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไวกิกิ” (Waikiki aquarium) สถานที่เรียนรู้สัตว์ทะเลของฮาวาย คุฯจะได้พบกับกุ้ง หอย ปู ปลาทะเลสีสวยมากมายแหวกว่ายอยู่ในตู้กระจกใบใหญ่ พร้อมทั้งความน่ารักของแมวน้ำก็หาชมได้จากที่นี่
และตรงปลายสุดของหาดไวกิกิเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง “ภูเขาไฟไดมอนด์เฮด” (Diamond Head) คือภูเขาไฟที่มอดดับลงแล้วกว่า150,000ปี เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของฮาวายซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างโดดเด่นจากหาดไวกิกิ
หุบเขาไดมอนด์เฮดมีลักษณะตรงกลางเป็นแอ่งทางเข้าต้องผ่านอุโมงค์ที่ทะลุขอบหุบเขาเข้าไป จากนั้นก็เดินเท้าขึ้นไปที่ยอดของขอบด้านที่ติดมหาสมุทร มีทางเดินขึ้นลงอย่างสะดวก ลัดเลาะไปตามไหล่เขา ยอดสูงสุดของหุบเขาจะสามารถมองได้รอบ 360 องศาเลย เห็นทั้งบริเวณที่พักบนไหล่เขาด้านหลัง และหาดไวกิกิได้ทั้งหมด
มาที่ฮาวายที่หนึ่งที่ต้องไม่พลาดเลย คือ อนุสรณ์สถานเรือรบ ยู.เอส.เอส. อริโซน่า หรือ เพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbour) สมรภูมิเลือดที่นำอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปัจจุบันเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ และ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเหตุการณ์ขณะที่กองบินของญี่ปุ่นเข้าทำการโจมตี เพิร์ลฮาร์เบอร์ ฐานทัพเรือของสหรัฐอเมริกาที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคแปซิฟิก
ชนวนเหตุที่ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเข้าร่วมสงครามโลกครั้ง 2 เมื่อญี่ปุ่นขยายกำลังออกมาทางแปซิฟิก เช้าวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ.1941 ญี่ปุ่นเคลื่อนกำลังเข้ามาใกล้กับฮาวาย ห่างจากเกาะโออาฮูประมาณ 230 ไมล์ ญี่ปุ่นเปิดฉากโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ สามารถทำลายเรือรบขนาดใหญ่ไปได้ 18 ลำภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เพราะเพิร์ลฮาร์เบอร์ไม่มีการเตรียมรับมือ
หนึ่งในเรือรบของเพิร์ลฮาเบอร์ที่สร้างความสูญเสียแก่สหรัฐอเมริกามากที่สุดคือ เรือ USS Arizona เพราะเกิดระเบิดอย่างรุนแรงที่ห้องเก็บอาวุธของเรือ ส่งผลให้เรือรบขนาดใหญ่จมลงภายในเวลาไม่ถึง 9 นาทีพร้อมกับพาลูกเรือ 1,177 นายลงสู่ทะเล นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกากระโจมเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่2
จากการชมประวัติศาสตร์สงครามโลกที่เพิร์ลฮาเบอร์ เรามาเที่ยวกันต่อที่ “หาดฮานาอูม่า” (Hanauma Bay) หาดน้ำสวยและใสที่สุดของเกาะโออาฮู ใสจนเห็นตัวปลาสามารถเล่นน้ำได้มีความสุขสนุกสนานกับการเห็นฝูงปลาทะเลต่างๆเวียนว่าย เป็นอีหนหึ่งแหล่งท่องเที่ยวของฮาวายที่มีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นจำนวนมาก
