xs
xsm
sm
md
lg

ล่องคลองท่องแม่น้ำกับ 5 เส้นทางเรือท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิวของพระอุโบสถวัดโสธรวรารามเมื่อมองจากกลางแม่น้ำ
แม้ในช่วงวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยปีนี้ออกจะมีเรื่องวุ่นวายในบ้านเมืองทำให้หมดสนุกไปซักเล็กน้อย แต่ช่วงเวลานี้ก็ยังถือเป็นวันรวมญาติพี่น้องญาติสนิทมิตรสหายที่อยู่ห่างไกลให้มารวมกัน จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะชักชวนครอบครัวให้ออกไปเที่ยวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

สำหรับการท่องเที่ยวในหน้าร้อนเช่นนี้ นอกจากทะเลแล้ว การล่องเรือท่องแม่น้ำลำคลองรับลมเย็นๆ ชมทิวทัศน์ 2 ฟากฝั่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ

นั่นจึงเป็นที่มาของ 5 เส้นทางท่องเที่ยวทางเรือใกล้กรุงเทพฯ ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปล่องเรือพักผ่อนกันตามใจปรารถนา
เดินเล่นในตลาดบ้านใหม่
เที่ยวตลาดบ้านใหม่ ไหว้หลวงพ่อโสธร แม่น้ำบางปะกง

แม่น้ำบางปะกงในจังหวัดฉะเชิงเทราก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวล่องแม่น้ำที่ไม่น่าพลาดเป็นอย่างยิ่ง แต่ก่อนจะลงเรือล่องแม่น้ำ ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการเข้าไปไหว้ "หลวงพ่อโสธร" ภายใน "วัดโสธรวรารามวรวิหาร" พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวฉะเชิงเทรา ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถหินอ่อนงดงามเป็นสง่ายิ่งนัก

หลังจากไหว้พระเรียบร้อยแล้วให้เดินไปที่ด้านหลังโบสถ์ บริเวณท่าเรือริมแม่น้ำบางปะกง ที่นี่จะเป็นจุดลงเรือเที่ยว ซึ่งในวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์นั้นก็จะมีเรือออกบริการทุกชั่วโมงกันเลยทีเดียว และบนเรือจะมีมัคคุเทศก์คอยอธิบายถึงสิ่งต่างๆ สองข้างทางแม่น้ำให้นักท่องเที่ยวฟัง เพื่อให้ได้บรรยากาศในการเดินทาง และในขณะเดียวกันก็เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับเมืองฉะเชิงเทราไปในตัวด้วย

เมื่อเรือแล่นห่างจากท่าเรือมากลางแม่น้ำ จากจุดนี้หากมองย้อนกลับไปจะเห็นคุ้งน้ำโค้ง และมีพระอุโบสถวัดโสธรวรารามฯอยู่บนฝั่งคุ้งน้ำนั้นพอดี เป็นภาพที่งดงามประทับใจ เรือแล่นผ่านอาคารไม้สักหลังใหญ่ที่สุดในจังหวัดที่ตั้งอยู่ในค่ายศรีโสธร ปัจจุบันนี้เป็นที่ทำการกองบังคับการกองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ ผ่านตำหนักกรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ซึ่งปัจจุบันคือจวนผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นจะผ่านป้อมและกำแพงเมืองเก่าที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 มองทางขวามือจะเห็นหอระฆังไม้ของโบสถ์เซนต์ปอล อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี
 ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำยามเย็นอันคึกคัก
ชมบรรยากาศจากบนเรือมาได้สักพักแล้ว เรือแวะจอดให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปสัมผัสกับบรรยากาศของ "ตลาดบ้านใหม่" ตลาดห้องแถวริมน้ำที่เก่าแก่อายุกว่าร้อยปีมาแล้ว ในอดีตมีชุมชนชาวจีนมาอาศัยอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย และเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายใหญ่ เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางทางน้ำ ตลาดบ้านใหม่ในอดีตนั้นจึงคึกคักเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อมีการตัดถนน การคมนาคมทางน้ำลดความนิยมลงไป ลูกหลานในตลาดเติบโตขึ้นและออกไปทำงานต่างเมืองกันหมด ทำให้ตลาดบ้านใหม่กลายเป็นตลาดร้าง ก่อนที่ชมรมรักษ์ตลาดบ้านใหม่จะฟื้นฟูตลาดแห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว รื้อฟื้นภาพตลาดห้องแถวริมน้ำเก่าๆ ที่เคยมีร้านกาแฟโบราณ ร้านอาหารอร่อยๆ ร้านขายขนมขายของเล่นสารพัดอย่าง ร้านขายของงานฝีมือของที่ระลึกน่ารักๆ จนทุกวันนี้ตลาดบ้านใหม่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองฉะเชิงเทราอีกครั้ง

