xs
xsm
sm
md
lg

ท่องเที่ยวฉิบหาย หลังม็อบแดงถ่อยป่วนชาติ-ล้มถกอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม็อบเสื้อแดงถ่อยปุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีชฯ พัทยา
การท่องเที่ยว การลงทุน ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหายยับเยิน หลังม็อบแดงถ่อยบุกป่วนสถานที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา จนรัฐบาลต้องเลื่อนการประชุมออกไป ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรงในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในวันที่ 12 เม.ย. 52

ผลการป่วนประเทศชาติของม็อบเสื้อแดง จนทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนล่ม และทำให้รัฐบาลต้องประกาศ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตกรุงเทพฯ และบางอำเภอในจังหวัดปริมณฑลรวมทั้งบางอำเภอในจังหวัดอยุธยา ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยอย่างร้ายแรง โดยนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาหาการค้าประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้ส่งผลเสียต่อภาพพจน์ของประเทศ เพราะการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจาในไทยไม่ได้ ก็อาจจะมีการตกลงไปประชุมที่ประเทศอื่น ซึ่งก่อนหน้านี้มีหลายประเทศต้องการให้ย้ายการประชุมไปอยู่แล้ว

นายสันติ เปิดเผยต่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เชื่อจะทำให้นักท่องเที่ยวในพัทยาตกใจกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น และยังทำให้ประเทศเสียโอกาสในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ยังดีที่ทหารและตำรวจไม่ใช่ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

โดยขณะนี้หลายประเทศเตือนประชนของตนให้ระมัดระวังการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอยู่แล้ว ยอดนักท่องเที่ยวที่ลดลงจะส่งผลกระทบการท่องเที่ยวในภาพรวมที่มีมูลค่าสูงถึง 4-5 แสนล้านบาท ต้องหดตัวลงแน่นอน

ด้าน อภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวไทย (ATTA) เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า หวาดหวั่น

"สิ่งเหล่านี้ทำให้คนรู้สึกไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับการเดินทางมาประเทศไทย และนั่นเป็นสิ่งที่เราหวาดเกรง"

นอกจากนี้ยังทำให้ยอดนักท่องเที่ยวที่จะมาไทยที่คาดไว้ว่าจะมี 14 ล้านคนคงจะไม่เป็นไปตามเป้า แค่ทำได้ 12 ล้านคนก็ควรจะพอใจแล้ว

ในขณะที่รัฐบาลไทยได้พยายามจะคลายความกังวลให้แก่นักท่องเที่ยว โดย นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามอธิบายแก่นักท่องเที่ยวว่า สถานการณ์นี้จะอยู่ไม่นาน รัฐบาลไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

"เราจะบอกนักท่องเที่ยวและชาวไทยว่า พวกเขาสามารถทำกิจกรรมของตัวเองได้ตามปกติ" นายศุภชัยกล่าว ทว่า กลับมีปฏิกิริยาอย่างฉับพลันจากชาติที่มีประชาชนเดินทางมาไทยเป็นประจำ” นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาลกล่าว

อนึ่งรัฐบาลของประเทศออสเตรเลีย สิงคโปร์ และรัสเซีย ได้ออกคำเตือนการเดินทางใหม่ โดยได้เรียกร้องให้พลเมืองของตนหลีกเลี่ยงการเดินทางมาพัทยาและใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการเดินทางทั่วประเทศไทย

โรงแรมตะวันออกอ่วมเร่งหาทางฟื้นท่องเที่ยว

นายชัชวาล ศุภชยานนท์ นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออก กล่าวว่า แม้ว่าการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมืองพัทยา อย่างรวดเร็วภายในวันเดียว แต่เมืองพัทยา และภาคตะวันออกก็หลีกเลี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้ หลังจากนี้สมาคมฯ จะต้องพูดคุยกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพื่อหาแนวทางในการกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคตะวันออกตลอดทั้งปี

เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีการยกเลิกการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้วทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ แต่ที่กังวลคือ เจ้าของโรงแรมขนาดกลางที่มีจำนวนห้อง 80-90 ห้อง หากประสบปัญหาสภาพคล่องก็จะกระทบการจ้างงาน ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการประชุมอาเซียน ก็มีการหยุดโดยไม่รับค่าจ้าง เนื่องจากภาวะท่องเที่ยวซบเซา แต่หลังเหตุการณ์นี้จะให้การหยุดโดยไม่รับค่าจ้างมีจำนวนวันมากขึ้น ซึ่งอาจจะต้องปิดกิจการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวพัทยาอย่างมาก