ถ้าเบื่อการเดินเล่นริมชายหาดแล้ว ใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวเล่นที่ “น้ำตกเรนโบว์” ( Rainbow Falls ) สัมผัสกับละอองน้ำอันชุ่มฉ่ำของสายน้ำ กับน้ำตกได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะฮาวาย ก็เป็นความเพลิดเพลินที่จะได้จากฮาวายอีกรูปแบบหนึ่ง
หากอยากสัมผัlกับความเป็นฮาวายแท้ๆ สถานที่หนึ่งที่จะช่วยให้รู้จักความเป็นฮาวายได้มากขึ้น คือที่ “โพลินีเชี่ยน คัลเจอ เซ็นเตอร์” ( Polynesian Cultural Center ) ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆแห่งรัฐฮาวาย ซึ่งประกอบด้วยเผ่าพื้นเมือง 7 เผ่า คุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมของแต่ละเผ่าอย่างใกล้ชิด พร้อมชมการแสดงระบำของสาวสวย ฮูลา ฮูล่า ระบำชาวเกาะแบบชาวโพลีนิเชี่ยน อันเป็นอีกหนึ่งมนตราเสน่ห์แห่งแปซิฟิกใต้
ปิดท้ายด้วยแหล่งท่องเที่ยวสุกท้ายของฮาวายที่ฉันเลือกจะพาไปชมในครั้งนี้ คือที่ “อุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฮาวาย” (Hawaii Volcano National Park) เพื่อชมภูเขาไฟซึ่งครั้งหนึ่งเคยปะทุด้วยเปลวเพลิงร้อนแรงและปล่อยลาวาเดือดพล่านทั่วเกาะฮาวาย อุทยานฯแห่งนี้อยู่ในการกำกับดูแลโดยหน่วยงานของรัฐ
แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่ที่มีทั้งต้นไม้ใหญ่น้อย วนอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฮาวาย ที่มีอายุมากกว่า 70 ล้านปี ในอุทยานฯคุณจะสามารถสัมผัสเห็น ยอดภูเขาไฟคิลาอูอา (Kilauea Volcano) อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 4,000 ฟิต มีสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรวดเร็ว ทั้งยังกระทำปฏิกิริยาขู่ฟู่ฟู่ราวกับพร้อมที่จะระเบิดได้ตลอดเวลา
อีกทั้งยังมีฝนตกชุกและอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีเมฆหมอกและละอองไอน้ำบดบังทิวทัศฯโดยรอบจนมองไม่เห็น พื้นที่รอบภูเขาไฟจะมีคราบผงเขม่าภูเขาไฟเปรอะเปื้อนไปทั่ว นั่นอาจกลายเป็นอีกหนึ่งความน่าค้นหาของฮาวายไปแล้วก็เป็นได้
ด้วยเพราะฮาวายมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เลือกสัมผัสมากมาย จึงไม่แปลกที่ฮาวายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่คู่ฮันนีมูนใฝ่ฝันอยากมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อาจเพราะชื่นชอบในสายลมแสงแดด ภูเขา น้ำตก และความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ รวมถึงวิถีชีวิตแบบชาวเกาะ จึงทำให้ผู้คนมากมายอยากไปเยือนฮาวาย
แล้วคุณล่ะ...ชอบอะไรในฮาวาย หากยังคิดไม่ออกเห็นทีว่าต้องลองไปค้นหาที่ “ฮาวาย”ดูสักครั้ง
สุดท้ายนี้ขอกล่าวอำลาเป็นภาษาฮาวายว่า “อโลฮา”
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“มลรัฐฮาวาย” เป็นรัฐที่ 50 ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ การเดินทางไปฮาวายต้องยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา เวลาที่ฮาวายช้ากว่าประเทศไทย 17 ชั่วโมง ค่าเงินใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็น USD (ดอลลาร์สหรัฐ)
ปุจฉา...เกาะอะไรหัวเราะทำไม?