เดินช้อปเดินชิมอาหารสารพัดอย่างในตลาดบ้านใหม่แล้วก็ต้องเดินต่อไปให้ถึง "วัดจีนประชาสโมสร" หรือ "วัดเล่งฮกยี่" วัดในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่มีความโดดเด่นตรงที่มีพระประธานองค์ใหญ่ 3 องค์ที่ตั้งอยู่ด้านใน และพระอรหันต์ 18 องค์ตั้งเป็นสองแถวด้านข้างพระประธาน มองเผินๆ อาจจะไม่เห็นความพิเศษ แต่ที่น่าทึ่งก็คือทั้งพระประธานและพระอรหันต์ที่เห็นอยู่นี้ ล้วนแล้วแต่ทำขึ้นจากกระดาษ หรือที่เรียกว่าเปเปอร์มาเช่ และมีอายุกว่า 100 ปีเลยทีเดียว
บรรยากาศบ้านเรือนริมคลองอัมพวา
ไหว้พระเสร็จเรียบร้อย เรือก็พาเราย้อนกลับมาทางเดิมอีกครั้ง นั่งเรือกินลมเย็นๆอย่างสบายใจ และนี่ก็คือเส้นทางท่องเที่ยวแม่น้ำบางปะกง แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงที่ให้เราได้ทั้งไหว้พระ ล่องเรือชมบ้านเมือง และเดินเที่ยวตลาดได้ครบถ้วนในเส้นทางเดียว

ล่องเรืออัมพวาชมมากกว่าตลาดน้ำ

ตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ก็คือ ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำยามเย็นแห่งแรกในประเทศไทย ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมคลองอัมพวา ตัวตลาดเป็นห้องแถวไม้ ประตูบานเฟี้ยมเรียงรายอยู่สองฟากฝั่งนับร้อยห้อง แต่ละห้องมีบันไดท่าน้ำทอดลงสู่ลำคลอง ซึ่งในอดีตเคยเป็นทั้งตลาดบกและตลาดน้ำควบคู่กันไป

ผู้คนจะไหลมาเทมาที่ตลาดแห่งนี้ในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่ตลาดอัมพวาเปิดค้าขาย ซึ่งนอกจากจะได้อิ่มท้องไปกับอาหารนานาชนิดทั้งของคาว ของหวาน ผักและผลไม้จากสวนแล้ว ยังมีเรือท่องเที่ยวที่บริการให้นักท่องเที่ยวได้ "ล่องแม่กลองเที่ยวคลองอัมพวา" กันด้วย

โดยมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ตลาดน้ำอัมพวา เรือพร้อมผู้บรรยายจะพาล่องเข้าไปในคลองอัมพวา ผ่านตลาดเก่าอัมพวาที่อยู่ปากคลองอัมพวา จนพบกับย่านสวนเก่าบางช้าง ระหว่างทางจะเห็นภาพบ้านเรือนไทยแบบเก่าแทรกตัวอยู่ตามเรือกสวนเขียวขจี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนส้มโอ มะพร้าว ลิ้นจี่
เจดีย์มุเตาในวัดปรมัยยิกาวาส สัญลักษณ์ของเกาะเกร็ด
จากคลองอัมพวาเลี้ยวเข้าสู่คลองผีหลอก ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ สองฝั่งคลองปกคลุมด้วยป่าและบ้านเรือนบางตา ไม่นานเรือจะทะลุออกสู่แม่น้ำแม่กลอง ที่จะได้สัมผัสกับลมแม่น้ำที่พัดให้ความเย็นสบาย สองฟากฝั่งเต็มไปด้วยดงมะพร้าว บ้านเรือน ร้านอาหาร และที่พัก แทรกตัวสลับกับวัดเก่าแก่ อย่างลงตัว

