xs
xsm
sm
md
lg

เสียงเก่าๆในเงาปาย /ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี
วงดนตรีพื้นบ้าน สะล้อ ซอ ซึง ของกลุ่มผู้สูงอายุบ้านป่าขาม
...กลางฤดูหนาว เมืองปาย เมื่อเกือบ 15 ปีที่แล้ว

ตอนนั้นผมเพิ่งเรียนจบหมาดๆ มีไฟฝันแห่งพลังหนุ่มอยู่เต็มเปี่ยม จึงรวมตัวกลับเพื่อนกลุ่มหนึ่งออกเดินทางไปยังเมืองปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อค้นหาความฝันตามประสาผู้อ่อนด้อยประสบการณ์แต่เปี่ยมล้นไปด้วยความฝัน

1...

นั่นเป็นครั้งแรกที่ไปปาย พวกเราไปเช่าบ้านชาวบ้านอยู่ในราคาแสนถูกเดือนละไม่กี่ร้อยบาท

ครั้งนั้นเราไปหาที่ทางพร้อมกับวาดฝันว่าจะสร้างรีสอร์ทเล็กๆไว้เป็นที่พักกาย พักใจ สำหรับนักเดินทาง นักแสวงหาคอเดียวกัน

แต่ด้วยความที่ยังไม่พร้อมเรื่องเงินลงขัน ผมจึงจำเป็นต้องอำลาจากปายก่อนชั่วคราว เพื่อเดินทางไปรับจ๊อบเก็บเงินในเมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่ง

คืนสุดท้ายในครั้งแรกของปาย ผมกับเพื่อนๆจึงฉลองกันหนักหน่อย เริ่มดื่มกินกันแต่หัววัน ดื่มไปดื่มมา ได้ยินเสียงขบวนแห่งานบุญประเพณีท้องถิ่นของชาวบ้านผ่านมา ด้วยความกรึ่ม+ความคึก หลังร่ำสุราไปหลายจอก เราตกลงปลงใจออกไปร่วมชมและแจมในขบวนแห่กับชาวบ้านเขา โดยยึดแนวทางเด็กหลังห้อง เลือกเดินตามท้ายขบวนแห่ที่มีวงดนตรีพื้นบ้าน มีสะล้อ ซอ โหม่ง กลอง มีการร้องรำทำเพลง และมีการร่ำสุรากันอย่างสนุกสนาน

หลังจากผมเดินตามขบวนแห่ไปได้พักเดียว พี่ชาวบ้านคนหนึ่งก็เรียกผมไปร่วมวง พร้อมส่งแก้วสุราต้มพื้นบ้านใสแจ๋วเหมือนตาตั๊กแตนมาให้กระดกด้วยรอยยิ้มและมิตรไมตรี

ประทานโทษ สมัยนั้นยังไม่มีโฆษณา เลี้ยงเหล้าในงานบุญ = บาป ผมที่กรึ่มๆอยู่แล้ว จึงกระดกครึ่งแก้วรวดเดียวหมด
แต่เท่านั้นยังไม่พอ งานยังเข้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อพี่มือกลองคนหนึ่ง(ในขบวนมีกลองหลายใบ มีมือกลองหลายคน) ส่งกลองเล็กมาให้ผมตี พร้อมบอกว่า “ตีตามจังหวะเขาแหละ เอามันเข้าไว้”

และนั่นผมจึงสวมบทเอกมัน โพธิ์พันธุ์ทอง(มือกลองชื่อดังของเมืองไทย) เข้าไปร่วมตีกลองกับขบวนแห่ของชาวบ้านไปจนถึงที่วัดหลวง ก่อนเข้าไปร่วมงานบุญกับชาวบ้านอย่างสนุกสนานและประทับใจไม่เคยลืม...

2...

