xs
xsm
sm
md
lg

ลำปาง : ช้างไทย ชั้นเทพ/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี
ขบวนช้างเดินทางสู่ลานแสดง
มนุษย์ ผู้ที่ถูก(มนุษย์ด้วยกัน)ยกให้เป็น“สัตว์ประเสริฐ”

สัตว์ทั่วไป ผู้ที่ถูก(มนุษย์)ดูถูกว่าเป็น “เดรัจฉาน”

แต่บางครั้งพฤติกรรมของมนุษย์บางคนกับอัปรีย์ยิ่งกว่าเดรัจฉาน

เดรัจฉานไม่เคยคิดคดทรยศต่อถิ่นกำเนิดบ้านเกิดเมืองนอนของตน แต่กลับมีมนุษย์บางคนทำ?!?

เดรัจฉานไม่เคยเผาบ้านเผาเมืองตัวเองเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่กลับมีมนุษย์บางคนทำ?!?

ตรงกันข้าม สัตว์(เดรัจฉาน)บางจำพวก จะว่าไปกลับมีคุณประโยชน์ มีความกตัญญูรู้คุณต่อมนุษย์ไม่น้อย

หมา แมว ม้า นก ไก่ หมู วัว ควาย เหล่านี้มีคุณประโยชน์มากกว่ามนุษย์บางคนเสียอีก

เช่นเดียวกับสัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง “ช้าง” เดรัจฉานประเภท“จตุปทติรัจฉาน” (เดรัจฉาน 4 เท้า) นี่ก็ถือเป็นสัตว์อันมากไปด้วยคุณประโยชน์ต่อมนุษยชาติ เป็นสัตว์ทรงคุณค่าคู่โลกมาช้านาน

สำหรับเมืองไทยเรานั้น ช้างคือสัตว์คู่บ้านคู่เมืองที่ผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทยมาช้านาน จนประเทศไทยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลก ที่มนุษย์ตัวเล็กๆสามารถใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดอย่างช้างได้อย่างผูกพันเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน

เรียกว่าภูมิปัญญาด้านช้างนั้นคนไทยไม่เป็นรองใคร

ปัจจุบันภูมิปัญญาช้างไทยถูกประยุกต์มาใช้ทางการท่องเที่ยวอยู่มากหลาย โดยหนึ่งในสถานที่ที่สำคัญ โดดเด่น และโด่งดังในเรื่องภูมิปัญญาช้างไทยก็คือที่ “สถาบันคชบาลแห่งชาติ” หรือ “ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย” อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง (บนทางหลวงสายลำปาง – เชียงใหม่ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 28)
ลีลาน่ารักของช้างน้อยและนักเรียนควาญช้างตัวน้อยชาวต่างชาติ
ที่นี่เป็นศูนย์รวมภูมิปัญญาช้างไทยชนิดครบเครื่อง มีทั้งโรงเรียนฝึกควาญช้าง ฝึกลูกช้าง มีโรงพยาบาลช้าง มีศูนย์ข้อมูลความรู้ ข้อมูลวิจัย นิทรรศการเกี่ยวกับช้าง และที่โดดเด่นมากก็คือกิจกรรมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับช้างไม่ว่าจะเป็น การแสดงช้าง บริการขี่ช้างท่องเที่ยว ขี่ช้างไปแคมปิ้งในป่า ที่พักโฮมสเตย์ และเรือนพักทั่วไป

ผลจากความโดดเด่นทางการท่องเที่ยวทำให้“ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย” ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Award) ประเภทรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในปี 2541 ซึ่งถ้าไปเที่ยวศูนย์ฯแห่งนี้แล้วยังไง ไม่ควรพลาดชมการแสดงช้างด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่เป็นดังไฮไลท์ที่น่ารักน่าชมมากๆ ผมไปชมกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ