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำแม่กลอง นักท่องเที่ยวจะได้เห็นโพงพางอุปกรณ์จับปลาพื้นบ้านตั้งอยู่เป็นระยะ และกระชังปลาขนาดใหญ่ริมน้ำก็มีให้เห็นมากมาย เรือจะวิ่งผ่านวัดเก่าสำคัญๆหลายวัด ที่สามารถขึ้นไปเที่ยวชม พร้อมกราบไหว้ทำบุญได้ อาทิ วัดอัมพวาเจติยาราม นิวาสสถานดิมของพระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1, วัดภุมรินทร์กุฏีทอง มีกุฏิเขียนราดรดน้ำปิดทอง, วัดบางแคน้อย ชมโบสถ์ไม้สักแกะสลักสวยงาม, วัดปากน้ำ มีวิหารที่เกาแก่น่าชม เป็นต้น จากนั้นก็เลี้ยวกลับมายังตลาดอัมพวาเช่นเดิม

ล่องเรือชมบรรยากาศรอบเกาะเกร็ด

"เกาะเกร็ด" ในจังหวัดนนทบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงอีกแห่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่นี่เป็นชุมชนมอญที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่ง บนเกาะเกร็ดนี้มี "วัดปรมัยยิกาวาส" เป็นวัดสำคัญในเกาะ มี "เจดีย์มุเตา" เจดีย์ทรงรามัญริมฝั่งน้ำที่ทำท่าเอนเอียงราวกับจะล้มแต่ก็ไม่ล้ม ที่เห็นเอนแบบนี้ก็เพราะว่าตลิ่งทรุด องค์เจดีย์จึงเอียงอย่างที่เห็น และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดที่ใครเห็นก็ต้องจำได้
บรรยากาศในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเกาะเกร็ด
ก่อนจะไปเดินสำรวจเกาะ เราไปชมเกาะเกร็ดในมุมกว้างด้วยการไปล่องเรือรอบเกาะเกร็ด ในแม่น้ำเจ้าพระยากันก่อนดีกว่า โดยจะมีเรือคอยอยู่ที่ท่าเรือหน้าวัดปรมัยยิกาวาสและจะออกให้บริการเป็นรอบๆ ในสนนราคา 60 บาท เรือจะพาเราล่องไปตามแม่น้ำ ชมบรรยากาศของเกาะเกร็ดกัน ซึ่งเท่าที่เห็นก็ยังเต็มไปด้วยเรือกสวนแน่นขนัด บ้านเรือนปลูกสร้างกันริมน้ำ ดูแล้วน่าสบาย

นั่งเรือรับลมเพลินๆอยู่ครู่หนึ่ง เรือก็พาเราเข้าสู่คลองขนมหวาน ชื่อคลองน่ารักและน่ากินแบบนี้ก็เนื่องจากเป็นย่านที่ชาวบ้านทำขนมไทยกันแทบทุกบ้าน จนทำให้ขนมไทยนั้นเป็นของขึ้นชื่อในเกาะเกร็ดด้วยเช่นกัน เรือแวะจอดที่บ้านหลังหนึ่งให้นักท่องเที่ยวได้ลงเลือกซื้อขนมไทยเป็นของกินของฝาก ก่อนจะเดินทางกันต่อ ซึ่งจุดหมายต่อไปก็คือร้านขนมไทยอีกนั่นแหละ แต่ร้านนี้นอกจากจะขายขนมหวานแล้วก็ยังมีความน่าสนใจตรงที่มีการสาธิตการทำขนมให้เราชมกันอย่างใกล้ชิดกันด้วย ให้เห็นเลยว่าทองหยอดเขาหยอดกันอย่างไร ทองหยิบเขาหยิบกันอย่างไร