...เกือบ 15 ปี ผ่านมา ผมกลับไปปายหนล่าสุด

การมาปายหนนี้ ผมละทิ้งความฝันที่ไล่ตามเมื่อครั้งเพิ่งเรียนจบหมาดๆไปนานแล้ว

เพราะบางครั้งฝันกับความจริงมันก็เป็นสิ่งคนละเรื่องกัน เฉกเช่นกับเมืองปายในวันนี้ที่ดูเปลี่ยนไปจากอดีตมากมาย

บ้านเช่าหลังเก่าที่เคยไปมั่วสุม ถูกรื้อทำเป็นรีสอร์ท บ้านเรือนชาวบ้านแถวนั้นหายไปกลายเป็นร้านอาหาร รีสอร์ท เกสต์เฮาส์ ผับ ร้านขายของที่ระลึก คนปายแท้ๆดั้งเดิม ขายที่ ให้เช่าที่ แล้วย้ายออกไปอยู่นอกเมือง

ถนนสายที่ผมเคยไปร่วมขบวนแห่กลายเป็นถนนคนเดินที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว ร้านรวง ผับบาร์ และแผงขายสินค้ามากมาย ที่หลายๆคนว่าดูคล้ายถนนข้าวสารเข้าไปทุกที และดูเหมือนว่าสรรพสำเนียงแบบถนนข้าวสารได้วิ่งเข้ามากระทบโสตประสาทด้วยเสียงดังเอาการ กับเสียงดนตรีบลู แจ๊ซ ที่ดังมาจากร้านหนึ่งต้นถนนคนเดิน

นักท่องเที่ยวหลายคนเริ่มขยับแข้งขยับขาตาม นั่งท่องเที่ยวหลายคนเลือกนั่งซดเบียร์ ตามโต๊ะ เก้าอี้ของร้าน แบบเป็นเรื่องเป็นราว ผมยืนดูวงนี้เล่นอยู่ 2 เพลง จึงออกเดินต่อ ดูโน่นชมนี่ ส่วนหูก็คอยสดับรับฟังสรรพสำเนียงทางดนตรีต่างๆแห่งปายยุคใหม่ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เพราะที่ผ่านมามีคนกลุ่มหนึ่งพยายามจะทำให้ปายเป็นเมืองแห่งดนตรี จากที่เคยมีความพยายามจะทำให้ปายเป็นเมืองแห่งศิลปะมาแล้ว

นั่นจึงทำให้ปายยุคใหม่กลายเป็นพื้นที่สาธารณะ สำหรับใช้เป็นพื้นที่จัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ตวู้ดสต๊อก เร็กเก้-สกา ร็อค อะคูสติก รวมถึงการจัดหนังกลางแปลงแห่งเมืองปายที่เพิ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปลายปี 51

หลายกิจกรรมผู้จัดที่ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนปายแท้ๆ พยายามจะใส่จริตบางอย่างพ่วงเข้าไปให้สวยหรูดูดี ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต...เพื่อโลกสีเขียวบ้าง กิจกรรม...เพื่อลดโลกร้อนบ้าง กิจกรรม...เพื่อสิ่งแวดล้อมบ้าง คอนเสิร์ต...เพื่อความรักบ้าง

แน่นอนว่าเมื่อมองในด้านการท่องเที่ยว ถือเป็นการนำนักท่องเที่ยว นำรายได้ เข้ามาสู่ปาย

แต่หากมองปายในความเป็นปายเมืองท่องเที่ยวอันสงบงามเมื่อครั้งอดีต บางสิ่งบางอย่างคือของแปลกปลอมที่ถูกยัดเยียดเข้ามาโดยคนปายไม่มีส่วนร่วมใดๆหรือมีส่วนร่วมน้อยมาก

ที่สำคัญหลายกิจกรรมเท่าที่ผมได้พูดคุยกับคนปายแท้ๆ คนที่รักปายในอดีต และคนที่ไปลงหลักปักฐานอยู่ในเมืองปายจนแทบจะกลายเป็นคนปายไปแล้ว ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันไม่ใช่วัฒนธรรมปาย คนปายส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย คนปายได้รับรายได้จากงานเหล่านั้นบางเล็กน้อย เพราะเม็ดเงินส่วนใหญ่เข้ากระเป๋าผู้จัดและนายทุนต่างถิ่น แต่คนปายต้องมารองรับกับผลกระทบด้านต่างๆที่หลั่งไหลเข้ามา ทั้งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ ดังคำกล่าวของ อ.เกรียงศักดิ์ คำหอม คณะกรรมการเสริมสร้างศักยภาพความเข้มแข็งของชุมชน ชาวปายโดยกำเนิดผู้เฝ้ามองปายด้วยสายตาเป็นห่วง ที่ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน สกู๊ป "ปาย ในฝัน สวรรค์ของใคร?” (คอลัมน์“วาไรตี้ท่องเที่ยว” หน้าท่องเที่ยว เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 25 ก.พ. 51) ว่า