สำหรับการแสดงนั้นจะเปิดตัวด้วย ควาญนำช้างนักแสดงไปอาบน้ำ ซึ่งก็สร้างความฮือฮาให้กับนักท่องเที่ยวไม่น้อย ต่อจากนั้นช้างนักแสดงจะเดินแถวตอนเรียงหนึ่ง งวงเกี่ยวหางเป็นขบวนเข้าสู่ลานแสดงช้าง

แล้วช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวรอคอยก็มาถึง เมื่อช้างตัวหนึ่งชักธงขึ้นสู่เสาเปิดการแสดง เริ่มด้วยการแสดงการฝึกช้าง อาทิ การ การสั่งนั่ง-นอน สวัสดีผู้ชม การใส่หมวก ถอดหมวกให้ควาญ แล้วจึงต่อด้วยการแสดงศิลปะการชักลากไม้ มีการกลิ้งดันซุง ลากซุง ยกซุง และการเดินบนซุงท่อนเดียว เป็นต้น

จากนั้นในโค้งสุดท้ายเป็นการแสดงความสามารถพิเศษของช้าง กับวงดนตรีช้าง ที่ช้างมารวมเชือกกันเล่นอังกะลุง ในเพลง “ช้าง” ที่น่ารักสุดยอดจริงๆ

“ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา...” ผมพอฟังช้างเล่นเพลงนี้แล้วก็อดที่จะฮัมเนื้อเพลงตามไปด้วยไม่ได้

และสุดท้าย ท้ายสุด เป็นการโชว์ความสามารถชั้นเทพของช้างไทยด้วยการให้ช้างใช้งวงวาดรูป ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าช้างจะวาดรูปออกมาเป็นภาพของดอกไม้ ใบหญ้า ได้อย่างสวยงามน่าชม จนผมอดทึ่งไม่ได้ เพราะภาพที่ช้างวาดมันดูรู้เรื่องและสวยกว่าภาพของศิลปินแนวแอบสแตร็คของไทยบางคนเสียอีก(ฮา)
ศิลปินช้างไทย กับความสามารถขั้นเทพ
เมื่อการแสดงเสร็จสิ้น ช้างชักธงลง ทางศูนย์ฯเปิดให้นักท่องเที่ยวประมูลภาพวาดฝีงวงช้าง และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวให้อาหารช้างกันเป็นที่สนุกสนานครื้นเครง

การแสดงในวันนั้น มีเด็กผู้หญิงชาวต่างชาติที่มาเรียนฝึกควาญเข้ามาร่วมด้วย ทำให้การแสดงดูมีสีสันและดูพิเศษมากขึ้น

แต่ที่พิเศษสุดๆก็เห็นจะเป็นการที่เช้าวันนั้น(3 เม.ย.52) ทางศูนย์ฯได้รับสมาชิกใหม่เป็นลูกช้างตัวผู้(ช้างพลาย) อายุ 2 ปีครึ่ง

ช้างตัวนี้ พอมาถึงทางศูนย์ก็ตั้งชื่อให้ทันทีว่า “พลายคุณชาย”

พลายคุณชาย มาพักอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกับที่ ที่“น้องเอไอ”เคยพักอาศัยอยู่ ซึ่งนี่คือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่ผมตั้งใจว่าจะไปเจอน้องเอไออีกครั้งหลังจากที่เคยเจอความน่ารักน่าเอ็นดูของเขาเมื่อปลายปี 51
พลายคุณชาย สมาชิกใหม่
น้องเอไอ ไม่คนที่ไหน แต่เป็นช้างผสมเทียมตัวแรกในเอเชีย(เพศผู้) เกิดจากความสามารถอันเยี่ยมยอดของเหล่านักวิจัยและหมอช้างในบ้านเรา (ชื่อเอไอ : AI มาจาก Artificial Insemination เป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการ ส่วนชื่อเป็นทางการของน้องเอไอนั้นจะรอชื่อพระราชทานจากในหลวงในอนาคต)

วันนั้นน่าเสียดายที่น้องเอไอไม่อยู่เพราะไปเข้าเรียนในโรงเรียนฝึกลูกช้าง มีแต่พลายคุณชายมายืนดันขอบรั้วให้เห็นอยู่เชือกเดียว