วิสัชนา...เกาะฮาวาย ไง เพราะว่า ฮา (หัวเราะเฮฮา) วาย (Why=ทำไม)
อโลฮา...ขอกล่าวขึ้นต้นทักทายกันก่อน ด้วยคำว่าสวัสดีเป็นภาษาฮาวาย แน่นอนว่าเที่ยวต่างแดนของฉันในครั้งนี้จะเป็นที่ใดไม่มิได้นอกจาก "ฮาวาย"
สำหรับมลรัฐฮาวาย หรือเกาะฮาวาย จัดเป็นรัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฮาวายในมหาสมุทรแปซิฟิก ฮาวายได้รวมเข้ากับสหรัฐอเมริกาเป็นรัฐสุดท้าย คือ ลำดับที่ 50 ในวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1959 ฮาวายมีชื่อเล่นของรัฐว่า "รัฐอโลฮา" (Aloha State)ชาวท้องถิ่นเรียกเกาะฮาวายของพวกเขาว่า เกาะใหญ่ (The Big Island)
สำหรับที่ตั้งของฮาวายนั้น อยู่ห่างจากชายฝั่งสหรัฐอเมริกาประมาณ 3,700 กม. เดิมฮาวายถูกเรียกว่า "หมู่เกาะแซนด์วิช" ตั้งโดยผู้ค้นพบเกาะฮาวายคือ เจมส์ คุก ที่พบเกาะนี้เมื่อ ค.ศ.1778
ฮาวาย เป็นเกาะที่เกิดจากลาวาที่ไหลผ่านแผ่นแปซิฟิค (Pacific Plate) ที่เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยอัตราเร็วปีละประมาณ 2-3 นิ้ว ดังนั้น หมู่เกาะฮาวายจึงเป็นหมู่เกาะน้องใหม่ที่สุดในโลก โดยมีอายุเพียง 25-40 ล้านปีเท่านั้น
ชนพื้นเมืองของฮาวายเรียกกันว่า “โพลินีเซียน” แต่ในฮาวายเดี๋ยวนี้แทบไม่มีให้เห็น คงเหลือเพียงที่จัดโชว์ไว้ให้นักท่องเที่ยว คนพื้นเมืองฮาวายประกอบด้วยหลายเชื้อชาติทั้ง คนญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ เกาหลี ซึ่งเข้าไปตั้งรกรากในฮาวายมาเป็นเวลานับร้อยปี
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมลรัฐของมหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา แต่ชาวฮาวายก็ยังคงมีการทำกสิกรรมให้เห็น พืชหลักของฮาวาย ได้แก่ สัปปะรด เผือด ถั่วแมคคาเดเมีย กาแฟ
ใครยังนึกหน้าตาของฮาวายไม่ออกลองคิดถึงฉากในภาพยนตร์อย่าง Jurassic Park, Waterworld, From Here to Eternity, George of the Jungle, 50 First Dates, Pearl Harbor, Blue Crush , Lilo & Stitch, Blue Hawaii ก็อาจจะทำให้พอเห็นภาพของฮาวายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ฮาวายมีเกาะอยู่ด้วยกัน 8 เกาะ ได้แก่ เกาะโออาฮู (Oahu) ฮาวายอิ (Hawaii) หรือ บิ๊ก ไอส์แลนด์ เมาอิ (Maui) คาวายอิ (Kauai) โมโลกาอิ (Molokai) ลานาอิ (Lanai) คาโฮโอลาเว (Kahoolawe) นิอิฮาว (Niihau)
แต่ศูนย์กลางแห่งความเจริญของฮาวายตั้งอยู่ที่ เกาะโออาฮู เพราะเป็นที่ตั้งเมืองหลวงของรัฐฮาวาย โดยมีเมืองหลวงชื่อว่า “โฮโนลูลู” (Honolulu) เกาะโออาฮู เมืองหลวงของรัฐฮาวาย ประกอบไปด้วยเกาะสำคัญ 5 เกาะ คือ คาอู้,ลาไน,มาอูอิ,ฮาวายอิ,และโออาฮู ที่เป็นเกาะสำคัญที่สุด มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากสุด
ฮาวาย เป็นดินแดนที่มีแผ่นดินเกิดใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นถิ่นภูเขาไฟแห่งเดียวในโลกที่ยังปะทุพ่นลาวาอันร้อนแรงจากใต้ผิวโลกต่อเนื่องกันมาหลายทศวรรษแล้วและมิมีทีท่าว่าจะหยุด
ดังนั้นที่ฮาวายเราจึงสามารถพบเห็นผืนดินหลายสีในพื้นที่ใกล้เคียงกัน หาดทรายดำที่มีเม็ดทรายสีดำนิล หาดทรายเขียวดั่งมรกต หาดทรายขาวอันละเอียด ซึ่งเป็นผลมาจากแร่ธาตุที่ไหลทะลักมาจากภูเขาไฟ
สถานที่ท่องเที่ยวในฮาวายเอง ก็มีมากมายให้เที่ยวชมได้แบบไม่ซ้ำ อย่างที่ “พระราชวังอิโอลานี”( Lolani Palace) เป็นพระราชวังเพียงแห่งเดียวของสหรัฐอเมริกา ประวัติของพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น เพราะในอดีตฮาวายปกครองด้วยกษัตริย์ ที่นี่ใช้เป็นที่พำนักของสองราชวงศ์สุดท้ายของฮาวาย โดยมี “พระเจ้าคาเมฮาเมฮาที่4”( King Kamehameha IV) เป็นกษัตริย์องศ์สุดท้ายที่ปกครองฮาวายในระหว่างปี ค.ศ.1863-1872