ได้ชิมและได้ซื้อขนมของฝากกันเต็มไม้เต็มมือแล้ว คราวนี้เราก็แวะไปไหว้พระกันบ้าง ที่ "วัดแสงศิริธรรม" หรือเดิมชื่อว่าวัดขวิด เป็นวัดซึ่งอยู่คนละฝั่งกับเกาะเกร็ด แต่เรือก็จอดแวะให้เราลงไปไหว้พระ เพราะเป็นวัดเก่าแก่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อโต และหลวงพ่อดำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพของชาวบ้านในแถบนั้นมายาวนาน ไหว้พระเสร็จแล้วอย่าลืมแวะซื้อขนมปังไว้ให้อาหารปลากันก่อนจะขึ้นเรือสักหน่อย
บรรยากาศตลาดย้อนยุคที่ตลาดน้ำดอนหวาย
มาถึงตอนนี้เรือก็พาเราแล่นมาจนเกือบครบรอบเกาะเกร็ดแล้ว อีกสักครู่เรือก็จอดส่งให้เราขึ้นฝั่งกันใกล้ๆ วัดปรมัยยิกาวาส คราวนี้เราก็จะได้เดินสำรวจเกาะเกร็ดกันเสียที ซึ่งก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องชมบรรดาแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผา อันเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของชาวมอญที่เกาะเกร็ด งานนี้จะแค่เลือกซื้อเลือกชม หรือจะลงไปลองปั้นด้วยตัวเองเลยก็ได้เช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกๆของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะเกร็ด รวมไปถึงการหาของกินอร่อยๆ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านไม่ว่าจะเป็นทอดมันหน่อกะลา และหากไปในช่วงสงกรานต์นี้ก็ย่อมจะได้เจอข้าวแช่ชาวมอญแท้ๆให้ได้ชิมกันอีกด้วย

ล่องเรือชมวิว แวะอิ่มท้องที่ตลาดน้ำดอนหวาย

กิจกรรมล่องเรือเที่ยวใกล้กรุงอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดก็คือการล่องเรือตลาดน้ำดอนหวาย ที่จังหวัดนครปฐม ที่จะพาเราให้เพลิดเพลินไปกับทั้งธรรมชาติสองฝั่ง ทั้งบ้านเรือนผู้คน วัดวาอาราม และพรรณไม้ต่างๆริมฝั่งแม่น้ำ

นักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นเรือท่องเที่ยวได้ทั้งที่ตลาดน้ำดอนหวายหรือวัดไร่ขิง จากนั้นเรือพร้อมผู้บรรยายจะพาเราล่องไปตามแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำสายสำคัญของชาวนครปฐม ชมบรรยากาศสองฟากฝั่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ด้านหนึ่งเป็นย่านอุตสาหกรรมมีโรงงาน และชุมชน ส่วนอีกด้านหนึ่งของฝั่งแม่น้ำก็จะพบเห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน ที่ส่วนใหญ่จะใช้เรือในการสัญจร แต่นับว่าเป็นความแตกต่างที่อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว
 เรือนำเที่ยวที่ดัดแปลงมาจากเรือแบบเก่า
ระหว่างเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้แวะให้อาหารฝูงปลาสวาย และปลาเทโพ มากมายที่วังปลาที่ใหญ่ที่สุดในนครปฐม อีกทั้งจะได้ชมเรือโบราณ อายุกว่า 100 ปี และทัศนาภาพบ้านเรือนริมสองฟากฝั่งแม่น้ำทั้งแบบไทยโบราณ ไทยประยุกต์ และไทยโมเดิร์น แต่บ้านที่เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวก็คือ บ้านทรงไทยหลังเล็กๆที่เคยใช้ถ่ายละครเรื่องคู่กรรม สมัยที่พี่เบิร์ดเล่นเป็นโกโบริ และกวาง กมลชนก เล่นเป็นอังสุมาลิน ก่อนที่จะมาปิดท้ายกันที่วัดไร่ขิง หรือตลาดน้ำดอนหวาย (หรือหากใครอยากไปไกลกว่านั้น ก็สามารถเลือกไปในเส้นทางเส้นทางวัดไร่ขิง-สวนสามพรานได้เช่นกัน)

แต่ที่พลาดไม่ได้ก็คือการได้มากราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนมากมาย อีกทั้งต้องไม่พลาดชมตลาดน้ำดอนหวายอันเป็นอีกจุดไฮไลท์ ซึ่งเป็นตลาดวิถีไทยอันอุดมไปด้วยอาหารนานาชนิดทั้งอาหารคาว หวาน ขนมไทย ผลไม้ และของกินของขายอีกสารพัดอย่าง นักท่องเที่ยวจะได้อร่อยกับการกินอาหารท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่นจากตลาดน้ำดอนหวาย พร้อมกับได้อุดหนุนสินค้าเกษตรกรรมของท้องถิ่นในราคาแบบชาวบ้านอีกด้วย