"ดนตรีเร็กเก้ในตอนนี้ผมคิดว่าเป็นจุดเปราะบางที่ต้องเร่งแก้ไขของปาย นายทุนที่นำเข้ามาเคยถามกันสักคนคำไหมว่าคนปายต้องการหรือเปล่า มาดีดกีตาร์ตามถนนคนเดินบ้าง มาดิ้นตามถนนบ้าง มองแล้วมันทุเรศตา ปายวันนี้จึงเหมือนกับต้นไม้โดนปุ๋ยเร่งแล้วจะหยุดชะงัก จนในที่สุดปายจะสูญเสียรูปแบบวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ดั้งเดิมจนหมดสิ้น"

และ "คงไม่มีคนปายคนไหนคิดกันหรอกว่า จะมองเห็นภาพปายเป็นดังทุกวันนี้"

นี่ไยมิใช่ปัญหาที่คนปายไม่ได้ทำ แต่ต้องมาพลอยบอบช้ำแบกรับปัญหาไปแบบจำยอม

3...

สรรพสำเนียงดนตรีบลู-แจ๊ซ ของวงนักร้องหัวฟู ทำให้ต่อมความคิดเกิดอาการอิมโพรไวซ์ไหลไปกับสภาพพื้นที่ ผมจึงเลือกเดินหารับชมและรับฟังสรรพสำเนียงดนตรีแห่งปายยุคใหม่บนถนนคนเดินไปเรื่อยๆ

นั่นดนตรีเปิดหมวก นี่กลุ่มนักศึกษามาร้องเพลงเชียร์หาเงินทำค่าย โน่นญี่ปุ่นมานั่งดูดบ้องกัญชา เอ้ย ไม่ใช่ เขามาเป่าเครื่องดนตรีไม้ทรงกระบอกกำลังฮิตในแนวดนตรีเวิลด์มิวสิค นู่นคุณลุงมาโชว์การเป่าขลุ่ยพื้นเมืองพร้อมขายซีดีไปในตัว นี่ผับเปิดเพลงเร็กเก้ดังกระหึ่ม นั่นร้านเหล้าเปิดเพลงร็อคลั่นร้าน ส่วนร้านนี้เปิดเพลงแจ๊ซเบาๆ ฟังชิลล์ ชิลล์ สบายหู

ผมเดินไปเรื่อยๆจนเลยวัดป่าขามไปแถวช่วงท้ายๆของถนนคนเดิน บรรยากาศแถวนี้ดูไม่พลุกพล่าน สินค้าส่วนใหญ่เป็นพวกอาหารการกินที่ดูแล้วให้บรรยากาศค่อนข้างแตกต่างออกไปจากถนนข้าวสาร โดยเฉพาะตรงลานเล็กๆริมตึกแถวหลังหนึ่ง ยังมีวงดนตรีพื้นบ้าน สะล้อ ซอ ซึง ของกลุ่มผู้สูงอายุบ้านป่าขาม มานั่งเล่นดนตรี ร้อง บรรเลง เพลงพื้นบ้านชาวเหนือกันอย่างสนุกสนานให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไป-มา บริจาคกันตามอัตภาพ

ดนตรีพื้นบ้านวงนี้ดูจะเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย

สำหรับผมเมื่อสดับรับสรรพสำเนียงดนตรีพื้นบ้านเหล่านี้แล้ว ใจหนึ่งอดนึกถึงบรรยากาศเก่าๆเมื่อครั้งมาแอ่วปายครั้งแรกและไปร่วมแจมตีกลองในขบวนแห่ของชาวบ้านในงานบุญ

ส่วนอีกใจหนึ่งรู้สึกมีหวังๆเล็กเนื่องจากในวงมีวัยรุ่น 2-3 คนมาร่วมเล่นดนตรีกับคุณลุงคุณป้า ซึ่งผมก็ได้แต่หวังว่าสรรพสำเนียงเสียงดนตรีพื้นบ้านปายเหล่านี้จะไม่ล้มหายตายจากเมืองปาย เหมือนกับเสน่ห์บางอย่างในเมืองปายที่สูญหายไปเนื่องจากถูกกระแสธุรกิจท่องเที่ยวแบบไทยๆในยุคทุนนิยมกลืนกิน
กำลังโหลดความคิดเห็น