สำหรับพลายคุณชายแล้ว ช้างน้อยเชือกนี้มีชีวิตที่ค่อนข้างแตกต่างจากน้องเอไอ สันนิษฐานว่าเป็นช้างป่าถูกชาวบ้านจับที่ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่อายุประมาณ 6 เดือนแบบแยกแม่ แยกลูก จนแม่ตาย เพื่อจะนำไปขายให้นายทุนส่งช้างไปต่างประเทศ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดได้ ก่อนส่งไปเลี้ยงชั่วคราวที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จากนั้นจึงถูกส่งตัวมารักษา เลี้ยง และฝึกที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยแห่งนี้

พลายคุณชายโชคไม่ดี เพราะไม่ได้กินนมแม่ตั้งแต่เด็ก ขาดแคลเซียม จึงส่งผลกระทบต่อขา ทำให้ขาโก่ง แต่พลายคุณชายก็โชคดีที่ได้ พี่สำเนียง หนูพรหม เจ้าหน้าที่สถานีฯเขาประทับช้าง มาเป็นทั้งพ่อและแม่ คอยเลี้ยงดูทะนุถนอมพลายคุณชายอยู่ร่วม 2 ปี(ตั้งแต่อายุ 6 เดือน หลังถูกส่งตัวมายังเขาประทับช้าง)
ช้างพ่นน้ำหยอกนักเรียนควาญสาวชาวต่างชาติ
“ช่วงแรกที่เจอเขาผอมมาก เห็นสันหลังขึ้นโปน ผมก็พยายามเลี้ยงไปเรื่อยๆ ช่วงเลี้ยงใหม่ ลำบาก เขาตื่นคน แต่พอคุ้นกับเราแล้ว เขาจะติดเราตลอด ทีนี้น่ะลำบากกว่าอีก กินก็ต้องอยู่ข้างๆเขาตลอด นอนก็ต้องนอนข้างๆกรงเขา เวลาไปไหนก็ต้องเปิดวิทยุหลอกแล้วหาจังหวะไป เขาคิดว่าเราเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีที่พึ่งที่ไหนแล้ว”

พี่สำเนียงเล่าอย่างคนมีประสบการณ์ จนผมเข้าใจผิดคิดว่าแกเป็นควาญช้างเคยเลี้ยงช้างมาก่อน

“เปล่าเลย ผมเพิ่งเลี้ยงเขาครั้งแรก ปกติ ผมเลี้ยงเสืออย่างเดียว เราเมื่อเลี้ยงเขาก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” โอ้ว...พี่สำเนียง ชีวิตพี่นี่เข้าใจเลี้ยงสัตว์นะ

“ผมว่าเลี้ยงเสือเหมือนเลี้ยงแมว เลี้ยงช้างก็เหมือนเลี้ยงเด็ก”

จริงดังว่า เพราะแม้จะยังตื่นสถานที่ ตื่นคนอยู่ แต่กับพี่สำเนียงยามเมื่อเข้าใกล้แล้ว พลายคุณชายแสดงอาการไม่ต่างอะไรกับเด็กขี้อ้อน ยิ่งเมื่อพี่สำเนียงแกเดินเข้าไปพูดคุย ลูบหัว แสดงความผูกพันกับพลายคุณชาย เล่นเอาหลายๆคนที่เห็นอดตื้นตันใจไม่ได้

........................

วันนั้น หลังกลับจากศูนย์ฯช้างไทย ผมเกิดความรู้สึกว่า ในเมื่อช้างไทยน่ารักปานนั้น มีความสามารถขั้นเทพปานนั้น แต่ทำไมทุกวันนี้ยังคงมีข่าวช้างถูกทำร้ายในบ้านเราให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง

งานนี้สุดท้ายแล้ว คนบางคนกับช้าง ใครกันแน่ที่ประเสริฐกว่ากัน???

กำลังโหลดความคิดเห็น