ล่องเรือเที่ยวสวนในคลองมหาสวัสดิ์

จากกรุงเทพฯวิ่งคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีเข้าสู่เขตอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อที่จะมายังจุดมุ่งหมาย "คลองมหาสวัสดิ์" คลองประวัติศาสตร์อันเก่าแก่เปรียบดั่งเส้นเลือดของชาวมหาสวัสดิ์ โดยในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ มหาโกษาธิบดี(ขำ บุญนาค) ดำเนินการขุดในปี พ.ศ.2400-2403 เพื่อใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์
ล่องเรือสัมผัสนาบัวอย่างใกล้ชิด
คลองสายนี้ขุดเชื่อมระหว่างแม่น้ำท่าจีนกับแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านในชุมชนนี้ส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ หรืออยู่ตามเรือกสวนไร่นา ซึ่งแม้วันนี้จะมีถนนตัดผ่านแต่ชาวบ้านก็ไม่ทิ้งการเดินทางโดยทางเรือ และด้วยสภาพธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม น้ำในคลองมีความสะอาดพอที่ชาวสวนจะใช้น้ำไปรดพืชพรรณต่างๆสองฝั่งคลอง ก็ทำให้ในปัจจุบันคลองมหาสวัสดิ์กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง

สำหรับผู้ที่ชอบเที่ยวไปชิมไปก็ไม่ควรพลาด เพราะเรือจะพาล่องผ่านบ้านเรือนต่างๆริมคลองทั้งบ้านไม้เก่าที่น่าอนุรักษ์ และบ้านปูนสมัยใหม่ ดูวิถีชีวิตของชาวมหาสวัสดิ์ แล้วก็พาล่องต่อไปยัง สวนบัว ที่มีการสาธิตการทำนาบัว และยังสามารถลงเดินตามคันดินชมสวนผลไม้นานาชนิดได้อีกด้วย นอกจากนั้นเรือก็จะพาไปชมสวนกล้วยไม้ หลากหลายพันธุ์หลายสีสัน ก่อนจะไปต่อกันที่ป้ายต่อไปก็คือ สวนผลไม้ ทั้งส้มโอ มะม่วง ขนุน และผลไม้อีกหลากชนิด ซึ่งจุดนี้เองที่จะสามารถเที่ยวไปชิมไป หรือจะซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ไม่ว่ากัน ก่อนที่เรือจะพาไปจบลงที่กลุ่มแม่บ้านเกษตรมหาสวัสดิ์ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อของฝากของใช้ของกินมากมายที่ผลิตเองโดยชาวแม่บ้านมหาสวัสดิ์

สนนราคาการนั่งเรือนั้นก็อยู่ที่ 300 บาท ต่อลำ หนึ่งลำนั่งได้ 6 คน พร้อมด้วยคนขับเรือที่รับตำแหน่งควบคู่ไปกับผู้นำชมและบรรยายเรื่องราวต่างๆ ให้เราฟังกันอย่างสนุกสนาน
หน้าตาของเรือพาล่องคลองมหาสวัสดิ์
*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 


การล่องเรือแม่น้ำบางปะกงนี้ มีเส้นทางจากวัดโสธรฯ-ตลาดบ้านใหม่-วัดจีนประชาสโมสร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มีมัคคุเทศก์บรรยายตลอดเส้นทาง ค่าบริการคนละ 100 บาท เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 120 ซ.ม.ไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันจันทร์-ศุกร์มีเรือให้บริการสองรอบคือเวลา 12.00 และ 14.00 น. ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีให้บริการเวลา 09.00-15.00 น. ออกทุกชั่วโมง สอบถามรายละเอียดโทร.0-3851-4333, 08-9668-1726

การล่องเรือแม่น้ำแม่กลอง คลองอัมพวา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมท่องเที่ยวสมุทรสงคราม โทร 08-1855-1684 เทศบาลตำบลอัมพวา โทร. 0-3475-1351

การล่องเรือรอบเกาะเกร็ด ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าบริการคนละ 60 บาท มีเรือให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ สองรอบคือ 12.00 และ13.00 ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เรือจะออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 10.00-17.00 น.

การล่องเรือที่ตลาดน้ำดอนหวาย ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. จังหวัดนครปฐม โทร.0-3475-2847-8

การล่องคลองมหาสวัสดิ์ ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ หมู่ที่ 1 บ้านสุวรรณาราม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม โทร.0-3429-7152, 08-1495-9091

กำลังโหลดความคิดเห็น