มาฮาวายถ้าไม่ได้นอนอาบแดดที่ “หาดไวกิกิ” (Waikiki) คงมิอาจพูดได้ว่ามาถึงฮาวายแล้ว หาดทรายขาวยาวเหยียดกว่า 3 กม.บนฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก หาดไวกีกิถือว่าเป็นถิ่นกำเนิดของการเล่นเซิร์ฟบอร์ดตั้งแต่สมัยชาวโพลีนิเซียนมาตั้งรกรากที่ฮาวายเมื่อหลายร้อยปีก่อนทีเดียว ที่หาดไวกิกิ เราจึงได้เห็นทั้งสาวๆนอนอาบแดดนุ่งบิกินี่ชิ้นน้อยและมนุษย์ตัวน้อยที่เล่นเซิร์ฟบอร์ดโต้คลื่นลูกโตอย่างสนุกสนาน
ใกล้ๆกับหากไวกิกิ ยังเป็นที่ตั้งของ “อโลฮา ทาวน์เวอร์” (Aloha Tower) สร้างเมื่อปี ค.ศ.1912 เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของฮาวายจนกระทั่งปี 1959 ที่นี่มีเรือ "Falls of Clyde" ซึ่งเป็นเรือใบสมัยที่ชาวยุโรปเดินทางมาฮาวายเมื่อร้อยกว่าปีก่อน และเป็นเรือใบแบบ 4 เสาลำเดียวที่เหลืออยู่ในโลก ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมี “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไวกิกิ” (Waikiki aquarium) สถานที่เรียนรู้สัตว์ทะเลของฮาวาย คุฯจะได้พบกับกุ้ง หอย ปู ปลาทะเลสีสวยมากมายแหวกว่ายอยู่ในตู้กระจกใบใหญ่ พร้อมทั้งความน่ารักของแมวน้ำก็หาชมได้จากที่นี่
และตรงปลายสุดของหาดไวกิกิเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง “ภูเขาไฟไดมอนด์เฮด” (Diamond Head) คือภูเขาไฟที่มอดดับลงแล้วกว่า150,000ปี เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของฮาวายซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างโดดเด่นจากหาดไวกิกิ
หุบเขาไดมอนด์เฮดมีลักษณะตรงกลางเป็นแอ่งทางเข้าต้องผ่านอุโมงค์ที่ทะลุขอบหุบเขาเข้าไป จากนั้นก็เดินเท้าขึ้นไปที่ยอดของขอบด้านที่ติดมหาสมุทร มีทางเดินขึ้นลงอย่างสะดวก ลัดเลาะไปตามไหล่เขา ยอดสูงสุดของหุบเขาจะสามารถมองได้รอบ 360 องศาเลย เห็นทั้งบริเวณที่พักบนไหล่เขาด้านหลัง และหาดไวกิกิได้ทั้งหมด
มาที่ฮาวายที่หนึ่งที่ต้องไม่พลาดเลย คือ อนุสรณ์สถานเรือรบ ยู.เอส.เอส. อริโซน่า หรือ เพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbour) สมรภูมิเลือดที่นำอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปัจจุบันเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ และ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเหตุการณ์ขณะที่กองบินของญี่ปุ่นเข้าทำการโจมตี เพิร์ลฮาร์เบอร์ ฐานทัพเรือของสหรัฐอเมริกาที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคแปซิฟิก
ชนวนเหตุที่ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเข้าร่วมสงครามโลกครั้ง 2 เมื่อญี่ปุ่นขยายกำลังออกมาทางแปซิฟิก เช้าวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ.1941 ญี่ปุ่นเคลื่อนกำลังเข้ามาใกล้กับฮาวาย ห่างจากเกาะโออาฮูประมาณ 230 ไมล์ ญี่ปุ่นเปิดฉากโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ สามารถทำลายเรือรบขนาดใหญ่ไปได้ 18 ลำภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เพราะเพิร์ลฮาร์เบอร์ไม่มีการเตรียมรับมือ
หนึ่งในเรือรบของเพิร์ลฮาเบอร์ที่สร้างความสูญเสียแก่สหรัฐอเมริกามากที่สุดคือ เรือ USS Arizona เพราะเกิดระเบิดอย่างรุนแรงที่ห้องเก็บอาวุธของเรือ ส่งผลให้เรือรบขนาดใหญ่จมลงภายในเวลาไม่ถึง 9 นาทีพร้อมกับพาลูกเรือ 1,177 นายลงสู่ทะเล นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกากระโจมเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่2