นายชัชวาล กล่าวต่อว่า สำหรับบรรยากาศสงกรานต์พัทยาในปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากเหตุการณ์การจราจลที่เกิดขึ้นได้ทำลายความคึกคักลง อย่างไรก็ตาม เมืองพัทยาจะจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ตามปกติ โดยจะเริ่มจัดงานวันไหนตั้งแต่วันที่ 17-19 เมษายน

ชี้เงินสะพัดสงกรานต์ลด 3.6%

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เผยผลสำรวจการร่วมงานประเพณีสงกรานต์ปี 2552 ของคนกรุงเทพฯ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,484 คน พบว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัด 22,100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาลดลง 2.2% ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา แบ่งเป็นเงินสะพัดจากคนที่อยู่กรุงเทพฯ 3,900 ล้านบาท ลดลง 7.1% มาจากการเข้าร่วมกิจกรรมสงกรานต์ และการออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านมาก รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ

ส่วนเม็ดเงินสะพัดจากคนที่ออกนอกกรุงเทพฯ จำนวน 18,200 ล้านบาท ลดลง 1.2% แยกออกเป็นคนกรุงเทพฯ ที่กลับไปเยี่ยมญาติในต่างจังหวัด คนกรุงเทพฯ ที่ไปเที่ยวต่างจังหวัด และเที่ยวต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังประเมินว่า เม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปี 2552 จะลดลงเหลือ 1.2 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีก่อนแล้วลดลง 20%

ศูนย์วิจัยจึงคาดว่าเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั่วทั้งประเทศในปีนี้ มีมูลค่าประมาณ 101,600 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีเม็ดเงินสะพัด 105,400 ล้านบาทแล้ว ลดลง 3.6% ซึ่งคำนึงทั้งผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้คนไทยประหยัดการใช้จ่าย แม้ว่าจะยังคงท่องเที่ยว และผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองที่ทำให้คนกรุงเทพฯ บางส่วนหลีกเลี่ยงการมีกิจกรรมนอกบ้าน รวมถึงการที่เม็ดเงินสะพัดที่ลดลงจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงนี้

"แดงถ่อย" ทำคนกรุงเซ็งเที่ยวสงกรานต์ ไม่มีอารมณ์สนุกสนาน กลัวออกนอกบ้านมีอันตราย

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกสาขาอาชีพที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต่อ “เทศกาลสงกรานต์” กับ“การชุมนุมประท้วง” จำนวน 1,290 คน ระหว่างวันที่ 8-11 เมษายน 2552 พบว่า ร้อยละ 30.92 รู้สึกเครียด หดหู่ /ไม่สนุกไม่อยากออกไปเที่ยว ร้อยละ 26.21 ระบุเป็นการทำลายบรรยากาศการเล่นน้ำที่คึกคักให้หมดไป /กลัวว่าจะมีอันตรายร้อยละ 24.75 ทำให้เดินทางไม่สะดวก /การจราจรติดขัดเพราะมีกลุ่มผู้ชุมนุมกระจายอยู่หลายจุด ร้อยละ 10.98 ระบุอาจมีผู้ไม่หวังดี /มือที่สาม เข้ามาป่วนและสร้างความวุ่นวายในช่วงเทศกาล ขณะที่ร้อยละ 7.14 เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องควบคุมดูแลความเรียบร้อยทำให้ไม่ได้อยู่กับครอบครัว

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 54.11 เห็นว่า การชุมนุมประท้วงส่งผลกระทบช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะทำให้การเดินทางสัญจรไปมาไม่สะดวก ,เป็นห่วงคนในครอบครัวจะได้รับอันตรายเมื่อออกไปนอกบ้าน ,สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ฯลฯ ขณะที่ร้อยละ 45.89 ระบุไม่กระทบ เพราะ เดินทางออกต่างจังหวัด ก่อนจะถึงช่วงวันหยุดสงกรานต์, หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่มีการชุมนุม

สำหรับคำอธิษฐานใน “เทศกาลสงกรานต์” ปีนี้ ร้อยละ 37.64 ขอให้ประเทศชาติสงบสุข ร้อยละ 23.09 ขอให้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้จงหมดไป ร้อยละ 20.28 ขอให้คนไทยรักกัน ไม่ทะเลาะหรือทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง และร้อยละ 18.99 ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้น /คนไทยอยู่ดีกินดี มีเงินใช้ ร่ำรวย