จากการชมประวัติศาสตร์สงครามโลกที่เพิร์ลฮาเบอร์ เรามาเที่ยวกันต่อที่ “หาดฮานาอูม่า” (Hanauma Bay) หาดน้ำสวยและใสที่สุดของเกาะโออาฮู ใสจนเห็นตัวปลาสามารถเล่นน้ำได้มีความสุขสนุกสนานกับการเห็นฝูงปลาทะเลต่างๆเวียนว่าย เป็นอีหนหึ่งแหล่งท่องเที่ยวของฮาวายที่มีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นจำนวนมาก
ถ้าเบื่อการเดินเล่นริมชายหาดแล้ว ใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวเล่นที่ “น้ำตกเรนโบว์” ( Rainbow Falls ) สัมผัสกับละอองน้ำอันชุ่มฉ่ำของสายน้ำ กับน้ำตกได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะฮาวาย ก็เป็นความเพลิดเพลินที่จะได้จากฮาวายอีกรูปแบบหนึ่ง
หากอยากสัมผัlกับความเป็นฮาวายแท้ๆ สถานที่หนึ่งที่จะช่วยให้รู้จักความเป็นฮาวายได้มากขึ้น คือที่ “โพลินีเชี่ยน คัลเจอ เซ็นเตอร์” ( Polynesian Cultural Center ) ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆแห่งรัฐฮาวาย ซึ่งประกอบด้วยเผ่าพื้นเมือง 7 เผ่า คุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมของแต่ละเผ่าอย่างใกล้ชิด พร้อมชมการแสดงระบำของสาวสวย ฮูลา ฮูล่า ระบำชาวเกาะแบบชาวโพลีนิเชี่ยน อันเป็นอีกหนึ่งมนตราเสน่ห์แห่งแปซิฟิกใต้
ปิดท้ายด้วยแหล่งท่องเที่ยวสุกท้ายของฮาวายที่ฉันเลือกจะพาไปชมในครั้งนี้ คือที่ “อุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฮาวาย” (Hawaii Volcano National Park) เพื่อชมภูเขาไฟซึ่งครั้งหนึ่งเคยปะทุด้วยเปลวเพลิงร้อนแรงและปล่อยลาวาเดือดพล่านทั่วเกาะฮาวาย อุทยานฯแห่งนี้อยู่ในการกำกับดูแลโดยหน่วยงานของรัฐ
แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่ที่มีทั้งต้นไม้ใหญ่น้อย วนอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฮาวาย ที่มีอายุมากกว่า 70 ล้านปี ในอุทยานฯคุณจะสามารถสัมผัสเห็น ยอดภูเขาไฟคิลาอูอา (Kilauea Volcano) อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 4,000 ฟิต มีสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรวดเร็ว ทั้งยังกระทำปฏิกิริยาขู่ฟู่ฟู่ราวกับพร้อมที่จะระเบิดได้ตลอดเวลา
อีกทั้งยังมีฝนตกชุกและอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีเมฆหมอกและละอองไอน้ำบดบังทิวทัศฯโดยรอบจนมองไม่เห็น พื้นที่รอบภูเขาไฟจะมีคราบผงเขม่าภูเขาไฟเปรอะเปื้อนไปทั่ว นั่นอาจกลายเป็นอีกหนึ่งความน่าค้นหาของฮาวายไปแล้วก็เป็นได้
ด้วยเพราะฮาวายมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เลือกสัมผัสมากมาย จึงไม่แปลกที่ฮาวายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่คู่ฮันนีมูนใฝ่ฝันอยากมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อาจเพราะชื่นชอบในสายลมแสงแดด ภูเขา น้ำตก และความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ รวมถึงวิถีชีวิตแบบชาวเกาะ จึงทำให้ผู้คนมากมายอยากไปเยือนฮาวาย
แล้วคุณล่ะ...ชอบอะไรในฮาวาย หากยังคิดไม่ออกเห็นทีว่าต้องลองไปค้นหาที่ “ฮาวาย”ดูสักครั้ง
สุดท้ายนี้ขอกล่าวอำลาเป็นภาษาฮาวายว่า “อโลฮา”
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“มลรัฐฮาวาย” เป็นรัฐที่ 50 ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ การเดินทางไปฮาวายต้องยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา เวลาที่ฮาวายช้ากว่าประเทศไทย 17 ชั่วโมง ค่าเงินใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็น USD (ดอลลาร์สหรัฐ)