ข้าวสารกร่อย! เงินสะพัดสงกรานต์ลดถึงร้อยละ 80

บรรยากาศภายในร้านอาหารที่ถนนข้าวสาร ย่านบางลำภู ค่อนข้างเงียบเหงา ผู้จัดการร้านแห่งหนึ่ง บอกว่า เดือนนี้จำนวนลูกค้าลดลงถึงร้อยละ 80 และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางกลับก่อนกำหนด เนื่องจากปัญหาการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในกรุงเทพฯ ด้านผู้จัดการโรงแรม D&D ที่ตั้งอยู่ในย่านเดียวกัน ยอมรับว่า จำนวนผู้เข้าพักลดลงมากกว่าที่คาดไว้ โดยบางส่วนไปเที่ยวตามต่างจังหวัดแทน

ขณะที่ นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า จำนวนผู้เข้าพักในโรงแรมย่านนี้ ลดลงเหลือร้อยละ 20 ทั้งที่สัปดาห์ก่อนมียอดเข้าพักจริง และยอดจองช่วงสงกรานต์ถึงร้อยละ 95 เช่นเดียวกับยอดจองของบริษัทนำเที่ยวลดลงเช่นกัน ส่งผลให้เงินสะพัดช่วงสงกรานต์ลดลงถึงร้อยละ 70-80 จากที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำได้ถึง 500 ล้านบาท

สงกรานต์เชียงใหม่พัง หลังเสื้อแดงปิดซูเปอร์ไฮเวย์เข้า-ออกเชียงใหม่

มีรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 11 เม.ย.52 กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ นำโดยกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 500 คน ที่มีนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล เป็นแกนนำ ได้ทำการรวมตัวนำรถยนต์ส่วนตัว รถสี่ล้อแดงรับจ้างและรถบรรทุกมาปิดถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง บริเวณแยกดอนจั่น ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเข้าออกตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้รถนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ และรถที่จะออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งรถโดยสารและรถยนต์ส่วนตัวติดขัดอย่างหนัก จนต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนวงแหวนรอบเมืองเชียงใหม่แทน

ทั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ อ้างว่าการปิดถนนครั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโต้กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มคนเสื้อน้ำเงินที่พัทยา ซึ่งทางกลุ่มเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อน้ำเงินนั้น มีนายเนวิน ชิดชอบ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ยังประกาศจะปักหลักปิดถนนจนกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี จะลาออกจากตำแหน่ง

ต่อมาเวลาประมาณ 14.20 น. ทางกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ได้ยกเลิกการปิดถนนบริเวณแยกดอนจั่น แล้วเลื่อนไปปิดถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง บริเวณใกล้โรงเรียนช่องฟ้าซินเซิงวาณิชบำรุง ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนวงแหวนรอบนอกเมืองเชียงใหม่ เพื่อปิดกั้นไม่ให้รถสามารถเข้าออกตัวเมืองเชียงใหม่ทุกเส้นทาง โดยกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะปักหลักปิดถนนอย่างยืดเยื้อจนกว่าข้อเรียกร้องจะเป็นผล

โดยนอกจากการปิดถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง แล้ว กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ยังได้ประกาศระดมคนให้ไปชุมนุมปิดล้อมกรมรบพิเศษที่ 5 ตำบลแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ด้วย โดยอ้างว่ากำลังจะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงเชียงใหม่ จึงต้องทำการสกัดกั้นไม่ให้ทหารเคลื่อนกำลังได้

ขณะที่แหล่งข่าวในวงการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า ในช่วงนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในภาวะที่ค่อนข้างซบเซาอยู่แล้ว โดยผู้ประกอบการต่างคาดหวังว่าในช่วงสงกรานต์นี้จะเป็นช่วงที่ช่วยให้พอลืมตาอ้าปากได้บ้าง เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าคงจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และคงจะเสียภาพลักษณ์ไปอีกนาน เพราะที่ผ่านมาอาจจะพอชี้แจงได้ว่าเชียงใหม่ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งทางการเมืองโดยตรงและไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้ยากที่จะปฏิเสธอะไรได้
กำลังโหลดความคิดเห็น